SHARE

คัดลอกแล้ว

มาตามดูกันต่อ กับย้อนรอยคดีดังสะเทือนขวัญ Part 2 ว่าแต่ละคดีมีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง?

คดีข่มขืนสาวท้องต่อหน้าแฟนแล้วโยนลงเหว สถานะทางคดี ศาลเยาวชนพิพากษาจำคุก 25 ปี 36 เดือน

วันที่ 31 ม.ค. 59 สภ.ศรีนครินทร์ จ.พัทลุง รับแจ้งพบศพถูกฆ่าฝังดินกลางป่า เชิงเขาบรรทัด ซึ่งห่างจากถนนสายเขาคราม-บ้านกงหรา ต้องเดินเท้าเข้าป่าประมาณ 7 กิโลเมตร ที่เกิดเหตุพบศพ นายภาสกร คงสวัสดิ์ อายุ 19 ปี ถูกคนร้ายใช้ผ้าผูกปิดตา ก่อนที่จะใช้ก้อนหินตีที่ใบหน้า ลำตัว และยิงด้วยปืนลูกซองที่หน้าอก 1 นัด ก่อนที่จะขุดหลุมฝังทิ้งไว้ที่กลางป่า

แฟนสาวของผู้ตายเล่าว่า ช่วงวันที่ 29 ม.ค. 59 แก๊งวัยรุ่นในหมู่บ้านที่รู้จักกัน ลวงนายภาสกรและตนซึ่งเป็นแฟนสาวขณะท้องได้ 3 เดือน ให้ไปหาที่บ้าน หลังจากนั้นก็ใช้อาวุธขู่บังคับ นำตัวนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ เข้าไปในป่าสวนยาง ซึ่งห่างจากหมู่บ้านประมาณ 7 ก.ม. เมื่อเข้าไปถึงกลางป่าลึก กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ได้ช่วยกันขุดหลุมให้นายภาสกรมองดูหลุมฝังศพตัวเอง ขณะเดียวกันก็ผลัดเปลี่ยนกันข่มขืนตนต่อหน้าแฟนหนุ่มด้วย

แฟนสาวของผู้ตายเล่าต่อว่า หลังจากก็นำตัวนายภาสกรไปนั่งปากหลุม เอาผ้าปิดตา ใช้ปืนยิงจนเสียชีวิตและใช้มีดแทงซ้ำ ก่อนช่วยกันฝังศพไว้กลางป่าจากนั้นก็นำตนนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ลงจากเขา ไปเปลี่ยนเป็นรถกระบะ ขับพาไปที่เขาพับผ้าประมาณ 20 กม. เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุกลุ่มวัยรุ่นดัวกล่าวก็จับตัวลงจากรถและใช้ไม้ตี ทุบด้วยก้อนหินและใช้มีดแทงตามลำตัว กว่า 4 แผล ก่อนจะคิดว่าตนเสียชีวิต และโยนร่างลงเหวลึกริมถนนเขาพับผ้า แต่ตนยังไม่เสียชีวิต จึงพยายามคลานขึ้นจากเหวมาขอความช่วยเหลืออยู่บนถนน จนมีคนนำตัวส่งโรงพยาบาล

ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดพัทลุง อ่านคำพิพากษา โดยจำเลยเป็นเยาวชน 3 คน จำเลยที่ 1-2 (ผู้ชาย) ทำผิดหลายกรรมต่างกัน ขณะกระทำความผิดจำเลยทั้งสามมีอายุกว่า 15 ปี แต่ต่ำกว่า 18 ปี จึงลดมาตราส่วนโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยที่ 1-2 คนละ 25 ปี 36 เดือน และปรับคนละ 250 บาท ส่วนจำเลยที่ 3 (ผู้หญิง) ซึ่งเป็นคนโทรเรียกให้ผู้เสียหายออกมา จำคุก 4 เดือน และปรับ 1,500 บาท

