เรือตรวจการณ์เข้าช่วย นทท. 40 ชีวิตติดเกาะ – ทีมค้นหาร่างต้องพักชั่วคราว

เรือตรวจการณ์เจ้าท่า นำ นทท. 40 ชีวิต จากเกาะราชาขึ้นฝั่งอย่างปลอดภัย หลังพักอยู่บนเกาะและไม่สามารถเดินทางกลับได้ เนื่องจากคลื่นสูงกว่า 3 ม. ด้านการกู้ร่างผู้สูญหายที่ติดกับเรือฟินิกซ์ต้องยุติชั่วคราว เหตุสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. วันนี้ (11 ก.ค. 61) นายพิชญะ รัตนะสุขจิตต์ ผู้บังคับการเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 1301 ได้นำเรือตรวจการณ์ 1301 สำนักงานควบคุมการจราจรและความปลอดภัยทางทะเล กรมเจ้าท่า ซึ่งไปรับนักท่องเที่ยว จำนวน 40 คน และแรงงานพม่า จำนวน 5 คน จากบริเวณอ่าวทือ เกาะราชาใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต กลับมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือน้ำลึกภูเก็ต

หลังได้รับการประสานขอความช่วยเหลือจากผู้ประกอบการบนเกาะราชา เนื่องจากคลื่นลมทะเลแรง ความสูงของคลื่นประมาณ 3 ม. และสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต ได้มีการออกประกาศเตือนคลื่นลมในทะเลค่อนข้างแรงและเรือเล็กงดออกจากฝั่ง เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวมีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางกลับต่างประเทศในวันนี้ โดยสามารถนำทั้งหมดกลับขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัย

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของความคืบหน้าการกู้ร่างผู้เสียชีวิต 1 ใน 2 ร่างที่ยังเหลือจากเหตุการณ์เรือฟินิกซ์ล่ม โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหาร นำโดย นาวาเอก ธานินทร์ ทิพย์โส รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 เป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติในการกู้ร่างผู้เสียชีวิต พร้อมด้วยทีมประดาน้ำกองทัพเรือ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย GUANGZHOU SALVAGE ของประเทศจีน หน่วยกู้ชีพมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ร่วมลงเรือหลวงทองหลาง เรือหลวงหัวหิน และเรือหลวงปันหยี เดินทางไปยังจุดเรือจม เพื่อทำการกู้ร่างผู้สูญหายที่ติดอยู่ใต้ท้องเรือออกมา ทั้งนี้ก่อนออกปฏิบัติการได้มีการบรรยายภารกิจร่วมกับทีมกู้ภัยของจีนอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาด เนื่องจากสภาพอากาศที่ค่อนข้างแปรปรวน

แต่ปรากฏว่า เมื่อเดินทางไปถึงจุดที่เรือจมกลับไม่สามารถลงปฏิบัติการได้ เนื่องจากสภาพคลื่นลมแรง คลื่นสูงกว่า 3 ม. ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติงานของทีม Surface เพราะไม่สามารถหยุดเรือหลัก (เรือหลวงทองหลาง) ให้นิ่งได้ เสี่ยงที่จะถูกคลื่นพัดออกจากจุดที่กำหนด และยังมีแนวโน้มที่รุนแรงขึ้น

ขณะเดียวกันไม่สามารถนำเรือหลวงปันหยีที่เป็นเรือให้กำลังของปั๊มลมในการดูดทรายใต้น้ำรอบตัวเรือที่จมเข้าเทียบกับเรือทองหลางได้ จึงต้องมีการเปลี่ยนแผนที่จะนำอุปกรณ์ให้กำลังลมมาอยู่ในเรือลำเดียว คือ เรือหลวงทองหลาง และในการย้ายอุปกรณ์นั้นต้องใช้เครนขนาดใหญ่ จึงจำเป็นต้องยุติภารกิจชั่วคราวและกลับเข้าฝั่ง ก่อนที่จะออกไปปฏิบัติการใหม่

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์ : workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว   
ยูทูบ: workpoint news   
ทวิตเตอร์: workpoint news   
อินสตาแกรม: workpointnews