SHARE

คัดลอกแล้ว

ตำรวจ สน.ปทุมวัน นำตัว 2 นักศึกษา ทำกิจกรรม “ซ้อมอดอยากรอเลือกตั้ง” ลงบันทึกประจำวัน เบื้องต้นยังไม่แจ้งข้อหา แต่หากพบว่าการกระทำเข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ หรือขัดต่อคำสั่งของหัวหน้า คสช. ก็จะแจ้งความดำเนินคดีในภายหลัง

วันที่ 29 พ.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกิจกรรม “ซ้อมอดอยากรอเลือกตั้ง” ด้วยการกินมาม่า ที่สกายวอล์คแยกปทุมวัน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา โดยมี พริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และ ธนวัฒน์ วงค์ไชย ประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และแนวร่วมกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ร่วมทำกิจกรรมดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัวนายพริษฐ์ และธนวัฒน์ ไปยังที่ สน.ปทุมวัน เพื่อสอบถามและลงบันทึกประจำวัน

ซึ่งนายพริษฐ์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของตนว่า “เจ้าหน้าที่ตำรวจนัดมาสอบถามรายละเอียดเพื่อลงบันทึกประจำวัน จึงให้ลงไปว่า มายืนกินมาม่าสองคน จะโดนฟ้องหรือไม่รอรับชมตอนต่อไป”

ส่วนนายธนวัฒน์ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กของตนว่า “เมื่อการยืนกินมาม่ากลายเป็นภัยต่อความมั่นคง การยืนกินมาม่าของเราในวันนี้ เป็นการยืนกินมาม่าโดยบริสุทธิ์ใจ เพื่อฝึกซ้อมความอดอยากระหว่างรอการเลือกตั้งครับ หากเรายังคงอยู่ภายใต้การบริหารงานของรัฐบาลทหารที่บริหารเศรษฐกิจของเราอย่างล้มเหลวต่อไปเรื่อยๆ และการเลือกตั้งก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะถูกกำหนดเสียทีเช่นนี้ ทางออกเดียวของเรา คือ ต้องมีการเลือกตั้งให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นคือ เราต้องมีการเลือกตั้ง ‘ภายในปีนี้’ ครับ

“เศรษฐกิจของประเทศไทยดูเหมือนว่าจะเติบโตไปได้ดีที่ระดับ 3-4% แต่นั่นก็เป็นระดับที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านของเราที่เติบโตในระดับ 5-8% อีกทั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจของเรานั้น กระจุกผลประโยชน์ให้กับคนรวย ชนชั้นนำ และภาคธุรกิจรายใหญ่แต่เพียงเท่านั้น หากแต่การเติบโตนั้นไม่ได้กระจายไปสู่คนส่วนใหญ่ของประเทศ ดังเห็นได้จากความเหลื่อมล้ำของไทยที่เหลื่อมล้ำสูงเป็นอันดับ 3 ของโลกรองจากรัสเซียและอินเดีย

“นอกจากนี้ ยังมีระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น การขาดดุลงบประมาณที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จาก 2.5 แสนล้านบาทในปี พ.ศ.2557 สู่ 5.5 แสนล้านบาทในปี พ.ศ.2560 และยังมีปัญหาเชิงตัวเลขทางเศรษฐกิจอีกมากมายที่รัฐบาลไม่เคยพูดถึง

“เราขอยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่าเรามาเพื่อยืนกินมาม่าเฉยๆ ครับ นี่ไม่ใช่กิจกรรมทางการเมือง นี่ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง และการยืนกินมาม่าไม่ได้เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศแต่อย่างใด เว้นเสียแต่ว่าคณะรัฐประหารจะมองว่าการยืนกินมาม่าเป็นภัยต่อความมั่นคงในเก้าอี้ของพวกท่านเอง

“ทางตำรวจ สน.ปทุมวัน แจ้งว่าในวันนี้จะไม่มีการตั้งข้อหากับพวกเราทั้ง 2 คน แต่อย่างใด แต่หากฝ่ายกฎหมายของ คสช. และทาง สน. พบว่าการกระทำของเรา เข้าข่ายมีความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ หรือขัดต่อคำสั่งของหัวหน้า คสช. ก็จะ แจ้งความดำเนินคดีในภายหลัง

“ขอบคุณพี่โบว์และทุกคนที่มาให้กำลังใจ ร่วมสังเกตุการณ์ และไปส่งลงบันทึกประจำวันที่ สน.ปทุมวัน มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ ท้ายที่สุดนี้ สิ่งที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นในประเทศนี้ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว นั่นคือ การกินมาม่าได้กลายเป็นภัยต่อความมั่นคงของคณะรัฐประหารไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ”

ภาพจาก Banrasdr Photo

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า