26 มิถุนายน 2018

สถานการณ์ล่าสุด : เกาะติดช่วยชีวิต 13 นักเตะติดถ้ำหลวง

SHARE

คัดลอกแล้ว

เปิดไทม์ไลน์ตั้งแต่ต้นจนถึงล่าสุด

เกาะติดช่วยชีวิต นักบอลเด็กและโค้ชทั้งหมด 13 ชีวิต ติดอยู่ภายใน ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย ไม่สามารถออกมาได้เนื่องจากน้ำท่วมปิดทางเข้าออก

?สรุปสถานการณ์ :  พบทีมหมูป่าทั้ง 13 คนแล้ว ทุกคนปลอดภัย / เวลาที่พบทีมหมูป่า 22.30น.ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้พาทั้ง 13 คนออกจากถ้ำ

[วันนี้ 3 ก.ค.61]

16.30น.—มีรายงานเข้ามาว่า ขณะนี้ทีมหมูป่าทั้ง 13 คนกำลังอยู่ในช่วงปรับสภาพร่างกาย และฝึกการหายใจด้วยขวดอากาศเมื่ออยู่ใต้น้ำ โดยถ้าพร้อม พี่เลี้ยงอาจจะสามารถพาออกมาได้อย่างเร็วที่สุดใน 48 ชั่วโมง โดยวิธีการนำออกมาในขณะนี้ จะให้เด็กใช้ขวดอากาศร่วมกับหน่วยซีล โดย 1 ขวดจะมีสายอากาศหายใจ 2 สาย นั่นคือของนักดำน้ำ 1 สายและของเด็กอีก 1 สาย โดยระยะทางที่ต้องดำน้ำต่อเนื่องไกลที่สุดคือ 200 เมตร

15.00น.—แพทย์ของหน่วยซีลได้เข้าไปเช็คสุขภาพของทีมหมู่ป่าทั้ง 13 คนแล้ว โดยพันโท นายแพทย์ ภาคย์ โลหารชุน เเพทย์หน่วยซีล ได้เปิดเผยว่าสมาชิกทีมหมูป่าที่อ่อนเพลียมีเพียง 2 คน ในขณะที่อีก 11 คนร่างกายปกติ

โดยในขณะนี้มีนักดำน้ำของซีลเข้าไปดูแลเด็กทั้งสิ้น 7 นาย โดยในจำนวนดังกล่าว มีหมอภาคย์ ที่เป็นหมอทหารที่จบซีล 1 นาย และพยาบาลหน่วยซีลอีก 1 นาย ส่วนความคืบหน้าในส่วนอื่นๆ ในวันนี้สามารถลำเลียงขวดอากาศจากนอกถ้ำไปที่โถง 3 ได้เพิ่มแล้ว 45 ขวด ส่วนการนำสายโทรศัพท์ไปถึงพัทยาบีชยังมีอุปสรรคล่าช้า ยังไปไม่ถึง

14.40น.—กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ได้จัดเตรียมสเเตนบายรถตู้ไว้ทั้งหมด 5 คัน เพื่อบริการญาติของน้องๆ ตามไปที่โรงพยาบาล หลังจากภายหลังที่ลำเลียงน้องๆ ออกจากถ้ำเเละนำตัวส่งโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ทางอากาศเเล้ว หลังจากนี้ก็จะมีการสนับสนุนค่าใช้จ่ายพื้นฐานให้ครอบครัวละ 2,000 บาท เนื่องจากครอบครัวของน้องๆ ส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง และได้หยุดงานเป็นเวลานาน

13.55น.—นายศุภณัฐ ฐิติกาล เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนี้ต้องการ full face mask สำหรับดำน้ำจำนวน 15 ตัว เพื่อนำมาให้น้องๆ ทั้ง 13 คนใช้หายใจทางจมูกได้ตามปกติหากต้องดำน้ำออกมา โดยต้องการไซส์ S หรือ XS เนื่องจากว่าตอนนี้เจ้าหน้าที่มีแต่ไซส์ M ซึ่งอาจจะใหญ่ไป ไม่พอดีกับน้องๆ อาจทำให้มีน้ำไหลเข้า

09.00น.—นายสุขชัย เจรียงประเสริฐ เกษตรจังหวัดเชียงราย ได้เผยว่าจากการลงพื้นที่สำรวจในอำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย พบว่ามีพื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 3 ตำบล ได้แก่ ตำบลศรีเมืองชุม โป่งผา และ ตำบลบ้านด้าย มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนที่ตกสะสม และปริมาณน้ำที่สูบออกลงลำธารสาธารณะ จำนวน 1,397 ไร่ เกษตรกร 101 ราย

ในการช่วยเหลือจะลงพื้นที่สำรวจความเสียหายอีกครั้ง ซึ่งข้าวสามารถทนน้ำท่วมสูงได้ ประมาณ 10-15 วัน หากพบต้นข้าวเสียหาย นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย จะประกาศ
เขตภัยพิบัติ และเกษตรกรจะได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยา ไร่ละ 1,113 บาท รวมไม่เกินรายละ 30 ไร่ ตามระเบียบกระทรวงการคลัง

อย่างไรก็ตาม เกษตรกรทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบ ยินดีเป็นพื้นที่รับน้ำ ขอเพียงให้สามารถช่วยเหลือน้องๆ ทีมหมูป่าอะคาเดมี ทั้ง 13 ชีวิตได้โดยเร็ว

08.30น.—ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ เผยให้เห็นว่ามีการนำเตียงผู้ป่วยมาเตรียมไว้ พร้อมติดป้ายบนเตียงไว้ว่า “เปลนอนสำหรับน้องทีมหมูป่า” เป็นการเตรียมพร้อมหากทีมหมูป่าทั้ง 13 คนออกจากถ้ำได้จะได้สามารถทำการดูแลได้ทันที

[วันจันทร์ 2 ก.ค.61]

23.10น.—พล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 37 ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า “ยืนยันพรุ่งนี้ทำงานพร่องน้ำต่อไป และจะไม่นำน้องๆออกมาในคืนนี้”

22.30น.—พบทีมหมูป่าทั้ง 13 คนแล้ว ทุกคนปลอดภัย อยู่ในจุดเลยพัทยาบีช 400 เมตร แต่ขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้พาทั้ง 13 คนออกจากถ้ำ กำลังประเมินสถานการณ์อยู่ว่าจะนำทั้ง 13 คนออกมาอย่างไร

21.38น.—นักดำน้ำอังกฤษได้ดำน้ำผ่านจุดพัทยาบีชไปประมาณ 200 เมตร และได้พบกับทีมหมูป่าทั้ง 13 คน

18.40น.—มีรายงานว่านักดำน้ำอยู่ในโถง 3 จำนวน 11 นาย โดยนักดำ 2 นาย ได้ดำออกไปจากโถง 3 ประมาณเวลา 17:30 โดยมีขวดอากาศติดตัว 3 ขวด เวลาทำการได้มากกว่า 3 ชม. โดยพิจารณาจากการดำเมื่อวานเพื่อสำรวจและวางเบสไลน์ต่อไปจากจุดเดิม ซึ่งเลยจาก 3 แยกไป 200 ม. โดยมีเชือกยาว 300 ม. ติดตัวไป ตอนนี้ยังไม่กลับมา

นักดำอีก 2 นาย ออกเดินทางจากโถง 3 ไปตามเบสไลน์ ต่อจากนักดำ 2 นายแรก เพื่อวัดระยะวางเคมไลท์ทุกๆ 100 เมตร ไปเรื่อยๆ ตามเส้นเบสไลน์ เวลาทำการ 3 ชม.

นักดำอีก 2 นาย ออกเดินทางจากโถง 3 เพื่อวางข่ายโทรศัพท์ลากสาย (ทบ.) ที่บริเวณจุด C (ห่างจากโถง 3 ระยะ400 เมตร เป็นเนินทราย) ปัจจุบันสถาปนาเป็นจุดชาลี ตั้งข่ายสื่อสารได้สำเร็จ

โดยความตั้งใจในตอนนี้คืออยากไปให้ถึงพัทยาบีช หากไปถึงและมีพื้นที่ จะสถาปนาจุดทำงานที่หาดพัทยา นำขวดไปวางไว้ให้ชุดสมทบอื่นๆ ทำงานได้ ถ้าไม่ได้ จะพิจารณาหาพื้นที่บริเวณสามแยกแทน ซึ่งในเวลา 19:00 น. กำลังจะส่งนักดำอีก 11 นาย ดำลงสมทบอีก เพื่อเพิ่มต่อระยะเวลาการทำงานต่อไป

17.30 น.—สรุป ผู้ว่าฯ เชียงราย แถลงคืบหน้าภารกิจถ้ำหลวง 1.ยืนยัน “ยังไม่พบ13นักเตะ”  2.น้ำในถ้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง  3.ซีลยังอยู่ที่จุด3แยก  4.เสริมทัพซีลจากทบ.อีก20นาย  5.เบี่ยงน้ำจากดอยผาหมีสำเร็จ ไม่มีน้ำเข้าถ้ำแล้ว  6.เครื่องสูบน้ำในถ้ำ 25 ตัว  7.สัญญาณ2-3วันนี้ดีมาก

17.30 น.—นายแพทย์ไชยเวช ธนไพศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ได้เผยถึงการเตรียมความพร้อมทางการแพทย์เพื่อให้การรักษา 13 ชีวิตจากถ้ำหลวง เรียบร้อยทุกด้าน ทั้งคณะแพทย์ และสถานที่รักษาพยาบาล ทันทีที่ 13 ชีวิตจากวนอุทยานถ้ำหลวง มาถึงโรงพยาบาลฯ จะถูกส่งตัวเข้าหอเตรียมผู้ป่วยที่คัดแยกปลอดเชื้อ เจาะเลือดตรวจรักษา เตรียมยารักษาที่จำเป็น จากนั้นจะคัดแยกส่งตามหอผู้ป่วยต่างๆ พร้อมอุปกรณ์ทำการรักษา เตรียมการให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคติดต่อจากกระทรวงสาธารณสุขมาเป็นที่ปรึกษา พร้อมมีขั้นตอนการเยียวยาญาติผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบในครั้งนี้

ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรม ด้านศัลยกรรม ด้านวิสัญญี ด้านกุมารแพทย์ โรคทางเดินหายใจ รวมทั้งโรคติดเชื้อ ร่วมประชุมวางแผน เตรียมความพร้อมในการรักษาทั้ง 13 ชีวิตรวมถึงแผนรองรับการดูแลทีมผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่ ที่จะส่งเข้ามารักษาสมบูรณ์เต็ม 100 %

16.03 น.—ได้รับรายงานจาก สหชาติ ลิ้มเจริญภักดี ประธานมูลนิธิเพชรเกษมหัวหิน ได้ร่วมกับกรมชลประธาน ร่วมกันต่อท่อน้ำเพื่อเบนน้ำจากดอยผาหมี ไม่ให้ไหลลงไปในถ้ำหลวง

14.40 น.—อธิบดีกรมสุขภาพจิตลงพื้นที่ถ้ำหลวงวันนี้ และได้เปิดเผยว่า ญาติของผู้สูญหายทั้ง 13 คนส่วนใหญ่ 50 กว่าคนอยู่ในสภาพที่พร้อมจะรับมือกับเหตุการณ์ต่างๆ มีเพียง 6 คนที่ประสบภาวะเครียด ทำให้หัวใจเต้นเร็วและโรคประจำตัวกำเริบ แต่อย่างไรก็ตามขณะนี้อยู่ในการดูแลของแพทย์แล้ว

12.58 น.—มีรายงานว่า ทีมกู้ภัยจีนได้เตรียมส่งหุ่นยนต์ค้นหาใต้น้ำ ที่มีความสามารถดำน้ำได้ลึกถึง 400 เมตร เพื่อค้นหา 13 ชีวิตแทนเจ้าหน้าที่ เนื่องจากการค้นหาในน้ำมีอันตรายสูง

11.50 น.—สถานการณ์ภายในถ้ำขณะนี้ ปรากฏว่าระดับน้ำลดลงมากแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเร่งขนอุปกรณ์ต่างๆ จากปากถ้ำเข้าไปที่โถง 3 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำน้ำใช้ในปฏิบัติการค้นหา 13 นักเตะ

11.00 น.—ทางทวิตเตอร์ @armypr_news ได้รายงานว่า “ชุดปฏิบัติการรบพิเศษ ค้นหากู้ภัย ทบ.”ได้ใช้ เฮลิคอปเตอร์ MI 17 นำทีมวิศวกรพร้อมเครื่องมือขุดเจาะไปทางอากาศ ส่งลงยังพื้นที่ขุดเจาะที่ได้สำรวจไว้แล้ว บริเวณเหนือหาดพัทยา พร้อมขุดเจาะ

11.00 น.—“ชุดปฏิบัติการรบพิเศษ ค้นหากู้ภัย ทบ.” ใช้ เฮลิคอปเตอร์ MI 17 นำทีมวิศวกร พร้อม เครื่องมือขุดเจาะส่งลงทางอากาศยังพื้นที่ ขุดเจาะที่ได้สำรวจไว้แล้ว บริเวณเหนือหาดพัทยา พร้อมขุดเจาะ

10.23 น.—การขุดเจาะน้ำบาดาลบ่อที่ 3 ในตอนนี้พบตาน้ำเเล้ว อยู่ห่างจากบ่อที่ 1 ประมาณ 5 เมตรเท่านั้น ในตอนนี้กำลังถอนการเจาะ เพื่อเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำทันที คาดว่าจะสามารถสูบน้ำออกได้ภายใน 12.00 น.วันนี้ โดยจะใช้เครื่องสูบน้ำ 10 แรง มีเเรงดันน้ำได้ 5 หมื่นลิตรต่อชั่วโมง โดยบ่อที่ 1 ตอนนี้มีระดับน้ำมากสามารถสูบน้ำได้ถึง 6 หมื่นลิตรต่อชั่วโมง ส่วนบ่อที่ 2 สูบได้ที่ 4 หมื่นลิตรต่อชั่วโมง

10.06 น.—เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงชนบท กำลังเร่งถมดินบริเวณปากทางเข้าถ้ำหลวงเพื่อเตรียมความพร้อม ซึ่งตรงจุดนี้จะเป็นจุดที่ลำเลียงทั้ง13ชีวิตออกมาขึ้นรถพยาบาล

10.00 น.—จากที่เมื่อคืนนี้ มีการรายงานข่าวว่า เจ้าหน้าที่จากสมาคมน้ำบาดาลไทยจะเข้าไปในถ้ำหลวง เพื่อดูระดับน้ำว่าลดลงไปมากน้อยแค่ไหนแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ที่ดูแลถ้ำกลับไม่ให้เข้าไปดู เนื่องจากไม่มีบัตร ทำให้เจ้าหน้าที่จากสมาคมน้ำบาดาลไทยน้อยใจอย่างมาก และเกิดเป็นกระแสดราม่าขึ้น

ล่าสุด นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ เชียงราย ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ทางเจ้าหน้าที่ที่ดูแลปากถ้ำไม่ให้คนจากสมาคมน้ำบาดาลเข้าไปในถ้ำจริง แต่ทั้งหมดตนเองสั่งการเอง เนื่องจากว่าไม่กี่วันก่อน เกิดเหตุทีมทำงานสูบน้ำบาดาลจากนอกถ้ำ แอบลักลอบเข้าไปในถ้ำโดยไม่บอกเจ้าหน้าที่ก่อน และหายเข้าไปอยู่ในหลืบถ้ำ 4 คน ทำให้ทีมงานต้องใช้เวลากว่าครึ่งวันในการตามหา ถือว่าเป็นการเสียเวลาในการปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายทีมหมูป่า ฉะนั้นแล้ว ใครที่ไม่มีบัตรอนุญาต และไม่มีภารกิจในถ้ำ ต่อไปนี้จะไม่ให้เข้าถ้ำ เพราะอาจเป็นการขัดขวางเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอยู่และทำให้การจัดการดูแลทำได้ลำบาก

09.50 น.—นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ เชียงราย ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว โดยเคลียร์ประเด็นข้อสงสัยว่าเจ้าหน้าที่หน่วยซีลเดินทางไปถึงพัทชาบีชแล้วหรือไม่ โดยผู้ว่าฯ ยืนยันในประเด็นนี้ว่า หน่วยซีลยังไปไม่ถึงพัทยาบีช

