ก.สาธารณสุข แถลงพร้อมรองรับ 13 ชีวิตติดถ้ำ ยันการรักษาเป็นไปตามมาตรฐาน

ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ยืนยันพร้อมรองรับการส่งต่อทีมนักฟุตบอลและโค้ช ทั้ง 13 คน หลังถูกเคลื่อนย้ายออกจากถ้ำ โดยการรักษาจะเป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยทั้งผู้ป่วยและญาติ

วันที่ 4 ก.ค. 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ลงพื้นที่ติดตามการเตรียมระบบการรักษาและให้กำลังใจ ทีมงานที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์และทีมเจ้าหน้าที่ แพทย์พยาบาล สหวิชาชีพ ที่ปฎิบัติงานช่วยโรงพยาบาลสนามบริเวณปากถ้ำหลวง เพื่อช่วยเหลือทีมนักฟุตบอลและโค้ช ทั้ง 13 คน ผ่านระบบการสื่อสารทางไกล เผยว่า ได้รับมอบหมายจาก ศ.คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้มาขอบคุณ ชื่นชม ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกคน

ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้ร่วมกับ ทหาร ตำรวจ ภาครัฐ เอกชน ประชาชน ช่วยเหลือทีมนักฟุตบอลและโค้ช ขณะนี้อยู่ระหว่างการวางแผนช่วยนำทั้งหมดออกจากถ้ำอย่างปลอดภัย และระหว่างรอการเคลื่อนย้าย เบื้องต้นนักฟุตบอลเยาวชนและโค้ชได้รับการดูแลเรื่องอาหาร ยาป้องกันและยารักษาโรคที่จำเป็นเรียบร้อยแล้ว

“ต้องชื่นชมและขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่หมุนเวียนออกปฎิบัติหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ช่วยสนับสนุนให้ภารกิจการค้นหาประสบความสำเร็จ แผนการดำเนินงานต่อจากนี้ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข คือ ความพร้อมรองรับด้านการรักษาและการควบคุมป้องกันโรคที่อาจจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพทั้ง 13 คน รวมทั้งผู้สัมผัสใกล้ชิด เนื่องจากในถ้ำเป็นสถานที่ที่จัดว่าเป็นพื้นที่เฝ้าระวังพิเศษ เพราะมีระบบนิเวศน์ที่แตกต่างจากบริบทที่มนุษย์อาศัยอยู่ จึงอาจมีสัตว์ที่เป็นแหล่งโรคติดต่อที่เป็นอันตราย” นายแพทย์เจษฎา กล่าว

ขณะนี้โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ หลังได้รับมอบหมายให้เป็นโรงพยาบาลหลักด้านการรักษาและควบคุมป้องกันโรค เตรียมพร้อมทุกระบบ โดยได้ปรับหอผู้ป่วยสามัญอุบัติเหตุ ให้เป็นหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ (Cohort ward) จัดระบบควบคุมการติดเชื้อตามมาตรฐาน ตามคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกันควบคุมโรค

ทั้งนี้ ได้กำชับทีมแพทย์ พยาบาล และสหวิชาชีพ ให้การรักษาและการควบคุมป้องกันโรคให้เป็นไปตามมาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยสูงสุดทั้งผู้ป่วยและญาติ ซึ่งนักฟุตบอลและโค้ชเมื่อมาถึงโรงพยาบาลจะได้รับการตรวจร่างกาย จากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ประเมินภาวะอุณหภูมิร่างกาย การขาดน้ำ ขาดสารอาหาร ตรวจเอ็กซเรย์ปอด เก็บเลือด ปัสสาวะส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการค้นหาการติดเชื้อ รวมทั้งตรวจพิเศษอื่นๆตามการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ

ในส่วนการรองรับญาติ โรงพยาบาลได้จัดระบบติดตามอาการเพื่อให้ปลอดภัยจากโรคติดเชื้อ โดยทุกคนจะได้รับบัตรคำเตือนเฝ้าระวังสุขภาพ พร้อมคำแนะนำ การสังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีไข้ ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ หายใจลำบาก ให้ไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถโทรสอบถามได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews