SHARE

คัดลอกแล้ว

หลานชายวัย 19 พ่อแม่แยกทาง อยู่กับยายน้องสาวตาวัย 88 บ้านใกล้ตา ตารักและห่วงหลานเสมอมา แต่วันเกิดเหตุหลานหงุดหงิด ผลมาจากติดยาและติดเกม ตร.ลงพื้นที่หาคนฆ่าตา หลานส่อพิรุธ และสารภาพในที่สุดหลังถูกเค้นหนัก คาดต้องการเงินไปซื้อยาบ้า

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ได้มีการนำเสนอข่าวเกี่ยวกับคดีที่มีคนร้ายลงมือโหด ฆ่าชิงทรัพย์คุณตาวัย 88 ปี คาบ้าพักที่ จ.อำนาจเจริญ พร้อมกวาดทรัพย์สินเป็นเงินสดจำนวน 6,000 บาท และแหวนทอง 2 สลึงตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญดังกล่าวขึ้น ตำรวจลงพื้นที่เพื่อติดตามหาตัวคนร้าย โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายไปที่กลุ่มวัยรุ่นที่มีประวัติติดยาเสพติด และเคยก่อเหตุคดีลักทรัพย์ ซึ่งจากการลงพื้นที่ในหมู่บ้านดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้นำตัวกลุ่มวัยรุ่นผู้ต้องสงสัยมาทำการสอบสวนเกือบทั้งหมด แต่ก็ไม่พบพิรุธแต่อย่างใด จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาในฐานะผู้ต้องสงสัยคือ นายเอ (นามสมมติ) อายุ 19 ปี ซึ่งเป็นหลานชายของผู้ตาย และบ้านของผู้ต้องสงสัยอยู่ติดกันกับบ้านของผู้ตาย เพราะนายเอก็มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเช่นกัน โดยเมื่อได้ทดสอบหาสารเสพติดในปัสสาวะของผู้ต้องสงสัย ก็พบว่ามีสารเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 อยู่ในร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดประเภทที่ 1 โดยผิดกฎหมาย

ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะได้ทำการสืบสวนขยายผล ด้วยการไปตรวจค้นที่บ้านของผู้ต้องหาอีกครั้ง จากการตรวจค้นที่บ้านของผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตรวจพบและยึดของกลางได้จากบ้านผู้ต้องหาคือ กระเป๋าสะพายของลูกสาวผู้ตายที่เก็บแหวนทองไว้ 1 ใบ บัตรผู้สูงอายุของผู้ตาย แหวนทองคำหนัก 2 สลึง 1 วง และค้อนที่ผู้ต้องหาใช้ในการลงมือฆ่าคุณตาจนเสียชีวิต ซุกซ่อนไว้ใต้คานบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมดไปสอบสวนที่ สภ.หัวตะพาน จ.อำนาจเจริญ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนผู้ต้องหาที่ห้องสอบสวน ตำรวจไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปบันทึกภาพ โดยอนุญาตให้บันทึกภาพได้เพียงแค่ภายนอกห้องเท่านั้น การสอบสวนใช้เวลานานกว่า 2 ชั่วโมง

จากการสอบสวนเบื้องต้น ตำรวจเผยว่า ผู้ต้องหาได้รับสารภาพว่าลงมือก่อเหตุฆ่าคุณตาวัย 88 ปี จริง โดยผู้ต้องหาให้การว่า วันที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาได้เดินทางเข้าไปหาผู้ตายทางหน้าบ้าน เพื่อที่จะไปขอพริกไปปรุงอาหาร แต่จู่ๆ ผู้ต้องหาก็เกิดความเครียด ซึ่งอาจะเป็นผลมาจากการเสพยาเสพติด และอารมณ์หงุดหงิดมาจากการเล่นเกม เมื่อมองไปเห็นค้อนที่วางอยู่บนตะกร้าภายในบ้าน จึงหยิบค้อนดังกล่าว ใช้บริเวณหลังค้อนที่มีปลายแหลมทุบเข้าไปที่ศีรษะด้านข้างของคุณตา ซึ่งกำลังยืนดูทีวีอยู่ จนล้มลงไปนอนกับพื้น และคนร้ายก็ได้ใช้ค้อนตีเข้าไปซ้ำอีก 2-3 ครั้ง ก่อนที่คุณตาจะหมดสติ จากนั้นผู้ต้องหาก็เห็นกระเป๋าเงินที่วางอยู่ใกล้เครื่องเล่นวิทยุ จึงหยิบเอากระเป๋าเงินของผู้ตาย และกระเป๋าสะพายของลูกสาวผู้ตายที่มีแหวนอยู่ 1 วง ก่อนรีบหลบหนีออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว

เมื่อออกมาจากบ้าน ผู้ต้องหาก็ได้นำของกลางทั้งหมดไปซ่อนไว้ที่ยุ้งฉางข้าวร้างใกล้บ้าน จึงทำให้วันแรกที่เจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจค้นที่บ้านหลังดังกล่าว ไม่พบหลักฐานใด หลังจากนั้นวันรุ่งขึ้น ผู้ต้องหาก็ได้นำของที่ซ่อนไว้ออกมาไว้ที่บ้าน และนำกระเป๋าเงินของคุณตาไปโยนทิ้งที่คลองน้ำใกล้กับสวนสัตว์ อ.หัวตะพาน ซึ่งห่างจากตัวบ้านประมาณ 800 เมตร ก่อนจะนำเงินจำนวน 1,900 บาท ไปจ่ายค่างวดรถมอเตอร์ไซค์ และกลับบ้านอย่างปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

นางลาวัลย์ ภักดียศ อายุ 49 ปี ญาติของผู้ตายเล่าว่า ทีแรกคนในครอบครัวก็ไม่คิดว่าจะเป็นหลานชายที่บ้านอยู่ใกล้กันกับคุณตา คิดว่าเป็นโจรมาจากที่อื่น เพราะในคืนวันที่เกิดเหตุ ผู้ต้องหาก็ยังมาช่วยงานศพของตาอย่างปกติ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่พอมีหลักฐานจากตำรวจ ตนและบรรดาญาติๆ ก็แทบไม่อยากเชื่อว่า หลานคนนี้จะทำกับคุณตาได้ลงคอ เพราะคุณตาจะเป็นห่วงเป็นใยหลานคนนี้มาก เนื่องจากหลานไม่ได้อยู่กับพ่อแม่ เพราะพ่อแม่แยกทางกัน อาศัยอยู่กับคุณยายอีกคนหนึ่งซึ่งเป็นน้องสาวของคุณตา

ขณะที่ตำรวจชุดสืบสวนเผยว่า วันที่ตำรวจลงพื้นที่ไปที่บ้านของผู้ต้องหา ผู้ต้องหามีอาการส่อพิรุธ ไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในบ้าน และอ้างว่าพี่ชายของตนเป็นนักข่าวของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง จะมาค้นง่ายๆ ไม่ได้ แต่หากอยากได้ข้อมูล ผู้ต้องหาก็ยินดีที่จะให้ข้อมูลกลุ่มวัยรุ่นที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตำรวจจึงได้วางแผนด้วยการให้ผู้ต้องหาเดินทางมาให้ปากคำที่ สภ.หัวตะพาน ในเช้าวันต่อมา ก่อนที่จะจับผู้ต้องหาตรวจหาสารเสพติด และนำตัวไปตรวจค้นต่อที่บ้าน และพบของกลางที่ใช้ก่อเหตุในที่สุด

พ.ต.อ.วิเชียร โชคพิพัฒน์ทวี ผกก.สภ.หัวตะพาน เผยว่า การจับกุมในครั้งนี้เนื่องมาจากหลักฐานที่ผู้ต้องหาทิ้งร่องรอยไว้ในที่เกิดเหตุ ประกอบกับสืบทราบพฤติกรรมของผู้ต้องหาว่า มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ส่วนเหตุจูงใจในการฆ่านี้ อาจจะมาจากการที่ครอบครัวผู้ต้องหาแตกแยก ทำให้ผู้ต้องหาขาดความอบอุ่น อีกทั้งติดยาเสพติด และมีความเครียดเนื่องจากเงินที่แม่ส่งมาให้นั้น เอาไปใช้ซื้อยาเสพติดจนหมด คิดหาทางออกไม่ได้ จึงลงมือฆ่าคุณตา เพื่อจะเอาเงินไปจ่ายค่างวดรถและซื้อยาเสพติดมาเสพ

ขณะที่กำลังควบคุมตัวผู้ต้องหา เพื่อนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพนั้น ผู้ต้องหาเกิดเปลี่ยนใจไม่ยอมทำแผน เพราะเกรงว่าหากเข้าไปในบ้านที่เกิดเหตุจะถูกรุมประชาทัณฑ์ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ผู้ต้องหามาชี้จุดที่โยนกระเป๋าเงินของผู้ตายทิ้ง เพื่อเก็บหลักฐานขึ้นมา เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และชิงทรัพย์จนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก่อนที่จะควบคุมตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.หัวตะพาน ดำเนินคดีตามกฎหมาย และเตรียมนำตัวผู้ต้องหาฝากขังศาลจังหวัดอำนาจเจริญต่อไป

 

อ่านข่าวอื่นได้ที่
เว็บไซต์: workpointnews.com
เฟซบุ๊ก: ข่าวเวิร์คพอยท์ ตลาดข่าว
ยูทูบ: workpoint news
ทวิตเตอร์: workpoint news
อินสตาแกรม: workpointnews

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า