อย่างไรก็ตาม การทำงานในถ้ำของหน่วยซีลคืบหน้าไปมาก สามารถลากเชือกนำทางไปถึงสามแยกได้แล้วตั้งแต่เมื่อคืน และได้เริ่มทำการบุกไปทางด้านซ้ายแล้ว แต่พบอุปสรรคเป็นจุดวิกฤต คือเมื่อเลี้ยวซ้ายไปแล้ว จะเจอร่องที่ลึกและแคบมาก หน่วยซีลที่มีถังออกซิเจนติดหลังยังไม่สามารถผ่านจุดนี้เข้าไปได้ ภารกิจตอนนี้คือการพยายามเปิดรูดังกล่าวให้กว้างขึ้น เพื่อให้คนและอุปกรณ์ผ่านไปได้ ซึ่งหากสามารถเปิดรูนี้ได้ ผู้ว่าฯ จะแจ้งให้ทุกคนทราบทันที สำหรับทางด้านขวาของทางแยก ผู้ว่าฯ ระบุว่า หากทำการบุกทางด้านซ้ายสำเร็จ และมีกำลังเจ้าหน้าที่เหลือ จะทำการบุกสำรวจทางด้านขวาของทางแยกเช่นกัน แต่ตอนนี้ขอโฟกัสที่การบุกด้านซ้ายของทางแยกก่อน

นอกจากนี้ ยังได้มีการระดมขวดอากาศเข้าไปในถ้ำจำนวนมาก ตั้งแต่เมื่อวานมีการขนเข้าไปในถ้ำเพิ่มอีก 200 ขวด ทำให้ตอนนี้มีขวดอากาศอยู่ภายในถ้ำกว่า 600 ขวด เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยซีลโดยที่ไม่ต้องออกมานอกถ้ำอีก

[วันอาทิตย์ 1 ก.ค.61]

19.43 น.—รวมพลเจ้าหน้าที่ทุกหน่วย 50 นาย ที่ศูนย์ประสานงาน ทำภารกิจเร่งด่วนภายในถ้ำ

18.10 น.—ขณะนี้ หน่วยซีลเข้าไปเลยจุดโถง 3 และวางเชือกนำทางไปข้างหน้าได้ประมาณ 600 เมตรแล้ว อีกไม่ไกลจะถึงสามแยก อย่างไรก็ตาม จากสามแยก ยังเหลือระยะทางอีกกว่า 2 กิโลเมตร กว่าจะถึงพัทยาบีช โดยอุปสรรคสำคัญคือตลอดเส้นทางมืดสนิท และต้องดำน้ำเพราะคาดว่าน้ำท่วมตลอด

17.20 น.— ก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่าที่จริงแล้วทีมหมูป่าทั้ง 13 คน อาจไม่ได้หายเข้าไปในถ้ำ แต่ออกจากถ้ำแล้ว แล้วถูกกลุ่มลักลอบขนยาเสพติดจับตัวไป เนื่องจากถ้ำหลวงเป็นพื้นที่สีแดง ที่เอาไว้ใช้ขนยาเสพติด พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า รองผบ.ตำรวจภูธรภาค 5 ชี้แจงประเด็นนี้ว่า ข้อมูลดังกล่าวไม่เป็นความจริง จากข้อมูลของตำรวจ “ไม่เคยปรากฏว่าถ้ำหลวงเคยเป็นเส้นทางที่ใช้ส่งผ่านยาเสพติด”

17.00 น.—นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้แถลงว่า วันนี้เป็นวันที่โชคดี แดดออก ถ้าหวังว่าพรุ่งนี้อากาศเป็นแบบนี้ก็คงจะทำงานได้สะดวกขึ้นสำหรับผู้ที่จะบินโดรนถ้าจะใช้งานขอให้ปฏิบัติตามกฎหมาย เพราะที่นี่เป็นพื้นที่ควบคุม โดยมีกองทัพอากาศมาช่วยดูแล ในเรื่องการบิน หรือการใช้โดรน ถ้าไม่ควบคุมโดรนที่บินอาจจะไปขัดขวางการทำงานทางอากาศและอาจจะกระทบความสัมพันธ์อันดีต่อประเทศเพื่อนบ้าน ขอให้มาแจ้งก่อน ซึ่งขณะนี้มีมาแจ้งแล้ว 13 ราย ในส่วนของการสูบน้ำถือว่าสถานการณ์ดีมาก ปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง และการดำน้ำก็มีผู้เชี่ยวชาญหลายประเทศมาช่วย ตอนนี้มีมนุษย์กบดำน้ำ 60 ราย แล้วก็ตั้งโถง3 เป็นศูนย์ปฏิบัติงาน ทำงานต่อเนื่อง 50 ชั่วโมงแล้ว

สำหรับการโรยตัวบนโพรงด้านบนนั้น ได้มีการส่งทีมขึ้นไปค้นหาทั้งหมด 30-40 ทีม พบจุดที่มีศักยภาพประมาณ 2-3 จุดที่น่าจะเป็นไปได้ ด้านการบินโดรน สำหรับสื่อหรือผู้ที่ต้องการบินโดรนในพื้นที่บริเวณถ้ำหลวง ทางเจ้าหน้าที่มีการจัดให้ลงทะเบียนในการรับบัตรอนุญาตในการบินโดรน หากไม่ลงทะเบียนเเล้วนำโดรนขึ้นบินถึงเเม้มีใบอนุญาตก็ถือว่าผิดกฏหมาย
เรื่องที่มีข่าวลือบนโลกออนไลน์เช่น การรับบริจาคเงินนั้นไม่เป็นความจริง ทางผู้ว่าฯไม่ได้มีการเปิดรับบริจาคเเต่อย่างใด ส่วนข่าวลือที่กล่าวว่าถ้ำหลวงนั้นเป็นพื้นที่สีเเดง ที่มีการส่งยานั้นไม่เป็นความจริง และข่าวลือเจ้าหน้าที่จีนไม่ได้การรับการดูเเล ให้กินเเต่ข้าวเปล่านั้นไม่เป็นความจริง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่จีนยังปฏิบัติงานอยู่ภายในถ้ำ 

ส่วนผู้ที่ต้องการมาช่วยเหลือในเรื่องการกราบไหว้พระนั้น เจ้าหน้าที่จะทำการจัดโซนให้โดยจะไม่ให้เข้ามาบริเวณหน้าถ้ำ เเละผู้ใดที่ต้องเข้ามาช่วยเหลือในการค้นหา 13 นักเตะ สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ เเต่ต้องมีการลงทะเบียนเเละมีการประเมินจากเจ้าหน้าที่ว่าสามารถจะช่วยในด้านไหนได้บ้าง

15.50 น.— เพจ Thai NavySEAL โพสต์ขอบคุณผู้ดำเนินการและจัดหา Emergency foil space blankets ได้เพียงพอแล้ว

14.55 น.— กำลังเจาะน้ำบาดาลหน้าถ้ำเป็นจุดที่ 3

13.37 น.—เพจ Thai NavySEAL ได้ประกาศขอการสนับสนุนผ้าห่มฟลอย (Emergency foil space blanket) เพื่อให้นักดำน้ำใช้เมื่อพักจากภารกิจการดำน้ำ
โดยทางเพจระบุว่า นักดำน้ำชุดแรกเริ่มทำงานตั้งแต่เวลาประมาณเกือบ 4 นาฬิกา โดยมีทั้งมนุษย์กบจากหน่วยซีล นักดำน้ำจากออสเตรเลีย และนักดำน้ำกู้ภัยจากอยุธยา รวมทั้งหมด 25 คนทำงานอยู่ภายในโถง 3 เสื้อผ้านักดำน้ำเปียกทุกคน ทำให้นักดำน้ำหนาว จึงขอการสนับสนุนผ้าห่มฟลอยดังกล่าว สำหรับความคืบหน้าล่าสุด ในเวลา 13.20 น. นักดำน้ำได้วางเชื่อกได้ระยะทาง 400 เมตรแล้วจากโถง 3 เพื่อไปสู่ 3 แยก

13.20 น.—ความคืบหน้าล่าสุดภายในถ้ำ หน่วยซีลสามารถไปตั้งกองบัญชาการที่โถง 3 ได้ตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จากโถง 3 หน่วยซีลตั้งเป้าวางเชืือกนำทางไปให้ถึงสามแยก โดยล่าสุด ณ เวลา 13.20 น. มีรายงานว่าสามารถเดินทางไปได้ไกล 400 เมตรจากโถง 3 แล้ว ใกล้ถึง 3 แยกมากแล้ว และอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จึงจะถึงพัทยาบีช ปัญหาคือตลอดทางเป็นน้ำทั้งหมด ต้องดำน้ำเข้าไป

11.40 น.—เจ้าหน้าที่ลำเลียงท่อระบายน้ำยาว 300 เมตร เพื่อนำไประบายน้ำจากโถง 2 มายังโถง 1 หลังจากที่เมื่อวานนี้มีการนำท่อเข้าไประบายน้ำแล้ว 2 เส้น แต่ยังระบายน้ำไม่ทัน

11.00 น.—นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงการณ์โดยเผยว่าวันนี้ ได้เข้าสู่วันที่ 9 ของการค้นหา โดยมีการทำงานไว้ทั้งหมด 4 แผนการ
1.แผนเข้าหน้า-ออกหน้า การเข้าไปช่วยเหลือทางหน้าถ้ำ และนำตัวออกทางหน้าถ้ำ
2. พยายามเข้าทางปล่องบนถ้ำผาหมี1 ประเมินว่ามี 10 กว่าโพรง โดยวันนี้ได้ขนอุปกรณ์เข้าไปปฏิบัติงานต่อ 2 โพรงที่ไปเมื่อวานมีความลึก 40 เมตร วันนี้ได้นำอุปกรณ์เจาะเพิ่ม หวังจะเป็นทางเข้าไปในถ้ำได้
3.การระบายน้ำ ทั้งการสูบน้ำออกจากถ้ำเเละการพร่องน้ำจากการเจาะบาดาล ถือว่าปริมาณน้ำลดลงพอสมควร
4.แผนการใช้เครื่องสแกนเพื่อค้นหาผนังของถ้ำที่บาง มีกำลังสแตนบาย เพราะต้องมีการประเมินสถานการณ์ก่อน เนื่องจากอุปกรณ์มีราคาสูง การขนย้ายยังคงลำบาก
โดยเน้นปฏิบัติการที่ 1 แผนเข้าหน้าถ้ำ – ออกหน้าถ้ำ เป็นหลัก ซึ่งจะทำควบคู่กับแผนการที่ 2 3 เเละ 4 ไปพร้อมกัน

10.50 น.—เจ้าหน้ากู้ภัยที่เชียวชาญการดำน้ำในถ้ำจากออสเตรเลีย ได้เดินทางมายังถ้ำหลวง พร้อมอุปกรณ์ มาช่วยหน่วยซีลของไทย โดยทั้งหมดเดินทางถึงถ้ำหลวงเมื่อคืนที่ผ่าน “ยืนยันจะอยู่ช่วยหน่วยซีลจนกว่าจะจบภารกิจทั้งหมด”

10.20 น.— “โถง 3 ยังไม่ถึง 3 แยก” หน่วยซีลได้เข้าไปตั้งศูนย์บัญชาการ (บก.) ส่วนหน้าบริเวณโถง 3 ของถ้ำหลวง เพื่อที่จะไม่ต้องขนย้ายอุปกรณ์เข้า-ออกถ้ำ ทำให้สามารถปฏิบัติการได้เร็วขึ้น
และได้ผูกเชือกนำทางจากโถง 3 ไปยังสามแยก พร้อมกับติดตั้งขวดอากาศทุกๆ 25 เมตร ตลอดทางเข้าไปยังหาดพัทยา โดยคาดว่าเหลือระยะทางอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จากโถง 3 ถึงหาดพัทยา

10.20 น.—ผบ.หน่วยซีล แถลงความคืบหน้าปฏิบัติการภายในถ้ำหลวงของหน่วยซีลเมื่อวานนี้ หน่วยซีลได้เข้าไปตั้งศูนย์บัญชาการส่วนหน้าภายในโถง 3 ของถ้ำหลวงแล้ว เพื่อที่จะปฏิบัติการได้รวดเร็วขึ้น ไม่ต้องขนย้ายอุปกรณ์เข้า-ออกถ้ำ ซึ่งต้องใช้เวลาจากปากถ้ำถึงโถง 3 นานกว่า 2 ชั่วโมง และได้ผูกเชือกนำทางจากโถง 3 ไปยังสามแยก พร้อมทั้งติดตั้งขวดอากาศทุกๆ 25 เมตร ตลอดทางเข้าไปยังหาดพัทยา โดยวันนี้ทางกองทัพอากาศจะขนขวดอากาศมาเพิ่ม 200 ชุด คาดว่าเหลือระยะทางอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จากโถง 3 ถึงหาดพัทยา ยืนยันถ้าไม่พบทั้ง 13 ชีวิต ไม่เลิกค้นหา

ด้านผู้ว่าฯ เชียงราย กล่าวว่า ทุกฝ่ายกำลังเร่งทำงานกันอย่างเต็มที่ เพราะวันนี้เข้าสู่วันที่ 9 แล้ว ที่ทั้ง 13 คนหายไป การสูบน้ำออกจากถ้ำดำเนินไปได้ด้วยดี น้ำที่สูบออกมาใส แสดงว่าไม่มีน้ำจากภายนอกเข้าไปเติมแล้ว อย่างไรก็ตาม ฝากประชาสัมพันธ์ถึงชาวบ้านที่อยู่ท้ายน้ำว่าอาจได้รับผลกระทบบ้าง เพราะน้ำที่ระบายออกมามีปริมาณมาก นอกจากนั้น ได้เตรียมแผนช่วยเหลือผู้สูญหายไว้พร้อมแล้วหากเจอตัว มีแพทย์อาสาที่ดำน้ำได้พร้อมเข้าช่วยเหลือทั้ง 13 คน และเตรียมพร้อมเรื่องแผนส่งต่ออื่นๆ

09.20 น.—เจ้าหน้าที่ได้นำแผงเหล็กและเชือกมากั้นบริเวณทางเข้าถ้ำหลวง เพื่อกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปในถ้ำ และอนุญาตให้เฉพาะผู้ที่ปฏิบัติงานเท่านั้นสามารถเข้าไปในถ้ำได้

09.30 น.—วันนี้ในช่วงเช้าที่บริเวณถ้ำหลวง อากาศค่อนข้างแจ่มใส ไม่มีฝนตก ฟ้าเปิดไม่ค่อยมีเมฆ และแดดแรง

07.30 น.—กฟผ. เร่งเชื่อมต่อสาย Power Main เพิ่มกระแสไฟฟ้า สนับสนุนปฏิบัติการสูบน้ำออกจากถ้ำหลวง- ขุนน้ำนางนอน

07.15 น.—ที่ทีมหมูป่าฯ สูญหาย ทีมงานรถสูบน้ำซิ่ง หรือเครื่องสูบน้ำพญานาคยักษ์ จากนครปฐม ยังระดมสูบน้ำในบ่อข้างถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตลอดทั้งคืน เพื่อช่วยให้น้ำที่สูบออกมาจากถ้ำลงบ่อระบายได้ดีขึ้น

01.00 น.—เครื่องสูบน้ำบริเวณหน้าถ้ำเขาหลวง-ขุนน้ำนางนอน ยังคงเดินเครื่องอย่างต่อเนื่อง หลังระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้นจนเป็นอุปสรรคการทำงานของหน่วยซีล โดยท่อซ้ายมือที่เป็นน้ำขุ่นที่มาจากการเจาะบาดาลโพรงน้ำใต้ถ้ำ ส่วนท่อน้ำระบายน้ำที่ใสกว่าสูบตรงมาจากถ้ำ โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่เตรียมจะเจาะแบบบาดาลเพิ่มเติมด้วย

[วันเสาร์ 30 มิ.ย.61]

20.44 น.—ผลช่วงบ่ายวันนี้ จนท.ขุดเจาะน้ำบาดาล สามารถสูบน้ำจากจุดแรก ได้สำเร็จ ความลึก 42 ม. เป็นโพรงน้ำขนาดใหญ่ ใช้เครื่องสูบน้ำที่มีกำลังการสูบ 50,000 ลิตรต่อ ชม. จากนั้นก็ได้เร่งขุดเจาะบ่อที่ 2 ที่ห่างจากจุดแรกเพียงแค่ 10 ม. และใช้เวลาขุดเจาะเพียงแค่ 3 ชม. เท่านั้น หลังจากที่ใช้เวลาขุดเจาะบ่อแรกถึง 2 วัน ซึ่งบ่อที่ 2 มีความลึก 42 ม. เท่ากัน ขณะนี้กำลังเร่งลงท่อเหล็กและติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อจะสูบน้ำให้ได้ภายในคืนนี้

20.19 น.—พญ.วิมลรัตน์ วันเพ็ญ รองผอ.สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่น ราชนครินทร์ เผยคำแนะนำถึงผู้ติดตามข่าว  ว่า อย่าใช้เวลาติดหน้าจอเกิน 1 ชม. ให้ดูข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ หากมีความรู้สึกอยากช่วยมาก แต่ไปไม่ได้ก็ช่วยส่งแรงกายแรงใจ อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองด้วย

20.08 น.—พลตรี นพ.ปราโมทย์ อิ่มวัฒนา ผู้แทนเจ้ากรมแพทย์ทหารบก เผยสิ่งที่ต้องปรับเพิ่มคือขอให้ตำรวจช่วยจัดระเบียบการจราจร และพลขับให้ทราบเส้นทางไปสนามเฮลิคอปเตอร์

19.59 น.—มูลนิธิ peace land กู้ภัยจากจีน เผยส่งนักประดาน้ำ 6 คน ตอนนี้สามารถเข้าไปได้เพียง 3 กม. และกำลังเร่งหาตำแหน่งของเด็กทั้ง 13 คน

19.30 น.—นายสุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยและพัฒนาวิศวกรรมปฐพีและฐานราก คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตร บอกว่าได้ทำการสแกนดูถ้ำแบบ cross section พบความหนาเนื้อภูเขาประมาณ 339-763 ม. เทียบกับตึกใบหยก 2 ตึก นอกจากนี้ ถ้าได้ตำแหน่งเจาะที่แน่นอน น่าจะทำการได้ลึกวันละประมาณ 80-100 ม. หากทำงานต่อเนื่องอาจเจาะได้ลึกสุดถึงวันละ 150 ม.

