แท็กซี่กร่างด่าแกร็บ ต่อยหน้าสาวโรงแรมเลือดออกปาก

หนุ่มแท็กซี่กร่างต่อยหน้าสาวพนักงานโรงแรม ขณะเดินผ่านวินที่ตัวเองประจำ คาดไม่พอใจเคยถูกวิจารณ์กรณีรุมทำร้ายแกร็บ ด้านผู้เสียหายยันเอาเรื่องถึงที่สุด

วันที่ 26 พ.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Sasiwimon Srikham ได้โพสต์ภาพตนเองในสภาพปากเจ่อ มีเลือดไหล พร้อมระบุข้อความ ว่า ถูกชายขับแท็กซี่ต่อยเข้าที่ใบหน้า ขณะที่กำลังเดินอยู่ริมฟุตปาธเพื่อไปทำงาน จู่ๆได้ยินเสียงหนุ่มคนขับแท็กซี่ตะโกนมาจากข้างหลังบอกตนว่า ให้เดินดีๆ แต่ตนได้ยินไม่ถนัดเนื่องจากใส่หูฟังโทรศัพท์ จากนั้นตนถามกลับไปว่าเดินไม่ดีแล้วจะเป็นอย่างไร เป็นการข่มขู่กันหรือไม่ แต่ก็ถูกผู้ชายคนดังกล่าวต่อยเข้าที่ใบหน้าจนล้ม พอได้สติก็พบว่ามีบาดแผลหลายแห่ง

จากนั้นจึงตัดสินใจโพสต์ภาพใบหน้าลงบนเฟซบุ๊ก ประกาศขอคลิปจากผู้เห็นเหตุการณ์เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ  หลังจากภาพถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้างถึงการกระทำอันป่าเถื่อนของหนุ่มขับแท็กซี่รายนี้

ล่าสุด วานนี้ (25 พ.ค.61) ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปตรวจสอบที่สถานีตำรวจภูธรหัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ จนทราบว่าผู้เสียหายคือ นางสาวศศิวิมล ได้เดินทางมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนแล้ว แต่เนื่องจากนางสาวศศิวิมล ได้รับบาดเจ็บจึงยังไม่ได้สอบปากคำโดยละเอียดและได้ส่งตัวไปรักษาบาดแผลที่โรงพยาบาลหัวหินแล้ว

โดย นางสาวศศิวิมล เผยว่า ตนไม่เคยรู้จักหรือเคยพูดคุยกับหนุ่มขับแท็กซี่รายนี้มาก่อน แต่เคยหน้าอยู่บ้างเพราะเป็นแท็กซี่ที่มักมาจอดตรงคิวแท็กซี่ใกล้ที่พัก และเพิ่งมาทราบว่าแท็กซี่รายนี้เคยมีคลิปด่าและรุมกระทืบแกร็บแท็กซี่ และจากกรณีนั้นตนเคยเสนอความคิดเห็นในฐานะของคนที่ใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างเท่านั้น ไม่ได้รุนแรงอะไร

https://youtu.be/j6bWvpGGZ-I

ส่วนเรื่องการบาดเจ็บขณะนี้ได้เย็บแผลที่ศรีษะ 3 เข็ม ในกระพุ้งแก้ม 1 เข็ม และริมฝีปากอีก 1 เข็ม และยังมีอาการมึนๆอยู่บ้าง ยืนยันจะเอาเรื่องถึงที่สุด และจำได้ชัดเจนว่าใครเป็นคนลงมือ ด้านตำรวจเจ้าของคดีได้นัดผู้เสียหายมาสอบปากคำอีกครั้งในวันที่ 26 พ.ค.นี้

ส่วนผู้ที่ก่อเหตุขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวแล้วว่าเป็นใครอยู่ในขั้นตอนเชิญตัวมาสอบสวน จากนั้นจะดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป สำหรับสาเหตุคาดว่าคนขับแท็กซี่ไม่พอใจที่ผู้บาดเจ็บเคยคอมเม้นท์เรื่องรถรับจ้างที่เรียกผ่านแอพลิเคชั่นแกร็บ ซึ่งเรื่องดังกล่าวกำลังเป็นที่ถกเถียงกันระหว่างผู้ขับรถแท็กซี่และกลุ่มผู้ให้บริการแกร็บ