พีมูฟ เฮ! รัฐเร่งออกกฎหมายให้ทำกินในพื้นที่ป่า แต่ไม่ให้กรรมสิทธิ์

รัฐบาลเห็นชอบแก้ปัญหาที่ดินทำกินในเขตป่า ให้ชุมชนเดิมอยู่อาศัยได้ แต่ไม่ให้กรรมสิทธิ์ ข่าวดีกลุ่มพีมูฟ รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ เชื่อแก้ปัญหาได้เกือบ 90 เปอร์เซ็นต์

วันนี้ (18 มิ.ย. 61) คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หรือ คทช. ครั้งที่ 2/2561 ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธาน มีมติเห็นชอบ 2 เรื่องสำคัญ คือ

1. ชุมชนในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ที่อยู่ในลุ่มน้ำชั้น 3, 4 และ 5 หลังคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 2541  อนุญาตให้ชุมชนอยู่อาศัยและทำกินแบบแปลงรวม โดยออกแบบการใช้พื้นที่ร่วมกันระหว่างชุมชน และหน่วยงานรัฐ โดยชุมชนต้องดูแลรักษา และใช้ประโยชน์พื้นที่ในลักษณะเกื้อกูลต่อการอนุรักษ์ แต่จะไม่ให้กรรมสิทธิ์
2. ชุมชนที่อยู่ในเขตป่าอนุรักษ์ ก่อนและหลังมติครม. เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2541 จะได้รับการพิจารณา ต้องเป็นชุมชนที่อาศัยอยู่เดิม ไม่มีการจัดที่ดินให้แก่บุคคลภายนอกพื้นที่ กำหนดขอบเขตพื้นที่ทำกินที่เป็นที่ยอมรับร่วมกัน และเป็นการให้สิทธิ์ทำกิน โดยไม่ให้เอกสารสิทธิ์

พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุด้วยว่า แม้ยังไม่มีกฎหมายที่จะอนุญาตให้ประชาชนเข้าไปอาศัยทำกินในป่า แต่ในความเป็นจริงมีประชาชนเข้าไปอยู่อาศัย จำนวน 2,700 ชุมชน พื้นที่ 5.9 ล้านไร่ วันนี้ที่ประชุมจึงเห็นชอบให้ผู้ที่อยู่เดิมสามารถทำกินได้โดยใช้ คำสั่งคสช.ที่ 66/2557 ผ่อนผันให้อยู่ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อกฎหมายใหม่ผ่านความเห็นชอบจาก สภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. จะมีการเสนอให้ครม.เห็นชอบอีกครั้ง ซึ่งพื้นที่ที่ยังมีปัญหาคงจะได้รับการแก้ไขเกือบทั้งหมด

(การชุมนุมของกลุ่มพีมูฟ เรียกร้องให้รัฐแก้ปัญหาที่ทำกิน)

https://www.facebook.com/Pmove2011/photos/a.821008727951697.1073741829.819942928058277/2036106166441941/?type=3

เมื่อถามว่า ผลของที่ประชุม ช่วยแก้ไขกรณีกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ ออกมาเรียกร้องให้ลดความเหลื่อมล้ำในที่ดินทำกินก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ พล.อ.สุรศักดิ์ กล่าวว่า พีมูฟเสนอให้แก้ปัญหาให้กับหมู่บ้าน 486 หมู่บ้าน ซึ่งกระจายอยู่ในพื้นที่ป่าสงวน ป่าอนุรักษ์และพื้นที่สาธารณะ ซึ่งแนวทางของ คทช.ในวันนี้จะครอบคลุมพื้นที่ที่กลุ่มพีมูฟเสนอได้เกือบ ร้อยละ 80-90 ยกเว้นกรณีเป็นคดีที่สิ้นสุดไปแล้ว ทางกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ ก็จะรับมาดูแลให้เป็นรายกรณีไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แกนนำพีมูฟ โวย ถูกลิดรอนสิทธิ์ หลังทหารขวาง ไม่ให้ไป กทม.