19.10 น.— ประกาศจากศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ จ.เชียงราย นับตั้งแต่1 ก.ค 61 เป็นต้นไป ขอให้จนท.ผู้ปฏิบัติงานและสื่อมวลชนทุกท่าน ไปจอดรถที่แม่สายการ์เด้นท์วิว โดยจะมีขนส่งจัดรถบริการรับส่งตลอด 24 ชั่วโมง จำนวน 10 คัน

18.50 น.— ขณะนี้หน่วยซีลใช้กลยุทธ์ใหม่ในการพยายามเข้าถึงพัทยาบีช โดยเตรียมให้มนุษย์กบวางถังอากาศไปข้างหน้าตลอดทางทุก 25 เมตร จากห้องโถง 3 ไปจนถึงจุดหาดพัทยาบีช กลยุทธ์ใหม่นี้ทำให้จำเป็นต้องใช้ขวดอากาศและ Regulator จำนวนมาก อย่างน้อย 200 ชุด ผู้อยากช่วยเหลือสามารถติดต่อนำมาส่งให้นักประดาน้ำได้ที่ถ้ำหลวงภายในวันพรุ่งนี้ ติดต่อ 094-071-7217

18.30 น.— เพจ Thai NavySeal เผยว่าเปลี่ยนมาใช้แผนรุก ไม่รอน้ำลด โดยเตรียมส่งมนุษย์กบวางขวดอากาศทุกระยะ 25 ม. จากห้องโถง 3 ถึงจุดที่คาดว่าทีมหมูป่าอยู่ ต้องใช้ขวดอากาศจำนวนมาก
ปัจจุบันจึงกำลังระดมขวดอากาศ และ Regulator ด่วน

18.11 น.—ผู้ว่าฯเชียงราย ได้เผยความคืบหน้าการโรยตัวพบมี 2 จุดสำคัญที่น่าจะเข้าไปได้โดยใช้เฮลิคอปเตอร์ ส่งกำลังแพทย์พยาบาล เข้าไปในพื้นที่พร้อมอาหาร น้ำ จนกว่าจะพิสูจน์ได้
ส่วนหน่วยซีลเจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปที่โถง 3 แยกได้เเล้ว 200 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำสัญลักษณ์ไว้เพื่อทำให้ไม่หลงทิศหากกลับเข้าไปในถ้ำเเละยังมีขวดออกซิเจนขวดเล็กๆ ผูกติดไว้ทุกๆ 25 เมตร เพื่อใช้หายใจหากเจ้าหน้าที่ไม่สามารถโผล่ขึ้นมาบนอากาศได้

17.45 น.— เจ้าหน้าที่ช่วยกันขนท่อสูบน้ำขนาดยาวนับกิโลเมตร เเละเครื่องสูบน้ำเข้าถ้ำหลวง เพื่อติดตั้งเพิ่มและเร่งระบายน้ำออกจากถ้ำ

15.00 น.— โค้ชนพรัตน์ ทีมหมูป่า อะคาเดมี่ ได้นำเด็กจากหลายๆรุ่นในทีมหมูป่า เดินทางมาหาเพื่อนที่ถ้ำหลวง โดยโค้ชนพรัตน์มีความเชื่อว่าโค้ชเอก มีการเตรียมพร้อมก่อนจะเข้าถ้ำหลวง ไม่ว่าจะเป็นน้ำดื่มเเละน้ำดื่มเกลือแร่ แต่อาหารอาจจะมีเพียงขนมกรุบกรอบ

14.00 น.— เพจ สำนักประชาสัมพันธ์เขต 3 เชียงใหม่ โพสต์ว่า ระดับน้ำในถ้ำหลวงลดลง เจ้าหน้าที่ทำงานได้สะดวกขึ้น

13.43 น.— เพจ PR.Chiangrai ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย โพตส์ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เริ่มเดินเครื่องสูบน้ำพญานาคยักษ์ ได้ติดตั้งเพียง 1 เครื่อง เเต่มีเเรงเครื่องยนต์ 6 สูบ ซึ่งจุดที่สูบอยู่บริเวณอุทยานขุนน้ำนางนอน ปลายถ้ำหลวง โดยขณะนี้น้ำรอบๆถ้ำหลวงลดลงอย่างรวดเร็ว

13.30 น.— เจ้าหน้าที่สามารถสูบน้ำบาดาลบริเวณหน้าถ้ำหลวงสำเร็จแล้ว

13.28 น.—เจ้าหน้าที่ตำรวจพลร่มกับเจ้าหน้าที่อาสาโรยตัว ได้เตรียมแผนลงปล่อง โดยแบ่งเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเป็น 3 ทีม ทีมเเรกจะเป็นทีมทะลุทะลวงเข้าไปภายในปล่อง ทีมที่2 จะเป็นทีมที่คอยสนับสนุน และทีมที่3 จะเป็นทีมคอยจัดทำแผนที่

11.30 น.—เจ้าหน้ากู้ภัย เเละรพ.สนาม ได้ซักซ้อมการเคลื่อนย้ายผู้สูญหายทั้ง 13 คนออกจากถ้ำ โดยจะเริ่มส่งตัวทั้ง 13 คนขึ้นรถพยาบาลไปยังจุดลำเลียงส่งต่อระหว่างรถพยาบาลและ เฮลิคอปเตอร์

11.17 น.—เพจ Thai NavySEAL โพสต์ข้อความว่า “กำลังพลจากกองทัพบกและหน่วยซีลกองทัพเรือ ช่วยลำเลียงเครื่องสูบน้ำเข้าไปวางในถ้ำ เร่งดึงน้ำออกจากถ้ำให้เร็วที่สุด ระดับน้ำลดลงเร็วขึ้นแล้ว มนุษย์กบเตรียมลำเลียงขวดอากาศเข้าไปตั้ง บก. ที่โถง 3 เพื่อวางเชือกนำทางเข้าสู่บริเวณสามแยก (ซึ่งอยู่เลยโถงที่ 3 เข้าไป)”

11.10 น.—เจ้าหน้าที่จากสมาคมน้ำบาดาลไทยบางส่วน ได้กระจายกำลังไปบริเวณท้ายถ้ำหลวง และนำเครื่องเจาะบาดาลไปเจาะที่บริเวณดังกล่าว หวังว่าจะเจอตาน้ำและสามารถช่วยระบายระดับน้ำในถ้ำได้อีกทาง

10.30น.—ได้มีการลำเลียงเครื่องสูบน้ำซิ่งพญานาคขนาดยักษ์มาจากจังหวัดนครปฐม โดยหวังจะใช้เครื่องสูบน้ำกำลังสูง 6 สูบนี้สูบน้ำจากภายในถ้ำ เพื่อให้ลดระดับน้ำได้อย่างรวดเร็ว โดยล่าสุดเครื่องสูบน้ำดังกล่าวมาถึงบริเวณถ้ำหลวงแล้ว 2 ตัว และอีก 2 ตัวกำลังเดินทางมา คาดว่าจะถึงในอีกประมาณ 4 ชั่วโมง

10.20น.—เจ้าหน้าที่เพิ่มเครื่องเจาะน้ำบาดาลอีก 1 เครื่อง โดยนายกสมาคมน้ำบาดาลเปิดเผยว่า จุดที่ทำการเจาะก่อนหน้านี้บริเวณหน้าถ้ำได้เจาะถึงตาน้ำแล้ว 2 จุด กำลังรอติดตั้งอุปกรณ์เพื่อสูบน้ำ และเตรียมเจาะน้ำบาดาลเพิ่มห่างจากจุดเดิม 150 เมตร อีก 3 จุด รวมเป็น 5 จุด ส่วนการสูบน้ำออกจากถ้ำยังทำได้อย่างต่อเนื่อง

10.00 น.—แผนการค้นหาวันนี้
– ตลอดทั้งคืนไม่มีฝนตก ตอนเช้าอากาศเปิด
– การระบายน้ำทำได้ดีตลอดทั้งคืน ปริมาณน้ำในถ้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง
– หน่วย SEAL รอระดับน้ำลดลง จากนั้นจะดำลงไปยังจุดสุดท้ายที่เข้าไปถึงเมื่อวาน และจะเปิดโพรงถ้ำที่ถูกปิดด้วยทราย ถ้าสำเร็จ ก็จะไปถึงจุดที่คาดว่า ทั้ง 13 คนอยู่ 
– กำลังบนบก จะหาทางเข้าทางเหนือถ้ำ ตามที่ชาวบ้านเล่าว่ามีทางเข้าถ้ำจากทางนี้ ชาวบ้านจะนำทาง หากใช่ก็จะไปถึงจุดที่คาดว่า ทั้ง 13 คน อยู่
– หน่วยงานอื่นๆ เร่งหาทางระบายน้ำ
– กำลังพิจารณาจุดที่ผนังถ้ำบาง เจาะช่องระบายน้ำเพิ่ม
ทั้งนี้ภารกิจวันนี้จะสำเร็จหรือไม่ ขึ้นอยู่กับฝนและสภาพอากาศ

09.40 น.—ช่วงเช้าวันนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมการซักซ้อมแผนการย้ายผู้สูญหายออกจากถ้ำ ในกรณีที่พบผู้สูญหายทีมหมูป่า โดยจะซักซ้อมตั้งแต่การนำผู้ประสบภัยออกจากถ้ำ ไปจนถึงการนำขึ้นเฮลิคอปเตอร์ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดยังไม่พบผู้สูญหายทั้ง 13 คน

09.30 น.—เจ้าหน้าที่ชุดดำน้ำสามารถดำเข้าไปในถ้ำหลวงได้เลยบริเวณโถงที่ 3 แล้ว พบทางแยกอีกแห่งหนึ่งภายในถ้ำ ขณะนี้หน่วยปฏิบัติการกำลังอยู่ระหว่างวางแผนเพื่อดำน้ำต่อ คาดว่าเมื่อเลยจุดนี้ไปได้ทางจะง่ายขึ้น และจะนำไปสู่บริเวณที่คาดว่าเป็นเนินสูงที่คนสามารถอาศัยอยู่ได้

09.00 น.—ได้มีการนำเครื่องสูบน้ำซิ่งพญานาคขนาดยักษ์ จำนวน 2 ตัว และจะตามมาสบทบอีก จำนวน 2 ตัว มาที่บริเวณปากถ้ำหลวง โดยเครื่องสูบน้ำดังกล่าวเป็นเครื่องสูบน้ำ 8 สูบ น่าจะช่วยให้สามารถสูบน้ำได้เร็วขึ้น ซึ่งตามแผนการเเล้วอาจจะต้องรอแผนการจากเจ้าหน้าที่อีกครั้งว่าสามารถนำเครื่องสูบน้ำมาใช้ได้หรือไม่ เเละอาจจะมีการปรับเปลี่ยนแบบแผนเพื่อเร่งสูบน้ำออกจากถ้ำ

08.30 น.—หลังจากเจ้าหน้าที่พยายามขุดเจาะหาตาน้ำหรือโพรงน้ำ เพื่อใช้เป็นทางระบายน้ำออกภายในถ้ำหลวง ล่าสุด พบโพรงน้ำแล้ว บริเวณปากทางเข้าถ้ำ ขณะนี้กำลังสำรวจว่ามีน้ำอยู่ที่ระดับกี่เมตร และสามารถสูบน้ำขึ้นมาได้หรือไม่ ถ้าสามารถทำได้ก็จะเร่งติดตั้งเครื่องสูบน้ำและสูบน้ำขึ้นมา พร้อมขยายผลเจาะอีก 10 รู ตามแผนที่วางไว้ และหวังว่าวันนี้การทำงานของเจ้าหน้าที่จะมีสัญญาณที่ดีในการค้นหาและเข้าถึงตัวผู้สูญหายทั้ง 13 คน ให้เร็วที่สุด

07.30 น.—ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ดร.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. พร้อมคณะทีมงานเตรียมเดินเท้าไปตรวจสอบปล่องถ้ำผาหมี ต่อจากวานนี้ โดยก่อนไป รอง ผบ.ตร.ได้เดินทางไปยังบริเวณปากทางเข้าถ้ำ และได้พบกับพระภิกษุ กำลังให้พรญาติและครอบครัวของเยาวชนและโค้ช “ทีมหมูป่า” จึงได้เข้าไปสักการะ และมีโอกาสได้พูดคุยถึงความคืบหน้าในการติดตามให้ญาติได้เข้าใจ ทั้งนี้ พล.ต.อ.วิระชัย เผยได้ตั้งจิตอธิษฐานต่อพระแม่เจ้านางนอน หากทั้ง 13 ชีวิตปลอดภัย เตรียมปฏิบัติธรรมเป็นเวลา 9 วัน ที่ภูทับเบิก จ.เพชรบูรณ์

ในภาพอาจจะมี ข้อความ

[วันศุกร์ 29 มิ.ย.61]

21.20 น.—”ครูบาบุญชุ่ม” ที่เดินทางมาจากรัฐฉาน ประเทศเมียนมา ได้ทำพิธีส่งกำลังใจให้ผู้สูญหายทั้ง 13 คนเสร็จแล้ว และหลังจากทำพิธีเสร็จได้เดินทางกลับทันที และบอกว่าพรุ่งนี้จะเดินทางมาที่ถ้ำหลวงอีกครั้ง

20.10 น.—พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร เกจิชื่อดังแห่งวัดพระธาตุดอนเรือง รัฐฉาน ประเทศเมียนมา ได้เดินทางมาถึงบริเวณถ้ำหลวงแล้ว โดยในขณะนี้กำลังทำพิธีเพื่อส่งกำลังใจช่วย 13 ชีวิตทีมหมูป่า

19.34 น.—บริเวณถ้ำหลวงได้มีฝนเทลงมาอีกครั้ง

17.09 น.—กรมทรัพยากรธรณีได้ส่งเจ้าหน้าที่ออกค้นหา Martin Point ตามข้อมูลที่ Martin Eillis นักสำรวจชาวอังกฤษได้ระบุไว้ว่าบริเวณนี้เป็นปลายถ้ำ มีช่องที่มีเเสงผ่านเเละมีอากาศถ่ายเท ทางเจ้าหน้าที่คาดว่าอาจจะเป็นจุดที่ทีมหมูป่าทั้ง 13 คนมาถึง หากเดินหนีน้ำเข้าไปในถ้ำลึกขึ้นเรื่อยๆ โดยจุดนี้อยู่ห่างจากหาดพัทยาประมาณ 3-4 กิโลเมตร หากสามารถหา Martin Point นี้พบ ก็จะมีการส่งทีมค้นหาเข้าไป

