ศาลฯ กลับคำพิพากษาคดีเผาบ้านกะเหรี่ยงแก่งกระจาน ชี้เจ้าหน้าที่ใช้อำนาจเกินกว่าเหตุ ให้เพิ่มเงินชดเชย 5 หมื่นบาท
วันที่ 12 มิ.ย.2561 ศาลปกครองสูงสุด นัดฟังมีคำพิพากษาในคดีที่นายโคอิ มีมิ หรือ ปู่คออี้ ชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ ในพื้นที่ป่าแก่งกระจาน กับพวกรวม 6 คน ฟ้องกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ชดใช้ค่าเสียหายจากกรณีพนักงานเจ้าหน้าที่รื้อถอนเข้าเผาทำลายสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินซึ่งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน โดยฟ้องตั้งแต่เดือนพ.ค.2555 ที่ผ่านมา
ศาลได้พิจารณาถึงพฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิดในคดีนี้ ประกอบข้อเท็จจริงปรากฏว่า พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมอุทยานฯ สามารถใช้ดุลพินิจไม่ใช้มาตรการที่มีความรุนแรงกระทำต่อสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินของผู้ฟ้องคดีทั้ง 6 ได้ แม้จะมีกฎหมายให้อำนาจไว้ก็ตาม แต่การเผาทำลายสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินจึงทำให้ผู้ฟ้องคดีทั้ง 6 ต้องสูญเสียปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต ถือเป็นพฤติการณ์ที่มีความร้ายแรงกระทบกระเทือนสาระสำคัญแห่งสิทธิในการดำรงชีวิตและสิทธิในทรัพย์สินอันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของบุคคลตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

แฟ้มภาพ จนท.อุทยานฯ เผาทำลายทรัพย์สินชาวกะเหรี่ยงบางกลอย
จึงมีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นเป็นให้กรมอุทยานฯ (ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้ฟ้องคดีที่ 1 เป็นเงิน 51,407 บาท, ผู้ฟ้องคดีที่ 2 เป็นเงิน 51,032 บาท, ผู้ฟ้องคดีที่ 3 เป็นเงิน 51,407 บาท, ผู้ฟ้องคดีที่ 4 เป็นเงิน 45,302 บาท, ผู้ฟ้องคดีที่ 5 เป็นเงิน 50,807 บาท และผู้ฟ้องคดีที่ 6 เป็นเงิน 51,032 บาท
หากผู้ฟ้องคดีรายใดได้รับค่าสินไหมทดแทนสำหรับสิ่งปลูกสร้างและทรัพย์สินกรณีนี้ไปแล้วให้หักออกจากค่าสินไหมทดแทนตามคำพิพากษานี้ ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษา นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น
‘ปู่คออี้-พวก’ ไร้เอกสารยืนยัน ทำให้ไม่มีสิทธิในพื้นที่ป่าแก่งกระจาย
ทั้งนี้วันที่ 13 มี.ค.2561 ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาให้กรมอุทยานแห่งชาติฯ ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเผาบ้านชาวกะเหรี่ยง คนละ 10,000 บาท ชี้ ‘ปู่คออี้-พวก’ ไร้เอกสารยืนยัน ทำให้ไม่มีสิทธิในพื้นที่พิพาท โดยตุลาการผู้แถลงคดี เห็นว่า แม้ว่าผู้ฟ้องจะอ้างว่า บรรพบุรุษตั้งถิ่นฐานมาช้านาน แต่ไม่มีเอกสารยืนยันได้ว่าครอบครองที่ดินบริเวณดังกล่าวมาก่อนประกาศเขตอุทยานแห่งชาติ เมื่อปี 2524 จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามติ ครม. เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 2553 ทำให้ผู้ฟ้องทั้งหกคนไม่มีสิทธิในพื้นที่ตามที่อ้าง ส่วนการดำเนินการรื้อถอนและเผาทำลายทรัพย์สิน เป็นการดำเนินการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายของ พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 จึงเห็นควรที่ศาลปกครองสูงสุดจะมีคำพิพากษาให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนคนละ 10,000 บาท
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : ‘ปู่คออี้’ ไม่มีสิทธิในที่ดินพิพาทแก่งกระจาน
ขอบคุณภาพจาก: สำนักข่าวชายขอบ