คดี ไขควงแทงกะโหลกเด็กศิลปากร สถานะทางคดี อยู่ระหว่างสืบพยานฝ่ายโจทย์ 42 ปาก

ช่วงกลางดึกวันที่ 25 ก.พ. 60 นายธีระพงษ์ ฐิตะฐาน หรือ ปอนด์ อายุ 24 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตเพชรบุรี ถูกกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี บุกเข้าไปรุมทำร้ายในหอพักและถูกแทงด้วยไขควงเข้าที่กระโหลกจนเสียชีวิตในอีก 5 วันต่อมา ซึ่งเป็นการทำร้ายผิดตัว และเพื่อนที่อยู่ด้วยกันในหอพักอีก 4 คนได้รับบาดเจ็บ

เมื่อวันที่ 5 มิ.ย 60 พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายกรกนก วรัญญสาธิต หรืออาร์ท อายุ 22 ปี นายเดชาธร มูลมณี หรือไบร์ท อายุ 20 ปี สิบตรีชลินธร แก่นสาร หรือบิ๊ก อายุ 20 ปี นายญาณวัฒน์ ทิพย์เที่ยงแท้ หรือปาล์ม อายุ 19 ปี นายเรวัต วงศ์ขยาย หรือเต้ย อายุ 20 ปี นายกฤตนันท์ เนียมเงิน หรือปาล์ม อายุ 20 ปี นายเศรษฐา อุปถัมภ์ หรือเติ้ล อายุ 26 ปี นายธีรพัฒน์ โพธิสุทธิ์ หรืออั้ม อายุ 19 ปี นายธีรธานนท์ ทัพนาค หรือนนท์ อายุ 20 ปี นายภาคิน เสือนาค หรือมิค อายุ 18 ปี นายศุภสิทธิ์ ดีท้วม หรือแป้ง อายุ 20 ปี นายอธิบดี กุญแจทอง หรือซีม อายุ 21 ปี นายชินกิตติ์ อรรถวรรธน หรือกิต อายุ 18 ปี และ น.ส.มาริสา เงินทอง หรือลูกหมี อายุ 20 ปี เป็นจำเลยที่ 1-14

ในฐานความผิดร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ร่วมกันทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นเกิดอันตรายแก่กาย ร่วมกันบุกรุกเข้าไปในเคหะสถานของผู้อื่นโดยไม่มีเหตุอันควรโดยมีอาวุธโดยใช้กำลังประทุษสลายร่วมการพกพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้านทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร

ต่อมาวันที่ 6 มิ.ย 60 ศาลมีคำสั่งปล่อยชั่วคราวจำเลยที่ 1 และจำเลยที่ 3 -14 ตีหลักทรัพย์คนละ 7 แสนบาทพร้อมกำหนดเงื่อนไขการปล่อยชั่วคราวห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ขณะที่จำเลยที่ 2 หรือ นายเดชาธร มูลมณี หรือไบร์ท ซึ่งเป็นคนใช้ไขควงแทงกะโหลกน้องปอนด์ ไม่ได้รับการประกันตัวและยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ

ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างสืบพยานฝ่ายโจทย์ 42 ปาก ซึ่งเพิ่งสอบไปได้เพียง 12-13 ปาก ด้วยฝ่ายคู่กรณีมีทนายถึง 14 คนในการสอบ จึงทำให้การสอบมีการล่าช้า

คดีบังฟัต ฆ่ายกครัว 8 ศพ กระบี่ สถานะทางคดี ศาลพิพากษาประหารชีวิตบังฟัต และพวกรวม 6 คน จำเลยยื่นอุทธรณ์

วันที่ 10 ก.ค. 2560 บังฟัตพร้อมพวกรวม 8 คน บุกเข้าไปจับตัวนายวรยุทธ สังหลัง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ตำบลบ้านกลาง อำเภออ่าวลึก จ.กระบี่ และคนในครอบครัวรวม 11 คน ไว้ในบ้าน จากนั้นใช้อาวุธปืนของนายวรยุทธจ่อยิงศีรษะทีละคน แต่มีผู้รอดชีวิต 3 คน โดยสาเหตุเกิดจากความขัดแย้งเรื่องโฉนดที่ดินที่พ่อตานายวรยุทธนำไปจำนองไว้ที่บังฟัต จนกระทั่งมีการผ่อนชำระหมด แต่บังฟัตนำที่ดินไปจำนองไว้ที่ธนาคารไม่สามารถนำหลักฐานที่ดินกลับมาคืนให้ได้ จนมีการทวงถามกันหลายครั้งสร้างความขัดแย้ง บังฟัตจึงวางแผนก่อเหตุ

เมื่อวันที่ 28 มี.ค.61 ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดกระบี่พิพากษาสำหรับจำเลยในคดีนี้ทั้งหมด 8 คน โดยจำเลยที่ 1-6 มีความผิดฐานปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ศาลได้ตัดสินลงโทษประหารชีวิตสถานเดียว ประกอบด้วย 1.นายซูริก์ฟัต หรือ บังฟัต บ้านนบวงศ์กุล อายุ 41 ปี 2.นายคมสรรค์ หรือ ม่อน เวียงนนท์ อายุ 36 ปี 3.นายอับดุลเลาะ หรือ เลาะห์ ดอเลาะ อายุ 30 ปี. 4.นายอรุณ หรือ กีร์ ทองคำ อายุ 29 ปี 5.นายประจักษ์ หรือ จักร์ บุญทอย อายุ 36 ปี 6.นายธนชัย หรือ บังโกบ จำนอง อายุ 41 ปี

ส่วนจำเลยที่ 7 คือ นายธวัฒชัย หรือ ชัย บุญคง อายุ 37 ปี มีความผิดฐานร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ศาลลงโทษจำคุก 1 ปี ฐานมีอาวุธปืนจำคุก 6 เดือน ฐานบุกรุกในเวลากลางคืนจำคุก 3 เดือน รวมจำคุก 1 ปี 9 เดือน และจำเลยที่ 8 คือ น.ส.ชลิดา หรือดา สังข์โชติ อายุ 41 ปี ภรรยานายซูริก์ฟัต มีความผิดฐานมีอาวุธปืน ศาลสั่งลงโทษจำคุก 12 เดือน

ส่วนคดีส่วนแพ่ง ให้จำเลยที่ 1-6 ร่วมกันชำระเงิน แก่ผู้ร้องที่ 1 คือ นายสนาน สังหลังและผู้ร้องที่ 2 คือนางห้าแกฉะ บุตรหลี จำนวน 630,000 บาท ผู้ร้องที่ 3 คือ นายจรีย์ บุตรเติบ จำนวน 1,445,000 บาท ผู้ร้องที่ 4 คือ นางอุไร พัฒแก้ว จำนวน 962,500 บาท ผู้ร้องที่ 5 นางสาวอัญชลี บุตรเติบ จำนวน 2,402,500 บาท ผู้ร้องที่ 6 คือ ลูกสาวคนเล็กของนางสาวอัญชลี บุตรเติบ จำนวน 420,000 บาท ผู้ร้องที่ 7 คือ ลูกสาวคนกลางของนางสาวอัญชลี บุตรเติบ จำนวน 720,000 บาท และแก่ผู้ร้องที่ 8 คือ ลูกสาวคนโตของนางสาวอัญชลี บุตรเติบ จำนวน 960,000 บาท ส่วนทนายความกลุ่มของผู้ต้องหาขอใช้สิทธิ์ในการยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วันเพื่อต่อสู้คดีต่อไปทั้ง 8 คน

 

 

 

 

 

ติดตามข่าวที่น่าสนใจได้ที่ http://www.workpointnews.com

Facebook / https://www.facebook.com/WorkpointNews/

Instagram / https://www.instagram.com/workpointnews/

Twitter / https://twitter.com/WorkpointShorts

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า