16.10 น.—ชุดปฏิบัติการนเรศวรได้โรยตัวลงไปในโพรงด้านฝั่งขวาของถ้ำ โดยเจ้าหน้าที่ได้สำรวจลงไปในโพรงลึก 40 เมตร พบว่าเป็นพื้นถ้ำไม่มีน้ำ แต่มีตาน้ำเล็กๆ 2 จุด การขยายผลอาจจะเชื่อมไปถึงห้องโถงใหญ่ภายในถ้ำหรือไม่ก็ได้

16.00 น.—ผู้ว่าฯ เชียงรายแถลงข่าวในประเด็นนี้แล้ว สรุปว่าเจ้าหน้าที่ ปภ. ไม่ได้โดนไฟดูด เพียงแต่เป็นลม และขณะนี้ปลอดภัยแล้ว

15.40 น.—เจ้าหน้าที่กลับมาจ่ายไฟบริเวณถ้ำหลวงตามปกติแล้ว หลังจากที่มีคำสั่งตัดไฟทั้งหมด เมื่อเวลาประมาณ 14.48 น. เนื่องจากเจ้าหน้าที่ ปภ. 1 นาย ประสบอุบัติเหตุถูกไฟฟ้าดูด โดยได้นำตัวส่งโรงพยาบาลแล้

15.21 น.—เจ้าหน้าที่ยุติการสูบน้ำจากถ้ำหลวงชั่วคราว เพื่อรอตรวจสอบความปลอดภัย

15.00 น.—เกิดอุบัติเหตุภายในถ้ำ มีเจ้าหน้าที่ถูกไฟดูด ล่าสุดมีการยืนยันแล้วว่ามีเจ้าหน้าที่ที่ถูกไฟดูดทั้งสิ้นแค่ 1 ราย โดยเป็นเจ้าที่จากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย (ปภ.) โดยโดนไฟดูดขณะกำลังเดินเครื่องสูบน้ำ

14.48 น.—มีรายงานว่ามีการสั่งให้ตัดไฟฟ้าในถ้ำทั้งหมดชั่วคราว จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าน่าจะเกิดจากการที่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการภายในถ้ำเกิดอุบัติเหตุถูกไฟดูด ล่าสุดได้มีการนำรถพยาบาลมารอเพื่อเตรียมนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลแล้วจำนวน 3-4 คัน

14.20 น.—นักดำน้ำชาวอิตาลีหนึ่งในทีมของคุณนรินทร ณ บางช้าง ได้กลับออกมาจากถ้ำพร้อมอุปกรณ์ เพื่อกลับไปที่พักชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ

13.50 น.—บริเวณถ้ำหลวงมีฝนตกลงมาอีกครั้ง ขณะที่ระดับน้ำในถ้ำยังสูง เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำออกจากถ้ำ

13.30 น.—นายศักดิ์ฉลาด ศรีวิชา ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรน้ำบาดาล เขต1 ลำปาง เผยถึงการขุดเจาะบาดาลเพื่อหาตาน้ำ ตอนนี้สามารถขุดลงไปได้ประมาณ 36 เมตร ซึ่งเจอน้ำบาดาลที่ระดับ 25 เมตร โดยคาดว่าจะเป็นโพรงน้ำที่เชื่อมกับในถ้ำ ซึ่งในขณะนี้ได้หยุดทำการเจาะชั่วคราว เพื่อนำท่อเหล็ก ขนาดกว้าง 6 นิ้ว ยาว 6 เมตร ได้รับการสนับสนุสจากกรมชลประทานจังหวัดลำปาง เพื่อนำมาใส่รูที่ขุดเจาะ เพื่อป้องกันหน้าดินปิดรูเเละเปิดช่องให้มองเห็นน้ำที่อยู่ใต้ดิน เบื้องต้นใส่ท่อลงไป 6 ท่อน ความลึก 36 เมตร ในวันนี้นำท่อเหล็กมาเตรียมพร้อม 200 ท่อน

12.50 น.—ระดับน้ำในถ้ำยังสูงอยู่ เจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำออกจากถ้ำให้ได้มากที่สุด ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่มีเครื่องสูบน้ำจำนวน 40 เครื่อง ทางด้านเจ้าหน้าที่หน่วยซีลหยุดพักชั่วคราว และเมื่อช่วง 10.00 น. เพจ Thai NavySEAL ระบุว่า มีการเติมกำลังหน่วยซีลเข้าพื้นที่อีกชุดพร้อมอุปกรณ์พิเศษ โดยจะเดินทางถึงถ้ำหลวงบ่ายวันนี้

12.20 น.—มีการส่งชุดปฏิบัติการ 2 ชุดเพิ่ม ไต่หน้าผา เขานางนอน ทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เพื่อสำรวจพื้นที่เพิ่ม หลังโดรนบินสำรวจต่อเนื่อง และทีมจากประเทศสหรัฐฯ เข้าสแกนพื้นที่ 40 นาที โดยมีทีมจากประเทศสหรัฐฯ ที่เข้าไปจำนวนกว่า 20 นาย เป็นการเดินเท้าสำรวจ เพื่อนำข้อมูลมาขออุปกรณ์เข้าพื้นที่

12.15 น.—บรรยากาศบริเวณวนอุทยานถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบว่ามีกลุ่มเมฆฝน เหนือบริเวณดังกล่าว ซึ่งที่ผ่านมาปริมาณน้ำฝนที่ไหลเข้าถ้ำ คือหนึ่งในอุปสรรคหลักของทีมค้นหา แต่ถึงกระนั้น ทุกฝ่ายก็ไม่ย่อท้อ พยายามทำงานแข่งกับเวลา เพื่อช่วย 13 ชีวิตให้ออกจากถ้ำหลวงให้เร็วที่สุด

11.57 น.—การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคติดตั้งสายไฟฟ้ากันน้ำและลากเข้าไปในถ้ำหลวงเพิ่ม เพื่อเร่งสูบน้ำออกจากถ้ำ

11.23 น.—ทีมปตท.สผ.ปล่อยโดรนสำรวจบนปล่องเหนือถ้ำบนดอยผาหมี

11.00 น.—หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาที่ถ้ำหลวงในช่วงเช้าที่ผ่านมา ล่าสุดนายกฯ ได้เข้าพบผู้ปกครองและญาติของผู้สูญหายทั้ง 13 คน และชวนทุกคนนั่งสมาธิร่วมกั

10.40 น.—ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เดินทางมาถึงถ้ำหลวง จ.เชียงราย ได้เข้าให้กำลังใจกลุ่มพ่อแม่และผู้ปกครองของเด็กๆ ทีมหมูป่า ที่มารอคอยลูกหลานด้วยความหวัง เป็นวันที่ 7 แล้ว

10.30 น.—สถานการณ์การสูบน้ำออกจากถ้ำหลวงเริ่มเป็นไปในทางบวก หลังจากฝนหยุดตก ทำให้การเร่งสูบน้ำออกจากทางปากถ้ำทำให้ระดับน้ำในถ้ำเริ่มลดลง สำหรับสถานการณ์การขุดเจาะน้ำบาดาล พบว่าตอนนี้ขุดลงไปได้ลึก 34 เมตรแล้ว และเจอน้ำบาดาลแล้วที่ความลึก 25 เมตร โดยเจ้าหน้าที่หวังว่าจะขุดให้ได้ลึก 70-100 เมตร

10.15 น.—เจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัย ชุดสื่อสาร และพลร่ม เริ่มปฏิบัติการโรยตัวเข้าไปในโพรงที่ผู้เชี่ยวชาญชาวต่างชาติพบเมื่อวานนี้ บริเวณดอยผาหมี

09.50 น.—ทางเจ้าหน้าที่ได้เปิดเผยว่าตอนนี้ได้หย่อนกล่องช่วยเหลือจำนวน 20 กล่อง ลงไปในปล่องถ้ำทางต้นน้ำ โดยหวังว่ากล่องจะลอยตามกระแสน้ำไปถึงจุดที่ทีมหมูป่าอยู่ โดยภายในกล่องประกอบด้วยน้ำ อาหาร และดินสอ นอกจากนี้ยังมีแผนที่ เพื่อให้ทีมหมูป่าสามารถมาร์คจุดได้ว่าตนเองอยู่ส่วนไหนของถ้ำ และส่งลอยตามน้ำกลับออกมาภายนอก เพื่อที่เจ้าหน้าที่จะสามารถระบุพิกัดและทำการช่วยเหลือได้ตรงจุด ทั้งนี้บนกระดาษแผนที่มีข้อความเขียนว่า “ถ้าได้รับแล้วตอบกลับด้วย ว่าอยู่ตรงไหนของแผนที่ ทุกคนจะรีบช่วยด่วน!” 

09.32 น.—เจ้าหน้าที่กก.ตชด.32 เริ่มวางแผนหาจุดเพื่อเดินเท้าสำรวจโพรงซึ่งอาจจะเป็นทางเข้าถ้ำ บนดอยผาหมี อีกครั้ง

09.29 น.—พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึง ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน ทันทีที่มาถึงได้เข้าประชุมกับทีมเจ้าหน้าที่ที่ให้ความช่วยเหลือทั้ง 13 ชีวิตที่ติดถ้ำหลวง ซึ่งเริ่มเข้าสู่วันที่ 7 จากนั้นได้แวะเยี่ยมเจ้าหน้าที่แพทย์ที่มาเปิดรพ.สนามที่ถ้ำหลวง และเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานอยู่พื้นที่จากนั้นได้ลงไปที่บริเวณถ้ำหลวง โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนติดตามเข้าไปโดยนายกฯได้หันมาพูดว่า “รอหน่อยไม่ได้เหรอ ไม่งั้นนายกฯก็ไม่ได้เข้าไปในถ้ำ”

09.00 น.—ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูบาบุญชุ่ม ญาณสํวโร แห่งวัดพระธาตุดอนเรือง เมืองพง รัฐฉาน ประเทศเมียนมา เกจิดังซึ่ง เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวพุทธหลายประเทศ ทั้งไทย ลาว พม่า จีน และภูฏาน ซึ่งเคยจำพรรษาในถ้ำเป็นเวลานานชนิดปิดวาจา ได้เดินทางกลับจากประเทศลาวแล้ว และกำลังเดินทางไปที่ถ้ำหลวงขุนนางนอน จ.เชียงราย เพื่อส่งกระแสจิตกำลังใจไปยังผู้ช่วยโค้ชและทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมี่ รวม 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายในถ้ำ ประกอบกับเด็ก 1 ใน 13 คน ทีมหมูป่านั้น เป็นลูกชายของลูกศิษย์พระครูบาพ่อบุญชุ่มด้วย

09.00 น.—เช้านี้ ผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำจากประเทศญี่ปุ่น ได้เดินทางมาที่ถ้ำหลวง เตรียมช่วยในปฏิบัติการระบายน้ำออกจากถ้ำ

08.40 น.—ตั้งแต่เมื่อวานนี้ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการเร่งสูบน้ำออกจากถ้ำอย่างเต็มกำลัง และในขณะนี้ก็ยังเร่งสูบน้ำออกมาอยู่ แต่ปรากฏว่าปริมาณในถ้ำยังไม่ได้ลดลง โดยคุณสุรทิน ชัยชมภู นายกสมาคมน้ำบาดาลไทยระบุกับทีมข่าวเวิร์คพอยท์ว่า เมื่อคืนสูบน้ำตลอด แต่ปริมาณน้ำไม่ได้ลดลง เนื่องจากมีฝนตก ส่วนการเจาะผนังถ้ำ แม้จะเจาะในแนวดิ่งได้ลึกกว่า 50 เมตรแล้ว แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากยังไม่เจอตาน้ำ เจอแต่โพรงน้ำ ส่วนการเจาะผนังถ้ำจุดแรกตั้งแต่เมื่อวานนั้น มีน้ำไหลออกมาจริง แต่ทีมเชื่อว่าไม่ใช่จุดเป้าหมาย ไม่น่าจะสามารถระบายปริมาณน้ำในถ้ำได้มากนัก จึงเปลี่ยนการเจาะมาเป็นแนวดิ่ง

07.30 น.—ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานตั้งโรงทานเลี้ยงเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชน ในภารกิจค้นหาทีมนักฟุตบอลเยาวชน 13 คนที่พลัดหลงไปในถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ด้านทิศใต้ของวนอุทยานฯ เพื่อเลี้ยงประชาชนวันละ 1,000 คน โดยมีบรรดาจิตอาสาผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมาช่วยกันประกอบอาหารเพิ่มขึ้นอีกแห่ง รวมทั้งอาหารที่นำมาจากองค์กรต่างๆ

06.30 น.—เครื่องสูบน้ำยังคงเดินเครื่องต่อเนื่องทั้ง 7 ตัว ขณะที่ระดับน้ำในถ้ำหลวงยังทรงตัว อยู่ในปริมาณที่น่าเป็นห่วง และน้ำยังเอ่อมาหน้าปากถ้ำ โดยตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาผู้ว่าฯ เชียงราย ได้เข้าไปดูแลการทำงานของเจ้าหน้าที่ในถ้ำ และจะเริ่มดำเนินการตามแผน 7 มาตราการในเช้าวันนี้

01.00 น.—เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค PEA ยังปฏิบัติงานต่อเนื่องเพื่อจ่ายไฟจากเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนาด 500 กิโลวัตต์ ให้กับเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่เร่งระบายน้ำ และการติดตั้งหม้อแปลง ขนาด 30 KVA ระบบแสงสว่างให้เพียงพอ กับการทำงานของเจ้าหน้าที่ส่วนอื่นๆ

01.00 น.—ปฏิบัติการเจาะถ้ำระบายน้ำยังไม่สำเร็จ

ในภาพอาจจะมี 1 คน, ข้อความ

[วันพฤหัสบดี 28 มิ.ย.61]

21.00 น.—เปลี่ยนแนวขุดเจาะเป็นแนวดิ่งแล้ว

20.48 น.—การเจาะถ้ำในแนว 45 องศาไม่ได้ผล กำลังปรับแผนเพื่อเจาะใหม่ในแนวดิ่ง

20.15 น.—เจ้าหน้าที่ทหารชักรอกสายไฟเข้าไปในถ้ำหลวงเพิ่ม ตามแผนของเจ้าหน้าที่ไฟฟ้าฯ ที่จะส่งสายไฟเข้าไปในถ้ำให้ได้ลึกขึ้น

19.30 น.—การเจาะประสบความสำเร็จ และมีน้ำบางส่วนเริ่มไหลออกมาจากถ้ำแล้ว

19.00 น.—ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ทำการเจาะถ้ำ เป้าหมายเพื่อให้สามารถใช้เครื่องแรงลมสูบน้ำออกมาจากภายในถ้ำหลวง

19.00 น.—พระภิกษุสงฆ์ นำญาติผู้สูญหายทั้ง 13 คน สวดมนต์ดังก้อง ซึ่งบรรยากาศเต็มไปด้วยความหวังเเละพลังศรัทธา โดยหันหน้าไปทางถ้ำนางนอน เป็นจุดที่เจ้าหน้าที่กำลังขุดเจาะบาดาลระบายน้ำออกจากถ้ำ เพื่อเป็นกุศลให้เจ้าหน้าที่ทำภารกิจได้สำเร็จ อุทิศให้กับเจ้าแม่นางนอน เเละอธิษฐานให้ผู้สูญหายทั้ง 13 คน ได้ออกกลับจากถ้ำ

18.34 น.—ผลสรุปการสำรวจพื้นที่ด้านฝั่งขวาของถ้ำวันนี้ ตลอดทั้งวันทางทีมสำรวจพบโพรงถ้ำทั้งสิ้น 9 จุด พบแล้วว่าเป็นโพรงตัน 3 จุด อีก 3 จุดอยู่ในจุดที่สูงและชัน จำเป็นต้องใช้นักไต่เขาเข้าช่วยสำรวจ และอีก 3 แห่งยังไม่ได้สำรวจความลึก

17.50 น.—บริเวณหน้าถ้ำหลวงมีฝนตกลงมาอย่างหนักอีกครั้ง ขณะเจ้าหน้าที่เร่งสูบน้ำออกจากถ้ำ

17.30 น.—เจ้าหน้าที่ได้ใช้กลยุทธ์ใหม่ในการพยายามลดระดับน้ำภายในถ้ำ โดยการเจาะพื้นหาตาน้ำที่เชื่อมต่อกับน้ำในถ้ำ แล้วสูบน้ำออกจากตาน้ำดังกล่าว โดยหวังว่าการสูบน้ำออกจากตาน้ำนี้จะช่วยลดระดับน้ำภายในถ้ำได้

