‘กรมชลฯ’ เร่งระบายน้ำเขื่อนแก่งกระจาน ยันไม่กระทบพื้นที่ท้ายเขื่อน

กรมชลประทานระบายน้ำในเขื่อนแก่งกระจานต่อเนื่อง เร่งระบายออก 13 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน ขณะที่น้ำยังคงล้นสปิลเวย์อยู่ พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี คาดยังไม่กระทบพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน

วันที่ 7 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดร.ทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำในเขื่อนแก่งกระจานว่า ล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อนแก่งกระจานอยู่ที่ 725 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 102 และยังคงมีน้ำไหลล้นข้ามทางระบายน้ำหรือสปิลเวย์อย่างต่อเนื่อง แต่ยืนยันว่ายังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายเขื่อน

โดยสถานการณ์ปัจจุบัน ที่เขื่อนแก่งกระจาน ยังคงระบายน้ำผ่านช่องทางปกติ รวมทั้งใช้กาลักน้ำที่ได้ติดตั้งเพิ่มเติมอีก 10 ชุด รวมกับของเดิมที่ติดตั้งไว้แล้วทั้งสิ้น 22 ชุด และเครื่องสูบน้ำ Hydro flow จำนวน 7 เครื่อง ยังดำเนินการสูบน้ำอย่างต่อเนื่อง รวมปริมาณน้ำที่ระบายออกจากเขื่อนแก่งกระจานทั้งสิ้น 13 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และควบคุมน้ำไหลผ่านเขื่อนเพชรได้ในอัตรา 124 ลบ.ม. ต่อวินาที ยังไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ด้านท้ายน้ำเช่นกัน

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านลงสู่ท้ายเขื่อนแก่งกระจานในอัตราประมาณ 210 ลบ.ม. ต่อวินาที และไหลลงสู่ด้านเหนือเขื่อนเพชร ในอัตราประมาณ 230-250 ลบ.ม. ต่อวินาที โดยกรมชลประทานจะใช้เขื่อนเพชรบริหารจัดการน้ำ โดยการหน่วงน้ำและตัดน้ำเข้าระบบชลประทาน และผันออกคลองระบายน้ำ D9 ออกสู่ทะเล ในอัตรา 90 ลบ.ม. ต่อวินาที จากนั้นจะระบายน้ำผ่านเขื่อนเพชรในอัตรา 140-160 ลบ.ม. ต่อวินาที ลงสู่แม่น้ำเพชรบุรี ไหลผ่านตัวเมืองเพชรบุรี ซึ่งอาจทำให้มีน้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ และพื้นที่ชุมชนบางแห่งประมาณ 0.20–0.30 เมตร

ส่วนสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณ อ.แก่งกระจาน ล่าสุด ยังต่ำกว่าตลิ่งเฉลี่ย 1-2 เมตร บริเวณ อ.ท่ายาง ยังต่ำกว่าตลิ่ง 4.5 เมตร บริเวณ อ.บ้านลาด ยังต่ำกว่าตลิ่ง 1.5 เมตร และบริเวณ อ.เมืองเพชรบุรี ยังคงต่ำกว่าตลิ่ง 1.20 เมตร สถานการณ์น้ำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่ยังไม่ล้นตลิ่ง

กรมชลประทานและหน่วยงานต่างๆ ได้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์โดยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำออกจากพื้นที่ลุ่มต่ำจำนวน 38 เครื่อง และติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี จำนวน 20 เครื่อง นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนเรือผลักดันน้ำ จากกองทัพเรือ อีกจำนวน 20 ลำ ติดตั้งบริเวณหน้าวัดคุ้งตำหนัก อ.บ้านแหลม เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด จึงขอให้ประชาชนชาวเมืองเพชรบุรี ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด และขอให้เชื่อมั่นว่ากรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะสามารถบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำเพชรบุรีได้อย่างเต็มศักยภาพ

ขอบคุณข้อมูล : รอบรั้วชลประทาน