ปรับแผนระบายน้ำ ‘เขื่อนน้ำอูน-เขื่อนวชิราลงกรณ’ รองรับน้ำไหลเข้าอีกระลอก

ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต สทนช. ปรับแผนเพิ่มการระบายน้ำเขื่อนน้ำอูนและเขื่อนวชิราลงกรณ เพื่อรองรับน้ำฝนใหม่ที่จะตกลงมาอีกครั้ง ขณะที่เขื่อนแก่งกระจานระดับน้ำลดลงแต่ยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิด

วันที่ 24 ส.ค. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสำเริง แสงภู่วงค์ รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต กล่าวว่า ได้ปรับแผนการระบายน้ำเขื่อนขนาดใหญ่ที่เฝ้าระวังพิเศษ เพื่อรองรับปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเพิ่มขึ้นจากฝนใหม่ที่จะตกลงมาเติมน้ำอีกครั้ง 2 เขื่อน คือ เขื่อนน้ำอูน จ.สกลนคร มีปริมาณน้ำ 557 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำเพิ่มขึ้น 14 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 107 ของความจุอ่าง น้ำไหลเข้า 21.00 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ (23 ส.ค.) 5.35 ล้านลูกบาศก์เมตร ระบายออก 7.21 ล้านลูกบาศก์เมตร มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำล้นตลิ่งบริเวณบ้านนาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม และบ้านพอกใหญ่ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร

ทั้งนี้ ศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต สทนช. ได้แจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในจังหวัดสกลนคร บึงกาฬ และนครพนม เนื่องจากมีฝนตกในพื้นที่ทำให้ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ เพิ่มขึ้น และเขื่อนวชิราลงกรณ จ.กาญจนบุรี มีปริมาณน้ำ 8,043 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำเพิ่มขึ้น 11 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 91 ของความจุอ่าง ระบายออก 48.24 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยระบายเพิ่มขึ้น 6.31 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่งผลกระทบกับพื้นที่รีสอร์ทที่สร้างอยู่ในแม่น้ำแควน้อยและแม่น้ำแม่กลอง จ.กาญจนบุรี แต่ยังไม่สูงกว่าตลิ่ง ทั้งนี้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ระบายน้ำผ่านทางระบายน้ำล้น 10 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (23 ส.ค. ) แต่ปริมาณน้ำจากแม่น้ำน้อยที่ไหลมาบรรจบกับแม่น้ำแควน้อย ที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี มีอัตราการไหลลดลงต่อเนื่อง ทำให้การระบายน้ำผ่านทางระบายน้ำล้นไม่กระทบต่อพื้นที่ท้ายน้ำเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน แต่ยังเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งให้พื้นที่ท้ายเขื่อนตามลำน้ำแควน้อยทราบถึงแผนการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำ

ขณะที่ เขื่อนแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี มีปริมาณน้ำ 760 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 107 ของความจุอ่าง ลดลง 7 ล้านลูกบาศก์เมตร มีน้ำล้นทางระบายน้ำ (Spillway) สูง 110 เซนติเมตร ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณ อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ต่ำกว่าระดับตลิ่ง 64 เซนติเมตร แนวโน้มลดลง และที่ อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี สูงกว่าระดับตลิ่ง 50 เซนติเมตร แนวโน้มทรงตัว แต่ยังคงมีพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเพชรบุรีได้รับผลกระทบน้ำท่วม จึงต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ด้านในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีมีน้ำท่วมพื้นที่ที่มีระดับต่ำกว่าความสูงของคันกั้นน้ำเทศบาล จึงเร่งระบายน้ำต่อเนื่อง

https://www.facebook.com/vrkegat.official/videos/1979513635402122/