17.00 น.—เจ้าหน้าที่ได้ปิดกั้นทางน้ำเพื่อไม่ให้ไหลเข้าถ้ำ ขณะที่นักสำรวจพยายามหาวิธีเปิดบริเวณท้ายถ้ำตามแผนที่ของนักสำรวจถ้ำทำไว้

16.14 น.—บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (CAT) ได้เชื่อมต่อสาย Fiber Optic เพื่อให้มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตภายในถ้ำ เเละทำการติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้ด้านใน

15.00 น.—ทีมนักดำน้ำจากอังกฤษได้ดำน้ำเพื่อสำรวจพื้นที่เเละค้นหา 13 ชีวิต เป็นเวลาเกือบ 2 ชั่วโมง โดยเริ่มปฎิบัติภารกิจตั้งแต่เวลา 12.00-15.00 น. และได้กลับขึ้นมาแต่ยังไม่มีข้อสรุปใดๆ

14.50 น.—ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์รายงานว่ากรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)เสริมกำลังทีมค้นหาและกู้ภัย (USAR) กว่า 100 นายเพื่อสนับสนุนการค้นหานักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่า

14.00 น.—ที่บริเวณถ้ำหลวง ฝนหยุดตกแล้ว ท้องฟ้าแจ่มใส

13.30 น.—รศ.ดร.สุทธิศักดิ์ ศรลัมพ์ ผู้เชี่ยวชาญวิศวกรรมปฐพี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เผยถึงแผนการค้นหาทีมหมูป่าทั้ง 13 คน ว่าเจ้าหน้าที่เตรียมเจาะผนังถ้ำหลวงเป็นอุโมงค์ขนาดเล็กกว้าง 4-5 นิ้ว ทั้งนี้ ไม่ใช่การเจาะเพื่อให้คนเข้าไปได้ แต่ต้องการให้เด็กๆ และโค้ชซึ่งติดอยู่ข้างใน รับรู้ว่าด้านนอกมีทีมที่พยายามช่วยเหลือพวกเขาอยู่ ขณะนี้รอพิกัดที่ชัดเจนและข้อมูลจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรธรณี กรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อสแกนหาโถงถ้ำที่คาดว่าทั้ง 13 คนอยู่

13.15 น.—หน่วยซีลยังไม่สามารถดำน้ำเข้าไปภายในถ้ำหลวงได้ เพราะระดับน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากฝนที่ยังคงตกลงมาต่อเนื่อง แม้ว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่จะใช้เครื่องสูบน้ำจำนวน 20 เครื่อง แต่ก็ไม่สามารถสู้กับปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นได้ ล่าสุดน้ำยังดันขึ้นมาปิดโพรงถ้ำและเอ่อออกมาจนถึงหน้าถ้ำ หน่วยซีลส่วนหนึ่งสแตนบายรอน้ำลด หากสามารถเข้าไปในถ้ำได้ก็จะเริ่มปฏิบัติการด้านในถ้ำอีกครั้ง และกระจายกำลังอีกส่วนขึ้นเขาร่วมกับชาวบ้าน หาช่องทางอื่นที่อาจนำไปถึงตำแหน่งที่คาดว่าทั้ง 13 ชีวิตจะอยู่

12.40 น.—ชุดลาดตระเวนร่วม ชป.ที่1 ได้เเจ้งว่าพบทางลงถ้ำ ทางด้านขวาของถ้ำหลวง พิกัดNC 894 550 ซึ่งเป็นทางลงถ้ำใหม่ โดยมีความกว้างขนาด 3 คน สามารถเดินได้พร้อมกัน

12.13 น.—ดร.ธนา สราญเวชภัณฑ์ ผู้เชี่ยวชาญบริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตเลียม จำกัด เผยว่า ปตท.สผ. เข้ามาช่วยสำรวจพื้นที่โดยใช้โดรน MPIO 3 ตัว ที่ใช้สำหรับตรวจสอบซ่อมบำรุง ปกติจะใช้สำรวจพื้นที่ขุดเจาะน้ำมัน เพื่อนำมาบินสำรวจบนเขา

โดรนนี้สามารถทำแผนที่สามมิติและสามารถตรวจจับอุณหภูมิได้ แต่ต้องประเมินสถานการณ์หน้างานก่อน แต่จะติดตั้งภายในวันนี้ โดยระยะการบินพื้นที่ 2 ตร.กม. และยังมีอุปกรณ์ในการสำรวจใต้น้ำอีกด้วย แม้น้ำจะเป็นดินโคลนขุ่นก็ไม่เป็นอุปสรรค สามารถทำงานได้

12.09 น.—ทีมช่วยเหลือพบหมวกสีแดงคาดว่าเป็นของน้องไตเติ้ล นักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าที่เคยร่วมวิ่งกับตูน-อาทิวราห์ ในแคมเปญก้าวคนละก้าว ล่าสุดผู้ปกครองน้องโน๊ตยืนยันแล้ว ไม่ใช่หมวกของผู้ประสบภัย เมื่อผู้สื่อข่าวไปถามผู้ปกครองคนอื่น ๆ ก็ได้คำตอบตรงกัน

11.58 น.—ทีมนักประดาน้ำชาวอังกฤษพร้อมถังออกซิเจนเดินเข้าถ้ำหลวงอีกครั้ง

10.56 น.—การลากสายสื่อสารไปยังถ้ำหลวงเพื่อสนับสนุนการทำงานของทีมค้นหา เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักก่อนหน้านี้

10.49 น.—เจ้าหน้าที่กำลังเร่งเเก้เครื่องสูบน้ำ หลังจากที่เมื่อคืนไม่สามารถสูบน้ำได้เนื่องจากในพื้นที่มีฝนตกลงมาอย่างหนักตลอดทั้งคืน

10.35 น.—ทีมนักประดาน้ำอังกฤษขนอุปกรณ์เข้าถ้ำหลวง

10.30 น.—เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทหาร ร่วมกับกรมปภ. ได้ร่วมประชุมวางแผนก่อนเริ่มเดินเท้าสำรวจโพรงถ้ำ บนดอยผาหมี

09.35 น.—เร่งปรับพื้นที่หน้าถ้ำหลวง  กรมทางหลวงชนบท ขนหินละเอียด หลายสิบคัน เข้าถมพื้นที่บริเวณ ลานด้านหน้าศูนย์ประสานช่วยเหลือ 13 ชีวิตติดถ้ำ เนื่องจากฝนที่ตกต่อเนื่องโดยเฉพาะเมื่อคืนที่ฝนตกหนักทำให้พื้นดิน กลายเป็นโคลน ยากต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ทั้งการเดินที่ยากลำบาก รวมทั้งรถของเจ้าหน้าที่ ขณะที่ทีมกู้ภัยกว่า 20 นายออกพื้นที่ ภารกิจสำรวจและปิดทางน้ำ

09.30 น.—ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดโรยตัวได้เตรียมออกเดินทางขึ้นเขา เพื่อเดินเท้าออกสำรวจปล่องหรือโพรงที่อาจสามารถใช้เพื่อโรยตัวลงไปภายในถ้ำได้

09.15 น.—ทหารสหรัฐ (Us army) ประมาณ 5-6 นาย ได้เดินทางมาถึงถ้ำหลวง อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อสมทบภารกิจช่วยเหลือ 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลว

09.15 น.—ทีมเจ้าหน้าที่โรยตัวกว่า 40 คน ได้สนธิกำลังกันเดินทางสู่ดอยผาหมี เตรียมเดินเท้าสำรวจหาโพรงและปล่องเพื่อเข้าถ้ำ ช่วยเหลือทั้ง 13 คนที่สูญหายต่อไป

9.00 น.—พล.ต อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางตรวจความพร้อมของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติงาน และนำสายไฟออฟติกนำมาติดตั้งกล้องบันทึกภาพการปฏิบัติงานเจ้าหน้าที่ภายในแต่ละจุด กล้องมีความละเอียดสูง ใช้ในการค้นหาได้ง่ายขึ้น  เมื่อเวลา 08.00 น. ชุดทีมโรยตัวของศูนย์กู้ภัยและมวลชลสัมพันธ์วางแผนขึ้นสำรวจปล่องในจุดบีแต่ยังไม่มีพิกัดชัดเจน โดยจะใช้วิธีลาดตระเวน

ด้านชุดโรยตัวของ ตชด. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตารอง ผบ.ตร. หารือกับMr.Vernon Harry Unsworth ชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นนักสำรวจถ้ำที่เคยเข้าไปสำรวจเมื่อ2 ปีที่แล้ว เพื่อหาโพรงถ้ำ และได้ออกสำรวจโพรงถ้ำที่ดอยผาหมีอีกครั้ง พร้อมนำสุนัขตำรวจ K-9ติดตามกลิ่นเด็ก 13 คน4

นอกจากนี้ยังมีวิศวกรจากสภาวิศกร เดินทางมาประชุมร่วมกับทีมปฏิบัติงาน ส่วนบริเวณหน้าถ้ำหลวงฝนหยุดตกแล้ว ชุดค้นหาประชุมเข้ม ปรับแผนค้นหาผู้สูญหาย หลังคืนที่ผ่านมา ฝนตกหนักน้ำในถ้ำขึ้นสูง จนท.เร่งปรับพื้นที่ดินโคลนให้สะดวกในการทำงาน

09.00 น.—สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยแถลงเรื่องความร่วมมือกับทางการไทยที่ถ้ำหลวง ใจความว่า

“สหรัฐอเมริกามีความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อกรณีที่นักฟุตบอลเยาวชนและผู้ฝึกสอนสูญหายเข้าไปภายในถ้ำหลวง ในเขตภาคเหนือของประเทศไทย ตลอดจนครอบครัวและทีมช่วยเหลือผู้สูญหาย กองกำลังสหรัฐอเมริกาภาคพื้นแปซิฟิก (USPACOM) ได้ส่งทีมค้นหาและกู้ภัย เพื่อช่วยตามหาผู้สูญหาย ตามคำขอของรัฐบาลไทย ขณะนี้ ทีมค้นหาและกู้ภัยของสหรัฐฯ เดินทางถึงจังหวัดเชียงรายแล้วและได้นำเอาประสบการณ์รวมทั้งความสามารถด้านการค้นหาและกู้ภัย มาสนับสนุนความพยายามของทางการไทยในการค้นหาผู้ที่ติดอยู่ในถ้ำ เราหวังว่านักฟุตบอลและผู้ฝึกสอนจะได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยในเร็ววัน”

08.40 น.—เจ้าหน้าที่ได้ระดมทีมกู้ภัยจิตอาสา ที่รวมตัวกันจากหลายจังหวัด ขึ้นสำรวจโพรงบนภูเขา ด้วยลักษณะบนภูเขาเป็นป่าทึบเเละมีฝนตกอย่างเนื่องจึงจำเป็นต้องใช้วิธีการเดินเท้าเพื่อค้นหา ทั้ง 13 ชีวิตที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลว

07.00 น.—หน่วยซีล และ จนท.ทุกหน่วย ถอนกำลังออกจากถ้ำขึ้นที่สูงแล้ว หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน จนท.หยุดเดินเครื่องสูบน้ำทั้งระบบ และล่าสุดน้ำท่วมทุกห้องโถงของถ้ำจนไม่สามารถปฎิบัติการค้นหาได้ รอประชุมปรับแผนการค้นหาใหม่ 9 โมงวันนี้

02.00 น.—ด้วยฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ตอนนี้มีการถอนกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมากออกจากถ้ำ โดยล่าสุดยังไม่มีการยืนยันว่าพบผู้สูญหายทั้ง 13 คนแล้วหรือไม่

02.00 น.—สถานการณ์ล่าสุดเป็นไปในทิศทางบวก โดยเฉพาะการแถลงข่าวจาก นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าฯ เชียงราย ที่กล่าวว่า “วันนี้ เป็นวันแรกที่สูบน้ำออกจากถ้ำได้ ทำให้ทุกคนมีรอยยิ้มและความหวัง…” เมื่อช่วงเวลาประมาณ 20.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. 61

สอดคล้องจากการประเมินสถานการณ์ที่ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. และโฆษก สตช. ได้กล่าวว่า “มีสัญญาณที่ดี โดยระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง” เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. วันที่ 27 มิ.ย. 61

ประกอบกับการเคลื่อนไหวต่างๆ ที่ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์รายงานว่า มีรถพยาบาลจำนวน 13 วิ่งเข้ามาในพื้นที่ แต่ในขณะเดียวก็มีกระแสข่าวลือที่แพร่สะพัดว่า ได้พบตัวโค้ชและนักฟุตบอลทั้ง 13 ชีวิตแล้ว ซึ่งทางผู้เกี่ยวข้องยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และขอให้รอแถลงการณ์อย่างเป็นทางการจาก จนท.

01.25 น.—ขณะนี้ที่บริเวณถ้ำหลวง ฝนเกิดตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ระดับน้ำในถ้ำเพิ่มสูงขึ้นเร็วมากจนถึงโถง 2 แล้ว อีกเพียงประมาณ 800 เมตรน้ำจะสูงถึงปากถ้ำ ส่งผลให้หน่วยซีลรวมถึงนักประดาน้ำจากอังกฤษต้องพักการค้นหาไว้ชั่วคราว

00.22 น.—ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ รายงานจากบริเวณถ้ำหลวงว่า นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เดินเข้าถ้ำหลวงอย่างรีบเร่ง ในขณะที่นักดำน้ำต่างชาติ ยังคงช่วยปฏิบัติภารกิจค้นหา 13 ชีวิตทีมหมูป่าอยู่ภายในถ้ำ และมีรายงานเพิ่มเติมด้วยว่า มีแพทย์สนามเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น

 

[วันพุธ 27 มิ.ย.61]

22.30 น.—เตรียม “รถพยาบาล” 13 คัน เข้าพื้นที่  ความคืบหน้าจากกรณีที่โค้ชและนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่า รวมทั้งสิ้น 13 คน ได้ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. 61 จนถึงขณะนี้ (27 มิ.ย.) รวมเป็นเวลา 5 วันแล้วนั้น ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. วันที่ 27 มิ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวเวิร์คพอยท์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ได้รายงานว่า มีการเตรียมรถพยาบาลมาจอดเรียงไว้ 13 คัน ใกล้ รพ.สนาม บริเวณช่องทางรถที่พร้อมวิ่งออก และจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ระบุให้มีการเตรียมทีม 13 ทีม พร้อมสั่งสแตนบาย 24 ชั่วโมงคืนนี้

22.20 น.—ที่บริเวณถ้ำหลวง ฝนเกิดตกลงมาอีกครั้ง หลังจากทิ้งช่วงไปกว่า 7 ชั่วโมง

22.15 น.—หลังจากที่ทีมนักประดาน้ำอังกฤษเดินทางมาถึงบริเวณถ้ำหลวงในช่วงหัวค่ำ และได้ทำการทดสอบอุปกรณ์แล้วตั้งแต่ช่วงประมาณสามทุ่มครึ่ง ล่าสุดเวลาประมาณ 22.15 น. ทางทีมนักประดาน้ำอังกฤษได้เดินทางเข้าไปในถ้ำหลวงเพื่อปฏิบัติการแล้ว

20.30 น.—เจ้าหน้าที่กำลังต่อสายส่งน้ำเข้าไปในถ้ำเพิ่ม จากที่ก่อนหน้านี้ได้มีการต่อสายส่งน้ำเข้าไปในถ้ำยาว 1.5 กิโลเมตร และได้ทำการสูบน้ำออกเบื้องต้นแล้วตอนประมาณ 5 โมงเย็น พบว่าเครื่องสูบน้ำใช้การได้ดี ตอนนี้เจ้าหน้าที่เลยทำการต่อสายส่งน้ำเพิ่ม โดยตั้งเป้าจะต่อสายให้ยาวรวม 3 กิโลเมตร เพื่อให้สามารถสูบน้ำออกจากจุดที่อยู่ลึกของถ้ำได้

20.20 น.—เจ้าหน้าที่หยุดสูบน้ำชั่วคราว เพื่อต่อสายส่งน้ำเข้าไปในถ้ำให้ลึกขึ้น จากที่ตอนแรกต่อสายไว้ยาวเพียง 1.5 กิโลเมตร และจะต่อเพิ่มให้ยาวเป็น 3 กิโลเมตร เพื่อให้สามารถสูบน้ำจากส่วนลึกของถ้ำออกมาได้ คาดว่าเมื่อต่อสายส่งน้ำเสร็จแล้ว จะดำเนินการสูบน้ำออกจากถ้ำต่อได้ทันที

