SHARE

คัดลอกแล้ว

ศาลฎีกานักการเมือง รับฟ้องคดีที่ ป.ป.ช.ฟ้องนายทักษิณ ให้กระทรวงการคลังฟื้นฟูทีพีไอโดยไม่มีอำนาจ พร้อมนัดเพื่อสอบคำให้การครั้งแรก 22 มิ.ย.นี้ หากไม่มาสามารถกับกุมดำเนินคดีได้ทันที

วันที่ 6 มิ.ย.2561 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง องค์คณะ 9 คน นัดฟังคำสั่งรับ-ไม่รับฟ้อง คดีหมายเลขดำ อม.40/2561 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายทักษิณ ชินวัตร อายุ 69 ปี อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลย ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริตเป็นเหตุให้ผู้หนึ่งผู้ใดเสียหายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

จากกรณีที่นายทักษิณให้ความเห็นชอบกระทรวงการคลังเข้าเป็นผู้บริหารแผนฟื้นฟูบริษัทอุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทีพีไอ ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน จึงเป็นการกระทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ของกระทรวงการคลัง เพราะกระทรวงการคลังไม่มีอำนาจเข้าไปบริหารบริษัทเอกชน อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2546 มาตรา 10 เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ระบบราชการ

คดีนี้ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดเมื่อวันที่ 16 ก.ค. 2553 และได้ยื่นฟ้องคดีเองเมื่อวันที่ 7 พ.ค. 2561 ที่ผ่านมา พร้อมยื่นเอกสารหลักฐานที่มีมติชี้มูลความผิดอาญานายทักษิณ ให้ศาลพร้อมคำฟ้อง

ก่อนพิจารณาคำฟ้องวันนี้องค์คณะทั้ง 9 คน ก็ได้ประชุมกันภายในเพื่อเลือกผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน 1 คนก่อน แล้วจึงพิจารณาคำฟ้องซึ่งเห็นว่า แม้การฟ้องไม่มีตัวจำเลย แต่จำเลยคดีนี้ก็ถูกยื่นฟ้องในคดีของศาลฎีกานี้ซึ่งได้ออกหมายจับไว้แล้ว ขณะที่คำฟ้องคดีก็ถูกต้องตามกฎหมาย และ ป.ป.ช.โจทก์ก็มีอำนาจฟ้อง ศาลจึงมีอำนาจตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ( วิ อม.) พ.ศ.2560 มาตรา 27 ที่จะประทับรับฟ้องคดีไว้พิพากษาได้ จึงมีคำสั่งให้ประทับฟ้องคดีไว้พิจารณาเพื่อมีคำพิพากษาต่อไป โดยให้สำเนาคำฟ้องส่งให้จำเลยและปิดหมายแจ้งจำเลยทราบตามที่อยู่ในฟ้อง (บ้านพักย่านจรัญสนิทวงศ์) ให้การปิดหมายมีผลทันที

โดยองค์คณะฯ กำหนดนัดพิจารณาครั้งแรก เพื่อสอบคำให้การจำเลย ในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ เวลา 08.30 น. ทั้งนี้ หากวันนัดพิจารณาครั้งแรก นายทักษิณ ไม่มาศาล ในวันนัดดังกล่าวองค์คณะฯ ก็มีอำนาจพิจารณาออกหมายจับให้ติดตามตัวมาดำเนินคดี และตาม วิ อม. มาตรา 28 วรรคสอง บัญญัติว่า หากออกหมายจับแล้ว 3 เดือน ยังไม่ได้ตัวจำเลย ศาลมีอำนาจพิจารณาได้โดยไม่ต้องกระทำต่อหน้าจำเลย (ดำเนินกระบวนพิจารณาลับหลังจำเลย) แต่ไม่ตัดสิทธิที่จำเลยจะแต่งตั้งทนายความดำเนินการแทนตนได้

คดีนี้ถือเป็นสำนวนที่ 7 ขอบนายทักษิณ ที่ถูกยื่นฟ้องนับจากพ้นจากตำแหน่งทางการเมืองหลังการรัฐประหารปี 2549

สำหรับองค์คณะผู้พิพากษาทั้ง 9 คน ประกอบด้วยนางอุบลรัตน์ ลุยวิกกัย รองประธานศาลฎีกา, นายไสลเกษ วัฒนพันธุ์ รองประธานศาลฏีกา, นายวิชัย เอื้ออังคณากุล รองประธานศาลฏีกา, นายธนสิทธิ์ นิลกำแหง รองประธานศาลฏีกา, นายพรเทพ อัมพรกลิ่นแก้ว รองประธานศาลฏีกา, นายชำนาญ รวิวรรณพงษ์ ประธานแผนกคดีล้มละลายในศาลฎีกา, นายพิศล พิรุณ ประธานแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในศาลฎีกา, นายสุนทร ทรงฤกษ์ ประธานแผนกคดีภาษีอากรในศาลฎีกา และนายชัยยุทธ ศรีจำนงค์ ประธานแผนกคดีผู้บริโภคในศาลฎีกา

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า