19.40 น.—หน่วยกู้ภัยอังกฤษได้เดินทางถึงถ้ำหลวงเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว คาดการณ์ว่าจะลงถ้ำเพื่อดูพื้นที่ในเบื้องต้นคืนนี้ ส่วนจะดำน้ำเลยหรือไม่ รอประเมินสถานการณ์อีกครั้ง แต่ตามกำหนดการเดิม ผู้ว่าระบุจะเริ่มปฏิบัติการในวันพรุ่งนี้

18.40 น.—ตัวแทนจุฬาราชมนตรี สวดดูอาร์ขอพรให้การปฏิบัติงานสำเร็จ พร้อมมอบเงินบริจาคจากคณะกรรมการอิสลามภาคเหนือ 106,000 บาท ช่วยปฏิบัติการครั้งนี้

17.15 น.—ขณะนี้เครื่องสูบน้ำที่ได้ติดตั้งภายในถ้ำหลวงเริ่มเดินเครื่องแล้ว เตรียมเดินเครื่องเต็มกำลังคาดว่าจะสูบน้ำออกมาจากถ้ำได้ประมาณ 3,000-5,000 ลิตร/นาที

ทั้งนี้หลังจากที่เริ่มสูบน้ำออกมาได้ ได้มีการตรวจสอบน้ำที่สูบออกมาได้ พบว่าอุณหภูมิน้ำเย็นกว่าภายนอก และตอนนี้ยังมีอากาศผสมอยู่ในการสูบน้ำออกมา

17.04 น.—เจ้าหน้าที่เริ่มเดินเครื่องสูบน้ำแล้ว และสามารถสูบน้ำจากภายในถ้ำออกมาได้แล้ว สร้างความดีใจให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวเป็นอย่างมาก

17.00 น.—ครบ 100 ชั่วโมงแล้ว ที่ทั้ง 13 ชีวิตยังคงติดอยู่ในถ้ำหลวง ส่วนการช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ยังคงเป็นไปอย่างแข็งขันแข่งกับเวลา

16.48 น.—พลตรีฉลองชัย ชัยยะคำ รองแม่ทัพภาคที่3 แถลงความคืบหน้า เครื่องสูบน้ำจากกรุงเทพฯ ที่พล.อ.ประวิตรส่งมาติดตั้งแล้ว อีก 20 นาทีจะสูบน้ำล็อตแรกออกโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้ระดับน้ำพร่องลงมาพอที่เจ้าหน้าที่จะปฏิบัติการได้

เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานทั้งด้านบนเขาและภายในถ้ำ หน่วยซีลแม้สภาพอากาศจะเป็นฝนตกแต่ก็ทำงานได้ ยังไม่ถึงจุดพัทยาบีช เนื่องจากถังออกซิเจนถังหนึ่งสามารถไปได้ไกลเพียง 300 เมตร ด้านภาคพื้นด้านบนชุดลาดตระเวณและชุดรบพิเศษลาดตระเวณหาโพรงเพื่อมุดจากทางด้านบน และจะมีการเจาะถ้ำจากภาคธรณีวิทยา

รองผบ.ทบ.ยืนยันว่าดำเนินการค้นหาทุกวิถีทางรวมถึงดำเนินการตามเบาะแสที่ได้รับจากคนในพื้นที่ด้วย คืนนี้จะได้รับความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญที่ส่งจากอังกฤษ ขณะที่กองทัพสหรัฐอเมริกาจะส่งความช่วยเหลือเร็วๆนี้ ยังไม่มีรายงานว่าพบผู้ประสบภัย

16.00 น.—กู้ภัยชาวเยอรมัน ผู้เชี่ยวชาญด้านการดำน้ำ เดินทางมาถึงหน้าถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนแล้ว รอเข้าร่วมปฏิบัติการค้นหานักเตะทีมหมูป่า

15.45 น.—วันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้แบ่งทีมกันออกสำรวจปล่องและโพรงบริเวณรอบนอกถ้ำหลวง ปรากฏว่าโพรงที่พบเจอแล้วทั้งหมด 3 จุด ตันทุกจุด โดยบริเวณโพรงโซน B มีการยุติการสำรวจตั้งแต่เวลาประมาณ 14.00 น. ส่วนโพรงบริเวณโซน C ได้ยุติการค้นหาเวลาประมาณ 14.45 น. ทำให้สถานะล่าสุดตอนนี้ ทั้ง 3 โพรงที่เจ้าหน้าที่เจอและได้เข้าไปสำรวจ ตันทุกโพรง อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติงานค้นหาโพรงอื่นๆ ที่อาจนำเข้าไปสู่ตัวถ้ำได้ต่อไป

15.35 น.—ทีมกู้ภัยในถ้ำจากสภาผู้กู้ภัยถ้ำแห่งสหราชอาณาจักรพร้อมอุปกรณ์วิทยุสื่อสารและดำน้ำจากองค์กรกู้ภัยในถ้ำแห่งดาร์บีไชร์และดำรวจดาร์บีไชร์ ประเทศอังกฤษเดินทางโดยการบินไทยถึงสนามบินสุวรณภูมิแล้ว ทีมนักกู้ภัยจะเดินทางต่อไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย ด้วยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ คาดว่าจะถึงเวลา 18.20 น.

15.30 น.—เจ้าหน้าที่ได้เตรียมเดินเครื่องสูบน้ำ หรือ ไดโว่ ขนาด 5 แรงม้า จำนวนทั้งหมด 20 เครื่อง ติดตั้งภายใน 1 ชั่วโมง เพื่อสูบน้ำออกจากถ้ำ ซึ่งจุดที่ลึกจากปากถ้ำเข้าไป 3 กิโลเมตร โดยประเมินว่าจะมีน้ำประมาณ 5 หมื่นลิตร ที่อยู่ภายในถ้ำ จะถูกสูบออกมายังจุดพัก หลังจากนั้นก็จะใช้เครื่องสูบขนาด 75 แรงม้าที่อยู่บริเวณปากถ้ำ ส่งต่อออกมายังหน้าถ้ำ คาดการณ์ว่าจะสามารถสูบน้ำได้ในปริมาณ 5 พันลิตรต่อนาที

15.17 น.—เพจ Thai NavySEALได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า “สิ่งที่ต้องการมากที่สุดตอนนี้ คือ ถุงเท้ายาว ครับ” พร้อมกับโพสต์รูปภาพประกอบเป็นรูปรองเท้าที่เต็มไปด้วยดินโคลน

14.40 น.—พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ออกจากถ้ำหลวงแล้ว คาดอีกสักครู่ เตรียมแถลงที่ฝ่ายอำนวยการ

14.30 น.—ทหารขนเครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก 20 ตัวเข้าไปในถ้ำหลวง เพื่อเตรียมจะสูบน้ำจากโถง 3 มาพักที่โถง 2 จากนั้นจะมีการใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่มาจาก กทม. ที่มีกำลังสูงกว่า 5,000 ลิตร/นาที สูบน้ำออกจากถ้ำอีกครั้ง โดยทหาร 35 นายได้ขนเครื่องสูบน้ำและสายยางส่งน้ำ ขนาด 6 นิ้ว ยาวกว่า 3 กิโลเมตร เข้าไปในถ้ำแล้ว เตรียมเข้าไปติดตั้งเพื่อสูบน้ำออกจากถ้ำหลวง

14.20 น.—เจ้าหน้าที่นำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็ก20ตัวเข้าไปในถ้ำหลวง เพื่อสูบน้ำจากโถง3 มาพักที่โถง2 จากนั้นจะใช้เครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่มาจากกทม. มีกำลังสูบ1นาที 5,000ลิตร สูบน้ำออกจากถ้ำ กำลังประกอบอุปกรณ์

14.00 น.—เจ้าหน้าที่ได้ยุติการค้นหาปล่องบริเวณโซน B แล้ว หลังจากการสำรวจพบว่าเป็นทางตัน ทำให้ ณ ขณะนี้ ปล่องและโพรงทั้ง 3 แห่งที่พบเจอ ปรากฏว่าตันทั้งหมด แต่เจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังค้นหาโพรงอื่นๆ ที่อาจนำไปสู่ภายในตัวถ้ำได้ต่อไป

13.32 น.—พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก กล่าวว่า ภาพรวมกรอบงานของทหารแบ่งออกเป็น 2 กรอบงาน หน่วยซีล 41 นายรับผิดชอบกรอบงานแรก ปฏิบัติงานบริเวณหน้าถ้ำหลวง โดยที่หมุนเวียนกันปฏิบัติการ

กำลังทหารจากมณฑลทหารบกที่ 37 รับกรอบงานที่สองทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการขนย้ายสิ่่งของ และตำรวจทำหน้าที่จัดระเบียบในพื้นที่ วนอุทยานฯ

นอกจากนี้กองพลทหารราบที่ 7 ตำรวจตระเวนชายแดน และหน่วยรบพิเศษก็ได้กระจายกำลังค้นหาปล่องเพิ่มเติม

ตอนนี้มีนายทหารปฏิบัติหน้าที่เพียงพอแล้ว 800 กว่านายและยังไม่มีแผนเพิ่มกำลังสนับสนุน

13.25 น.—ญาติผู้สูญหายเป็นลมหน้าทางเข้าถ้ำหลวง แพทย์สนามปฐมพยาบาลเบื้องต้น ล่าสุดนำตัวส่งโรงพยาบาลในพื้นที่แล้ว

12.43 น.—นิคม เทพบุตร ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงเชียงรายที่ 1 แจ้งว่ากรมทางหลวงนำเศษยางมาถมพื้นที่บริเวณศูนย์บริการหน้าถ้ำหลวง เพื่อแก้ปัญหาถนนเป็นดินโคลนและเป็นหลุมบ่อหลังฝนตกต่อเนื่อง

12.35 น.—ปล่องบนเขาขนาด 30×50 ซม. ที่เจ้าหน้าที่ชุดกู้ชีพ ตชด. และ อช. เพิ่งสำรวจพบเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ล่าสุดพิสูจน์แล้วว่าเป็น ‘ปล่องตัน’ ลึกแค่ 5 เมตร เจ้าหน้าที่ไม่สามารถโรยตัวลงไปได้

12.00 น.—เจ้าหน้าที่เจอปล่องกว้าง 30×50 ซม. บนเขาตามแนวถ้ำ คาดว่าอยู่เหนือหาดพัทยา ชุดกู้ชีพ ตชด. และ อช. กำลังสำรวจปล่องด้วยความระมัดระวัง เพราะบริเวณนั้นเป็นเชิงผา

11.20 น.—รองอธิบดีกรมชลประทานระบุว่า กรมชลประทานกำลังเร่งระดมเครื่องสูบน้ำทั่วภาคเหนือจำนวน 18 เครื่อง นำเข้าไปช่วยสูบน้ำในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้มีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณหนองน้ำพุเพื่อลดระดับน้ำใต้ดินแล้ว 14 เครื่อง แต่อุปสรรคสำคัญในตอนนี้คือ‘ฝน’ ที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้การพร่องน้ำเป็นไปอย่างยากลำบาก

11.00 น.—กรมอุตุนิยมวิทยา เผยว่าบริเวณภาคเหนือจะมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง
สอดคล้องกับรายงานของผู้สื่อข่าวในพื้นที่ว่าสภาพอากาศมีฝนตกหนักทำให้ปริมาณน้ำเพิ่มอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้มีน้ำไหลลงจากภูเขา ระดับน้ำสูงขึ้นจนท่วมห้องโถง 3 เจ้าหน้าที่ต้องย้ายที่ตั้งมาเป็นห้องโถง 2

สภาพอากาศข้างต้นเป็นอุปสรรคต่อการค้นหา หน่วยซีลต้องยุติปฏิบัติงานชั่วคราวจนกว่าจะสูบน้ำให้มีปริมาณลดลงได้ โดยจะเตรียมความพร้อมรอในถ้ำและมีการส่งอาหารและสเบียงเข้าไปเป็นระยะ

10.53 น.—ฮ.ลำแรกเริ่มบินสำรวจโพรงบนภูเขา แต่ท้องฟ้ายังคงปิดอยู่โดยเฉพาะยอดเขานางนอนซึ่งเป็นที่ตั้งถ้ำหลวง

10.30 น.—เจ้าหน้าที่ชุด ตชด.กู้ภัย เดินเท้ามาถึงพิกัดบนเขาที่คาดว่าอยู่เหนือ ‘หาดพัทยา’ แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างค้นหาปล่องตามเชิงหน้าผา หากพบจะโรยตัวลงค้นหาเด็กๆ และโค้ช

09.35 น.—ชาวบ้านแจ้งว่ามีตาน้ำ เป็นโพรงใกล้ปากถ้ำ เจ้าหน้าที่ลองลงไปสำรวจแล้วลึก 10 เมตร พบว่าทางด้านล่างสามารถไปต่อได้ พื้นผิวเป็นทรายชื้น แต่ยังไม่ยืนยันว่าเส้นทางนี้จะทะลุไปถึงถ้ำที่คาดว่าผู้สูญหายติดอยู่ได้หรือไม่

09.10 น.—ภายหลังจากเจ้าหน้าที่ชุดโรยตัว เข้าไปสำรวจในปล่องถ้ำที่พบตั้งแต่เมื่อวาน ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ลงไปสำรวจปล่องถ้ำแล้วเบื้องต้น พบว่าภายในเป็นโพรงค่อนข้างลึก ความสูงระดับที่สามารถนั่งได้ โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่า “มีโพรง ลึกอยู่ๆ พอเข้าได้”

09.05 น.—เจ้าหน้าที่ชุดโรยตัว ได้มุดลงไปสำรวจปล่องถ้ำที่คาดว่าอาจเชื่อมเข้าไปถึงตัวถ้ำภายในได้  โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปสำรวจแล้ว พบว่าเป็นโพรงค่อนข้างลึก ตัวคนเข้าไปได้

07.45 น.—กลุ่มเจ้าหน้าที่ชุดโรยตัวได้เดินทางออกจากศูนย์ปฏิบัติการ มุ่งหน้าสู่ปล่องถ้ำที่มีการสำรวจพบ เตรียมโรยตัวและมุดปล่องถ้ำในเช้า  เวลาประมาณ 8.20 น. ชุดโรยตัวจะเริ่มเดินขึ้นเขาแล้ว

06.30 น.—ฝนบริเวณถ้ำหลวงตกหนักมาก เจ้าหน้าที่ต้องเปลี่ยนแผนการค้นหาและช่วยเหลือกะทันหั

โดยเบื้องต้นหน่วยซีลยุติการปฏิบัติงานชั่วคราว เพราะระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้น ต้องเร่งสูบน้ำให้มีปริมาณลดลงก่อน ถ้าลดลงแล้วหน่วยซีลจะรีบเข้าปฏิบัติงานต่อทันที อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หน่วยซีลยังคงรอสแตนบายในถ้ำ และมีการส่งอาหารและเสบียงจากภายนอกเข้าไปเป็นระยะ

และเจ้าหน้าที่จะเน้นไปที่การค้นหาทางอากาศและค้นหาโพรงถ้ำเพื่อทำการโรยตัวลงไปแทน โดยจะใช้ทหารและ ตชด. ปูพรมตั้งแต่เช้า หาโพรงถ้ำจากด้านบนและใช้วิธีโรยตัวลงไปโดยทีมกู้ภัย ส่วนตำรวจพลร่มจะใช้เฮลิคอปเตอร์รับเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปวางมาร์คตามจุดและค้นหาจากด้านบนลงไปด้านล่าง

อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เฮลิคอปเตอร์ยังไม่เริ่มปฏิบัติการ เพราะฝนตกหนักมาก

06.00 น.—ทีมผู้เชี่ยวชาญดำน้ำในถ้ำของ นรินทร ณ บางช้าง อดีตนักร้องชื่อดังได้ มิสเตอร์บรูซ ผู้เชี่ยวชาญด้านดำน้ำถ้ำชาวอเมริกันมาสมทบ จะช่วยกันวางแผนกับทีมดำน้ำไทยและหน่วยซีลอีกครั้ง 6:00 น. ก่อนเริ่มปฏิบัติการในเช้าวันใหม่ ทีมนักดำน้ำชุดนี้เป็นคนไทยที่ได้รับการอบรมมาจากอิตาลี และมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตที่ทันสมัยมาจากสวีเดนและอิตาลี

04.45 น.—เพจ Thai NavySEAL รายงานว่า แม้เครื่องสูบน้ำที่นำไปติดตั้งภายในถ้ำจะสามารถใช้งานได้ตั้งแต่เวลาประมาณตี 3 แต่เนื่องจากเครื่องสูบน้ำกำลังไม่พอ ทำให้ไม่สามารถลดปริมาณน้ำในถ้ำได้ และด้วยฝนที่ตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำในถ้ำสูงขึ้นชั่วโมงละ 6 นิ้ว หน่วยซีลจึงต้องย้ายที่ตั้ง จากเดิมที่อยู่โถง 3 ถอยร่นมาอยู่โถง 2 แทน

03.44 น.—กู้ภัยอังกฤษร่วมส่งวิทยุ และทีมงานช่วยเหลือ

00.10 น.—ชุดปฎิบัติการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ ปฎิบัติการลากสายไฟฟ้าชนิดกันน้ำ เข้าถ้ำ รอบที่ 3 เพื่อใช้กับระบบแสงสว่างและให้เครื่องสูบน้ำ เร่งสูบน้ำออกจากถ้ำ

 

[วันอังคาร 26 มิ.ย.61]

21.30 น.—นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย หลังจากประชุมกับทีมงานที่เกี่ยวข้อง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน สรุปภาพรวมปฏิบัติการช่วยเหลือผู้สูญหายในถ้ำหลวงทั้ง 13 คน ดังนี้

1. ตั้งแต่เช้า ได้นำสายไฟลากเข้าไปในถ้ำ โดยมีสายไฟฟ้าแรงสูงความยาวรวม 6 กิโลเมตร ซึ่งลากเข้าไปในถ้ำได้สำเร็จแล้ว ไฟฟ้าแรงสูงดังกล่าวเอาไว้ใช้กับเครื่องสูบน้ำ ซึ่งขณะนี้มีเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ 10 เครื่องติดตั้งไว้ภายในถ้ำ

2. ผู้ว่าฯ ให้ข้อมูลว่า ประเมินว่าถึงอย่างไรก็ต้องสูบน้ำออกจากถ้ำ ทั้งเพื่อเป็นการช่วยหน่วยซีล ให้มีพื้นที่เหนือน้ำขึ้นมาหายใจ เพราะหากไม่สูบน้ำออกระดับน้ำจะสูงถึงเพดาน นอกจากนี้ ยังเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในกรณีที่เจอผู้สูญหายด้วย เพราะประเมินว่าตอนนี้น่าจะอ่อนแรง คงจะไม่สามารถพาดำน้ำออกมาได้ ต้องสูบน้ำให้ลดลงไปถึงระดับหน้าแข้ง เพื่อให้เดินออกมาจากถ้ำได้

3. ได้ส่งทีมเดินเท้า 12 ทีม ให้เดินสำรวจรอบบริเวณนอกถ้ำ เพื่อหาช่องหรือปล่องที่อาจสามารถหย่อนตัวลงไปได้ โดยแต่ละทีมให้เอาข้าวและน้ำสำหรับอยู่ในป่าได้ 3 วัน ไม่ต้องกลับมาหากไม่เจอเบาะแส และพรุ่งนี้เช้าทั้ง 12 ทีมจะเริ่มทำงานต่อทันที

4. ช่องที่พบเจอวันนี้ ยังไม่สามารถส่งคนโรยตัวลงไปได้ เนื่องจากสภาพอากาศไม่เป็นใจ ในวันพรุ่งนี้จะนำเฮลิคอปเตอร์ที่ทนแรงลมได้มากกว่านี้มาเสริม ส่วนทีมโรยตัวพร้อมตั้งแต่วันนี้เวลา 16.00 น. แล้ว

5. หากพบปล่องที่ลงไปได้จริง จะส่งทีมงานลงไป หากไม่สามารถนำผู้สูญหายขึ้นมาทางปล่องได้ จะส่งเจ้าหน้าที่ พร้อมทั้งอาหารและน้ำ ไปอยู่กับผู้สูญหายทั้ง 13 คนก่อน

21.25 น.—ระดับน้ำสูงขึ้น อยู่ห่างจากห้องโถง 3 เพียง 150 เมตร ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบกับช่วง 16.00 น. ระดับน้ำยังคงต่ำกว่านี้มาก โดยอยู่ห่างจากห้องโถง 3 ถึง 500 เมตร

21.00 น.—เพจ รวมพล คนรักทหารเรือ (I Love Navy) ระบุว่าได้มีการเปลี่ยนถังออกซิเจน หลังจากที่หน่วยซีลได้เริ่มปฏิบัติการภายในถ้ำอีกครั้งในช่วงเวลาประมาณสองทุ่ม ทั้งนี้ผู้บัญชาการหน่วยซีลยืนยันว่า คืนนี้ทำการค้นหาไม่หยุด ไม่พบไม่เลิก

20.22 น.—เพจ สถานีตำรวจภูธร แม่สาย ระบุว่าขณะนี้หน่วยซีลทหารเรือได้กลับเข้าไปปฏิบัติการในถ้ำแล้ว 15 นาย หลังจากที่ในช่วงหัวค่ำได้มีหน่วยซีลมาสมทบกำลังเพิ่มอีก 24 นาย โดยจะแบ่งกำลังกันปฏิบัติงานทั้งในถ้ำและบริเวณภายนอก สำหรับสถานการณ์ระดับน้ำในถ้ำขณะนี้ยังคงทรงตัว

20.00 น.—หน่วยทหารจาก มทบ.37 และหน่วยรบพิเศษ ได้ช่วยลำเลียงถังออกซิเจน รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ เข้าไปภายในถ้ำ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานให้หน่วยซีลของกองทัพเรือ

19.55 น.—พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยซีลทหารเรือ ได้นำหน่วยซีลมาเพิ่มอีก 24 นาย จากเดิมที่มีอยู่ 17 นาย เพื่อสลับกันทำหน้าที่ค้นหาต่อไป

18.25 น.—ในช่วงเย็น ที่บริเวณรอบๆ ถ้ำหลวง ได้มีเฮลิคอปเตอร์ของทางการบินสำรวจรอบๆ คาดว่าเป็นการสำรวจจุดปล่องถ้ำใหม่ เพื่อเตรียมส่งเจ้าหน้าที่โรยตัวลงไปอีกครั้งหนึ่ง

17.59 น.—พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมต. กระทรวงมหาดไทย เผยถึงวันพรุ่งนี้ ( 27 มิ.ย. ) จะนำ ฮ. บินสำรวจว่าจะสามารถนำเจ้าหน้าที่โรยตัวได้ไหม แต่จุดนั้นอาจจะลมหน้าผาเป็นอุปสรรค จึงอยากจะได้แบคฮ็อก เเละ MI-17 ซึ่งเป็นเครื่องบินลำเลียงที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งน่าจะมั่นคงกว่า ฮ. ปกติ ในตอนนี้ได้โดรนติดกล้องจากม.พระนครเหนือ สามารถที่จะใช้ควบคู่กับ ฮ. เพื่อตรวจจับความร้องจากผู้สูญหายได้เเละอาจจะรู้ตำแหน่งผู้สูญหายได้

ส่วนหุ่นยนต์ดำน้ำน่าจะมีความยาก เนื่องจากหน่วยซีลที่มีความชำนาญยังทำงานได้ลำบาก ตอนนี้ได้ลากสายไฟเข้าไปติดตั้งเครื่องสูบน้ำยาว 4 กิโลเมตร จากระยะทางต้องทยอยสูบน้ำแล้วพักเพราะไม่สามารถสูฐออกมาได้ทีเดียว

ขณะนี้ได้ส่งอาหารเเละเสื้อผ้า หย่อนลงไปในปล่องถ้ำด้านที่สูงกว่า 90 เมตร ในวันพรุ่งนี้น่าจะได้บิน ฮ. ขึ้นไปสำรวจ
และขอความกรุณาบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ เจ้าหน้าที่ ญาติ เเละสื่อมวลชน อย่าเข้ามาในพื้นที่

16.30 น.—เจ้าหน้าที่ได้ทำการประชุมซักซ้อมชุดโรยตัวลงช่องเขา ก่อนส่งเข้าปฎิบัติการช่วยเหลือจริง เพื่อให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้

16.00 น.—เพจ สถานีตำรวจภูธร แม่สาย รายงานถึงสถานการณ์ว่าได้รับแจ้ง จากในถ้ำ ว่า เพียงอีก 500 เมตรเท่านั้น ระดับน้ำจะถึงห้องโถง 3 โดยสถานการณ์ระดับน้ำในตอนนี้ยังเข้าขั้นวิกฤต

15.40 น.—ทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมรถสูบน้ำระยะไกลจำนวน 3 คัน โดยเเต่ละคันสามารถสูบน้ำได้ไกลถึง 3 กิโลเมตร มีอัตราการสูบมากถึง 8 พันลิตรต่อนาที แต่ละคันจะสูบน้ำจากในถ้ำและนำไปปล่อยในจุดที่ห่างจากปากถ้ำเพื่อกันไม่ให้น้ำไหลกลับเข้าไปท่วมในถ้ำอีก น่าจะสามารถทำให้ปริมาณน้ำในถ้ำลดลงได้

15.20 น.—เจ้าหน้าที่ตะเพิดผู้ค้า ไม่ให้ขายของหน้าถ้ำ

15.00 น.—ล่าสุดทางเพจได้ออกมาประกาศอีกครั้ง ว่าได้รับเชือกกู้ภัย 2,000 เมตร ครบแล้ว

14.50 น.—กรมทรัพยากรธรณีแถลงวันนี้ในช่วงบ่ายว่า พบทางเข้าถ้ำหลวงจุดใหม่แล้ว โดยอยู่ห่างจากทางเข้าหลักไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ประมาณ 4 กิโลเมตร ล่าสุดกำลังเร่งส่งทีมโรยตัวไปสำรวจ ว่าจะสามารถเชื่อมต่อกับทางเข้าหลักได้หรือไม่

13.47 น.—การทำงานของเจ้าหน้าที่หน่วยซีลเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากไม่สามารถเข้าไปยังโถงกลางได้เพราะมีน้ำท่วมติดเพดาน มีโคลนและมีภาวะโคลนดูด ซึ่งระดับน้ำในตอนนี้อยู่ในขั้นวิกฤตเพราะมีฝนตกลงมาอย่างหนักเเละน้ำก็ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

13.20 น.—เพจ สถานีตำรวจภูธร แม่สาย ได้รายงานว่า ภายในถ้ำ ห่างจากห้องโถง 3 ไปประมาณ 800 เมตร ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ตอนนี้ระดับน้ำสูงค่อนข้างวิกฤต จึงต้องการเชือกกู้ภัยยาว 2,000 เมตร สำหรับนำไปใช้ในการปฏิบัติการ

12.47 น.—เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูเพื่อระบายน้ำจาก ขุนน้ำนางนอนซึ่งอยู่ใกล้กับถ้ำหลวง เพื่อเป็นการเร่งระบายในขณะที่ฝนยังคงตกต่อเนื่อง โดยตอนนี้น้ำลดลงกว่า 1 เมตร

12.40 น.—หุ่นยนต์สำรวจใต้น้ำ จากศูนย์วิจัยเฉพาะทางวิศวกรรมอวกาศและทะเล สำนักวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (KMUTNB) ได้เดินทางมาถึงถ้ำหลวงแล้ว หลังเดินทางในช่วงเช้าจากกรุงเทพมหานคร โดยเครื่องบิน C130 ของกองทัพอากาศ โดยมีเจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือเดินทางมาด้วย เพื่อใช้หุ่นยนต์ดังกล่าวในการช่วยค้นหาผู้สูญหายทั้ง 13 รายต่อไป

12.20 น.—หน่วยซีลได้เดินทางไปถึงโถง 4 แล้ว โดยจุดดังกล่าวห่างจากหาดพัทยาแค่ 400 เมตร แต่มีอุปสรรคคือน้ำมีความขุ่นมาก มองเห็นได้แค่ระยะ 10-15 เซนติเมตรเท่านั้น ข้อมูลจากเพจ Air Force Media by Kawin AFU  

12.15 น.—ระดับน้ำลดแล้วกว่า 1 เมตร หลังมีการเร่งระบายน้ำในหนองน้ำพุใกล้ถ้ำหลวง ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา

12.05 น.—หน่วยซีลได้ทำการอัดอากาศเพื่อส่งเพิ่มเข้าไปข้างในอีก17ถัง จากเมื่อเช้าเอาเข้าไป17ถัง รวมขณะนี้34ถัง ซึ่งเป็นไปตามแผนการที่ทางหน่วยซีลวางไว้ว่าพยายามจะเข้าไปให้สุดถ้ำหลวง

10.35 น.—พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้เปิดเผยว่า ทีมงานในพื้นที่ถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน กำลังพิจารณาหากจำเป็นต้องเจาะเขา เพื่อเปิดทางเข้าค้นหาทีมฟุตบอลเด็กและโค้ชรวม 13 ชีวิต โดยกำลังหาปล่องจากทางอากาศอยู่

10.22 น.—ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงราย รายงานว่าระดับน้ำในถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอนเพิ่มสูงขึ้น 1 เมตรจากฝนตกอย่างต่อเนื่อง ทำให้การช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก

09.49 น.—เฟซบุ๊กแฟนเพจ Thai NavySEAL เผยแพร่ข้อมูลว่า ทีมในพื้นที่เข้าไปทำงานในถ้ำตั้งแต่เช้ามืด และจะเดินหน้าค้นหาไปให้สุดทาง ภายในถ้ำไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ต้องรอให้ชุดข้างในออกมาจึงจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม

09.30 น.—เจ้าหน้าที่ได้นำดินหินมาถมบริเวณปากทางเข้า หลังจากหน้าดินเป็นโคลนทำให้ถนนลื่น เสี่ยงรถติดหล่ม

08.10 น.— กองทัพอากาศให้การสนับสนุนปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายทั้ง 13 คนที่ถ้ำหลวงในวันนี้ด้วย โดยนำเครื่องบิน C130 มาส่งทีมเจ้าหน้าที่จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ พร้อมโดรนจับความร้อน 2 ลำ และหุ่นยนต์ดำน้ำ โดยคาดว่าเครื่องบินจะเดินทางไปถึงสนามบินเชียงรายเวลาประมาณ 9.00 น.

08.00 น.—วนอุทยานถ้ำหลวงฯ ปิดวันนี้ผู้ไม่เกี่ยวข้องห้ามเข้าเด็ดขาด

07.20 น.—เจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) และทหาร ได้ประชุมเตรียมแบ่งทีมกัน เพื่อเดินเท้าตามหาผู้สูญหายทั้ง 13 คน

07.00 น.—ชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัย ม.เทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ออกเดินทางนำหุ่นยนต์ดำน้ำ – โดรนพร้อมติดกล้องตรวจจับความร้อน ร่วมค้นหา 13 ชีวิตนักเตะทีมหมูป่า

06.40 น.—หน่วยซีลจากกองทัพเรือ ได้นำอุปกรณ์เข้าไปในพื้นที่ถ้ำหลวงอีกครั้ง เพื่อปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายต่อเป็นวันที่สอง หลังจากเมื่อช่วงเย็นวานนี้ต้องยุติปฏิบัติการชั่วคราว เนื่องจากน้ำในถ้ำอยู่ในระดับสูงเกินกว่าจะทำการค้นหาต่ออย่างปลอดภัย ผู้บัญชาการหน่วยรบพิเศษที่ 1 ระบุว่าวันนี้หน่วยซีลจะเข้าถ้ำทั้งสิ้น 8 คน ขณะนี้ได้นำอุปกรณ์บางส่วนเข้าไปในถ้ำแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาดำน้ำเข้าไปประมาณ 2 ชั่วโมง

06.25 น.—ญาติผู้สูญหายและชาวบ้านได้ทำพิธีตามหาคนแบบสมัยโบราณ โดยการตีฆ้องและตีกลองเพื่อเป็นการเรียกให้คนที่หายไปได้ยินตามความเชื่อ พ่อแม่ของเด็กที่หายไปบางส่วนยังได้ทำการยกยอ เชื่อว่าเป็นการเรียกขวัญกลับมา

05.00 น.—ทีมดำน้ำคนไทยที่ได้รับการอบรมจากอิตาลีเดินทางถึงบริเวณถ้ำหลวง และรับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ เพื่อวางแผนช่วยเหลือ

01.20 น.—เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอ.แม่สาย เร่งพาดสายไฟเพิ่มเติมเชื่อมสายจากเครื่องปั่นไฟ และดึงสายไฟ IECเข้าไปในถ้ำเพื่อใช้กับเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่

00.45 น.—เริ่มสูบน้ำออกหนองน้ำพุ เพื่อลดระดับน้ำในถ้ำ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายควบคุม

00.20 น.—เริ่มดำเนินการเดินสายไฟติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เพื่อลดระดับน้ำลงให้ได้มากที่สุด

 

[วันจันทร์ 25 มิถุนายน 2561]

20.40 น.—ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย แถลงว่า ในคืนนี้ทางเจ้าหน้าที่เตรียมจะลุยสูบน้ำออกจากถ้ำเพื่อให้ระดับน้ำลดต่ำลง เนื่องจากเป็นห่วงว่ากลุ่มผู้สูญหายน่าจะจะอยู่ในอาการอิดโรย ไม่น่าจะสามารถลุยน้ำออกมาได้หากหน่วยซีลเข้าไปพบ ดังนั้นจึงจะพยายามสูบน้ำออกมาให้เร็วที่สุด เพื่อให้ระดับน้ำต่ำลงจนถึงระดับที่สามารถเดินออกมาได

17.45 น.—หน่วยซีลยุติการค้นหาที่โถงกลางชั่วคราวหลังน้ำเริ่มท่วมปิดปากถ้ำมีความเสี่ยงผู้การซีลเชื่อทุกคนยังมีชีวิตแต่ต้องปรับแผนหาทางเข้าใหม่

17.12 น.—สภ.แม่สายแจ้งถึงความคืบหน้าการค้นหานักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชรวม 13 คนว่า มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานยากลำบากยิ่งขึ้น และยังคงย้ำขอความร่วมมือประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องอย่าเข้าไปในพื้นที่เนื่องจากทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลำบากขึ้

17.10 น.—“มนุษย์กบ” หน่วยซีล หรือหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ได้ขุดตะกอนทรายที่ปิดทางถ้ำไปยังที่ดอนในถ้ำด้านซ้ายได้แล้ว โดยจากการเดินเท้าสำรวจลึกไป 1 กิโลเมตร พบว่า อากาศภายในถ้ำจุดนี้เบาบาง เบื้องต้นจากการประเมินล่าสุดคาดว่ากลุ่มนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ช รวมทั้งหมด 13 คน จะรออยู่ตรงที่เรียกว่า ‘พัทยาบีช’ ที่อยู่ห่างจากจุดที่ซีลเดินสำรวจประมาณ 500 เมตร ตรงนั้นมีลักษณะเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นเนินสูง และมีแอ่งน้ำลึกอยู่ที่ปลายทาง

16.00 น.—ยังคงไม่พบกลุ่มนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทั้ง 13 คน ขณะที่สภาพอากาศเป็นอุปสรรคสำหรับการค้นหาเนื่องจากมีฝนตก แต่เจ้าหน้าที่ยังคงดำเนินการค้นหาต่อไป พร้อมทั้งมีการเตรียมหน่วยพยาบาลเพื่อเข้าช่วยเหลือเบื้องต้นทันทีหากพบตัวทุกคนแล้ว เนื่องจากคาดว่าอาจมีสภาพอิดโรย

15.00 น.—เจ้าหน้าที่ทีมค้นหา และหน่วยบินตำรวจจังหวัดเชียงใหม่ นำเฮลิคอปเตอร์ตำรวจเพื่อสนับสนุนการค้นหา โดยได้ปรึกษากับพ่อหลวงซาเจะ เจ้าของพื้นที่ ซึ่งหลังจากบินสำรวจได้พบปล่องจำนวน 2 ปล่อง ซึ่งอยู่ห่างจากโถงจุดแรกประมาณ 800 เมตร โดยเจ้าหน้าที่ได้เตรียมอาหารและขนมเพื่อโยนเข้าไป และเขียนข้อความใส่กระดาษว่าถ้าเจอขนมให้หยุดรอหน่วยซีล กำลังเดินไปตามหาทาง 7 กม.

13.50 น.—เลขาธิการกสทช. เตรียมสั่งรถโมบายถ่ายทอดสัญญาณ โดยจะนำจากศูนย์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ ไปช่วยสนับสนุนสัญญาณช่วยเจ้าหน้าที่ทีมค้นหา คาดรถโมบายจะไปถึงถ้ำหลวง ภายใน 2-3 ชม.

13.20 น.—สถานีตำรวจภูธรแม่สายรายงานว่า มนุษย์กบ 5 นาย ชุดแรกถอนตัว อีก 5 นายปฏิบัติหน้าที่ต่อ

13.02 น.— ไทยพีบีเอสรายงานว่า จนท.เตรียมปล่อยน้ำออกนอกถ้ำ เพื่อลดระดับน้ำให้เร็วที่สุด และเตรียมตรวจสอบพื้นที่หลังได้ข้อมูลว่าในถ้ำมีปล่องสูงอยู่ 2 จุด ซึ่งอาจจะสามารถทะลุเข้าถ้ำจากด้านบนได้ ก่อนจะประสานเฮลิคอปเตอร์เข้าร่วมทีมค้นหาต่อไป

12.40 น.—เพจ Thai NavySEAL ได้มีการเผยแพร่ภาพห้องโถงใหญ่ภายใน หลังจากที่หน่วยซีลสามารถดำน้ำผ่านจุดที่ยากที่สุดเข้าไปได้ ภาพภายในแสดงให้เห็นห้องโถงขนาดใหญ่ อากาศด้านในค่อนข้างปลอดโปร่งสบายhttps://goo.gl/D8faYW

12.20 น.—พล.ร.ต.อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (ผบ.นสร.) หรือ หน่วยซีล ให้สัมภาษณ์กับไทยพีบีเอสว่า หน่วยซีลได้ผ่านจุดที่ยากที่สุดไปแล้ว เมื่อข้ามไปอีกฝั่งพบรอยเท้าซึ่งคาดว่าเป็นของกลุ่มเด็กๆ จึงคาดว่าจะไปถูกทางแล้ว ด้านในอากาศปลอดโปร่งสบาย

12.01 น.—สถานีตำรวจภูธรแม่สาย เผยแพร่ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจว่า ขอให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องงดเข้าพื้นที่ถ้ำหลวงโดยเด็ดขาด

11.00 น.—ชุดนักประดาน้ำดำลงไปภายในถ้ำลึก 5 เมตร พบทางเข้าห้องโถงใหญ่ เดินสำรวจภายในบริเวณนั้น พบร่องรอยแต่ยังไม่พบตัว

09.38 น.—หน่วยซีล 4 นาย สามารถดำน้ำข้ามไปอีกฝั่งของจุดที่มีน้ำท่วมภายในถ้ำได้แล้วและได้นำอุปกรณ์ชุดปฐมพยาบาล อาหารและน้ำดื่มเข้าไปด้วยแต่ยังไม่พบผู้สูญหายทั้ง 13 คน มีรายงานถึงระดับน้ำในถ้ำว่าตอนนี้เพิ่มสูงจากเมื่อวาน 5 เมตร เป็น 7 เมตร

08.25 น.—ชุดดำน้ำเจาะทะลุอุโมงอีกฝั่ง ยังไม่พบผู้ใด

08.00 น.—ชุดพลั่วเข้าถึงจุดดำน้ำ เจ้าหน้าที่ดำน้ำใช้พลั่วชุดหาช่องทาง

06.00 น.—หน่วยซีล ชุด 2 เข้าไปภายในถ้ำ

04.00 น.—น.อ.อนันท์ สุราวรรณ์ ผู้บังคับการกรมรบพิเศษที่ 1 ได้นำลูกทีมและมิสเตอร์เวิร์น อันสเวิร์ส ที่รับเป็นผู้นำทางเป็นรอบที่ 4 และชาวบ้านที่ชำนาญทางนำทีม ซึ่งทีมสำรวจนี้จะทำหน้าที่เพื่อเข้าไปสำรวจเพื่อประเมินสถานการณ์

02.50 น.—หน่วยซีลเดินทางถึงวนอุทยานถ้ำหลวง ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่และทีมค้นหา ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แผนเบื้องต้นปฏิบัติการ จะให้ทีมซีลเป็นทีมหลัก และมีทีมอัมรินทร์ใต้ ปภ.เชียงราย และศิริกรณ์เป็นทีมเสริมในช่วงเช้า การเข้าไปปฏิบัติการของทีมซีลเบื้องต้นเพื่อสำรวจพื้นที่ใต้น้ำหาช่องทางระบายน้ำหาจุดที่ถูกทราย หรือโคลนปิดทางน้ำไหลออกให้สามารถระบายน้ำได้ และดูช่องทางที่จะมุดไปยังอีกฝั่งของน้ำ เพื่อหาตัวคนที่ติดอยู่ในถ้ำ รวมถึงหาวิธีการระบายน้ำเป็นช่วงๆ

 

[วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน 2561]

23.30 น.—เจ้าหน้าที่ทุกหน่วย จัดเตรียมพื้นที่ทุกระบบ สรุปเส้นทางเข้า-ออก ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ให้กับหน่วยซีล เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดำน้ำกู้ภัย โดยเมื่อมาถึงจะเริ่มทำการปฏิบัติการค้นหาทันที

22.00 น.—กองทัพเรือ ส่งหน่วยซีล หรือ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษดำน้ำกู้ภัย หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือ บินตรงจากสัตหีบมาจุดเกิดเหตุ เพื่อร่วมทีมค้นหาผู้สูญหาย

21.00 น.—ชุดประดาน้ำชุดแรก กลับออกมาบอกว่าพบรอยนิ้วมือคนเกาะตามถ้ำ ทางเข้าเป็นทางลาดชัน มีน้ำท่วม น้ำลึกประมาณ 5 เมตร ก่อนที่นักประดาน้ำชุดที่ 2 จะเข้าไปทำภารกิจต่อ

13.10-13.40 น.—เจ้าหน้าที่กู้ภัยเริ่มทำการสูบน้ำออกจากถ้ำ นำอาหารและน้ำดื่มมัดเชือกปล่อยตามกระแสน้ำให้ผู้ประสบภัย ส่วนระดับน้ำในถ้ำยังสูงและเชี่ยวมาก

13.20 น.—นายเวิร์น อันสเวิร์ธ ชาวอังกฤษ และนายกมล คุณงามความดี อดีตเจ้าหน้าที่วนอุทยานถ้ำหลวงฯ ได้ออกมาจากถ้ำหลังเข้าไปสำรวจรอบ 2 เพื่อบรรยายสรุปสถานการณ์ภายในถ้ำให้กับหน่วยงานที่เข้ามาร่วมกู้ภัย พร้อมวางแผนการช่วยเหลือ นายเวิร์นกล่าวว่า กระแสน้ำที่สามแยกแรงมาก น้ำไหลมาจากผาหมี เครื่องสูบน้ำไม่สามารถสูบน้ำออกได้ทัน และกระสอบทรายกั้นน้ำไม่อยู

13.00 น.—ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงรายเดินทางมาอำนวยการวางแผนช่วยเหลือที่หน้าถ้ำหลวงฯ พร้อมเตรียมนักประดาน้ำ และได้มอบให้เจ้าหน้าที่วนอุทยานถ้ำหลวงฯ จัดทีมไปสำรวจเส้นทางน้ำจากดอยผาหมี ที่ไหลเข้ามาเติมน้ำในถ้ำ เพื่อจะดูว่าสามารถสกัดน้ำ ณ ตำแหน่งไหนได้บ้าง

10.00 น.—ทีมค้นหากลับออกมา แจ้งว่าในถ้ำมีน้ำปิดโพรงถ้ำอยู่ ระดับความลึกกว่า 5 เมตร และยังรับน้ำป่าที่ไหลมาจากดอยผาหมีจึงประสานทีมช่วยเหลือหากระสอบทราย 30 กระสอบ และเครื่องสูบน้ำ มาสูบน้ำออกเพื่อหาทางดำน้ำลอดเข้าไปฝั่งตรงข้ามจากนั้นทีมเจ้าหน้าที่อีก 2 ชุด จำนวน 50 คน นำกระสอบทรายและเครื่องสูบน้ำไปสูบน้ำออก พร้อมระดมทหาร ฉก.ม.3 ปภ.เทศบาลตำบลแม่สาย ปภ.จ. เชียงราย และ อาสาสมัครร่วมกันปฏิบัติการโดยวางเจ้าหน้าที่พร้อมวิทยุสื่อสารไว้ตามจุดต่างๆตลอดระยะทาง 2 กม.

7.30 น.—ทีมค้นหาของเจ้าหน้าที่วนอุทยานถ้ำหลวงฯ และนาย เวิร์น อันสเวิร์ธ ชาวอังกฤษที่เคยเข้าไปสำรวจภายในถ้ำหลวงหลายรอบ ได้เดินเท้าเข้าไปภายในถ้ำ มุ่งไปยังจุดที่อยู่ลึกจากปากถ้ำเข้าไปราว 2 กม.

03.30 น.—ทีมกู้ภัยสยามรวมใจและทีมกู้ชีพสมาคมศิริกรณ์ เชียงราย ได้ถอนกำลังเพราะกระแสน้ำแรงและอากาศเบาบาง จากนั้นได้มีการประชุมร่วมกันระว่าทีมค้นหาและฝ่ายปกครอง, ป้องกัน จ.เชียงราย ,เจ้าหน้าที่อุทยานฯ, ทหาร, ตำรวจ และผู้นำชุมชน หลังจากประชุมเสร็จได้มีสรุปให้ทำการยุติการค้นหาเป็นการชั่วคราวเนื่องจากภายในถ้ำฯ มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเกรงว่าจะเป็นอันตราย

01.15 น.—เริ่มดำเนินการค้นหา โดยทีมกู้ภัยสยามรวมใจและทีมกู้ชีพสมาคมศิริกรณ์ เชียงราย ได้นำถังออกซิเจนและเชือกนำเข้าไปในถ้ำเพื่อติดตามค้นหา เมื่อเข้าไประยะทาง 4 กม. เจอรองเท้าแตะเด็ก 12 คู่ และเมื่อเดินไปอีก 500ม. เจอกระเป๋าสะพาย 2 ใบ น้ำ 2 ขวด เจอทางแยก

 

[วันเสาร์ที่ 23 มิถุนายน 2561]

22.00 น.—ศูนย์วิทยุ 191 สภ.แม่สาย ได้รับแจ้งว่ามีเด็กหายเข้าไปใน ถ้ำภายใน วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับชั้น และได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ ต.โป่งผาฯ เข้าไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พบว่ามีคนเข้าไปในถ้ำแล้วไม่กลับออกมาจริงตามที่ได้รับแจ้ง

15.00 น.—เจ้าหน้าที่วนอุทยานฯ จะทำการปิดสำนักงาน สังเกตมองเห็นรถจักรยาน จอดอยู่บริเวณทางเข้าปากทางถ้ำหลวง จึงได้เข้าไปตรวจสอบจนมีผู้ปกครองมาติดต่อและบอกว่ามีเด็กนักกีฬาคนหนึ่งหายไปไม่สามารถติดต่อได้ จนกระทั่งมาทราบว่ามาเที่ยวที่ถ้ำหลวง พอเจ้าหน้าที่อุทยานฯเข้าไปตรวจสอบในถ้ำฯพบ รถจักรยานจอดทิ้งไว้ จำนวน 11 คัน ซึ่งคาดว่าจะเป็นของเด็กที่หายไป

09.00-12.00 น.—นักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชทีม “หมูป่าอะคาเดมีแม่สาย” ไปซ้อมฟุตบอลที่สนามกีฬากลาง ต.โป่งผา อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเด็กมาจากหลายโรงเรียน ในอ.แม่สาย หลังจากซ้อมบอลเสร็จก็ได้พากันปั่นจักรยานมาเที่ยวบริเวณ วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน คาดว่าทั้งหมดพากันเข้าไปเที่ยวชมภายในถ้ำ แต่กลับออกมาไม่ได้เนื่องจากระดับน้ำในลำธารด้านในถ้ำขึ้นสูงจนปิดโพรงถ้ำและกระแสน้ำไหลเชี่ยว

 

ติดตามข่าวได้ที่ http://www.workpointnews.com

Facebook / https://www.facebook.com/WorkpointNews/

Instagram / https://www.instagram.com/workpointnews/

Twitter / https://twitter.com/WorkpointShorts

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า