SHARE

คัดลอกแล้ว

หน.อุทยานฯดอยอินทนนท์ เผยอนุญาตให้หนุ่มเดินหอบอัฐิเมียข้ามปีจากตรังถึงเชียงใหม่ เข้าเที่ยวในพื้นที่ได้ และพร้อมดูแลเต็มที่ แต่ห้ามโปรยเถ้ากระดูก และห้ามนำสัตว์เลี้ยงเข้า ตามกฎข้อบังคับ

จากกรณีนายศักดิ์ชัย สุพันธมาตย์ อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดอุดรธานี ที่เดินเท้ามาจากจังหวัดตรัง ตั้งแต่เดือน ม.ค. 60 เพื่อนำอัฐิภรรยาที่เสียชีวิต เมื่อเดือนต.ค. 59 ไปทำบุญและโปรยอัฐิบนยอดดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่

ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวมีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดีย และกลายเป็นประเด็นที่ถูกกล่าวถึง รวมทั้งต่างชื่นชมความรักอันแรงกล้าของผู้ชายคนนี้ที่มีต่อภรรยา โดยวันที่ 24 ส.ค. 61 นายรุ่ง หิรัญวงษ์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดเผยว่า อนุญาตให้นายศักดิ์ชัย เข้าพื้นที่อุทยานฯ ได้ อย่างไรก็ตามในส่วนที่จะมีการนำอัฐิของภรรยาเข้าไปโปรยนั้น ไม่สามารถอนุญาตให้ทำเช่นนั้นได้

ทั้งนี้เนื่องจากมีกฎระเบียบห้ามอยู่ รวมทั้งบนพื้นที่ยอดดอยอินทนนท์นั้น ถือได้ว่าเป็นยอดดอยที่มีความศักดิ์สิทธิ์ มีพระสถูปของพระเจ้าอินทวิชยานนท์  หรือ “กู่พระเจ้าอินทวิชยานนท์” อีกทั้งยังมี พระมหาธาตุนภเมทนีดล-นภพลภูมิสิริ พระมหาธาตุคู่พระบารมีในหลวงรัชกาลที่ 9 และพระราชินี ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเชียงใหม่ และชาวไทยให้ความเคารพ

ดังนั้นหากมีการกระทำในลักษณะดังกล่าว เกรงว่าจะเป็นการลบหลู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ประกอบกับบนพื้นที่ดอยอินทนนท์ยังเป็นแหล่งต้นน้ำ และแหล่งธรรมชาติ ซึ่งหากมีการอนุญาตให้มีการกระทำการดังกล่าวได้แล้วนั้นอาจจะมีคนอื่นๆ มาขออนุญาตกระทำในลักษณะนี้อีก

นอกจากนี้ในส่วนของสัตว์เลี้ยงของนายศักดิ์ชัย ที่เดินทางมาด้วย ได้แก่ สุนัข 2 ตัวและแมวอีก 1 ตัวนั้น ทางอุทยานฯ ไม่อนุญาตให้นำเข้าพื้นที่อุทยานฯ เช่นกัน เนื่องจากมีกฎหมายข้อบังคับของอุทยานฯ ที่แจ้งเตือนประชาชนและนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว

เเละการนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาอาจจะก่อให้เกิดการแพร่เชื้อ ปนเปื้อน หรือโรคระบาดกับสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ แต่ทางอุทยานฯ จะดำเนินการรับฝากดูแลสัตว์เลี้ยงของนายศักดิ์ชัยไว้ที่บริเวณด่านตรวจ จนกว่านายศักดิ์ชัยจะกลับออกไปจากพื้นที่อุทยานฯ ซึ่งจะมีทางเจ้าหน้าที่คอยเฝ้าและให้อาหาร รวมไปถึงการดูแลเป็นอย่างดี

ขณะเดียวกัน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ บอกว่า ในส่วนของรถเข็นที่นายศักดิ์ชัยนำมาด้วยเพื่อใช้ขนสัมภาระ ทางอุทยานฯ จะขอความร่วมมือไม่ให้นำขึ้นไป เนื่องจากพื้นที่ดอยอินทนนท์นั้นมีความสูงชัน ประกอบกับระยะทางที่ค่อนข้างไกล เกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายกับนายศักดิ์ชัย

จึงอยากให้ฝากรถเข็นไว้กับทางเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ ที่บริเวณด่านตรวจ ซึ่งจะมีทางเจ้าหน้าที่ดูแลให้เช่นกัน โดยตัวเองจะรับอาสาเป็นผู้ดูแล นำเที่ยว และอำนวยความสะดวกให้กับนายศักดิ์ชัยอย่างเต็มที่

อีกทั้งจะเป็นผู้ออกเงินค่าเข้าอุทยานฯ , ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ ระหว่างที่ นายศักดิ์ชัยอยู่ในพื้นที่ด้วย ทั้งนี้เต็มใจให้นายศักดิ์ชัยสามารถนำอัฐิของภรรยา ขึ้นไปด้วยได้ตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับภรรยา ที่ว่าจะพามาเที่ยวบนดอยอินทนนท์ เพียงแต่จะไม่ให้มีการโปรยอัฐิของภรรยาเท่านั้น

หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กล่าวเพิ่มเติมด้วยว่า ในส่วนของเรื่องที่ไม่อนุญาตดังกล่าวนั้น อาจจะมีกระแสดราม่าเกิดขึ้นกับผู้ติดตามข้อมูลข่าวสาร และเรื่องราวของนายศักดิ์ชัย แต่ไม่ได้มีความกังวลใจมากนัก เนื่องจากข้อห้ามต่างๆ นั้นเป็นไปตามข้อกำหนดของอุทยานฯ ซึ่งจะได้ทำการชี้แจงให้นายศักดิ์ชัย เข้าใจ

โดยจากการติตามรายงานล่าสุดทราบว่าขณะนี้ นายศักดิ์ชัยได้เดินทางมาถึงที่บริเวณปากทางของอุทยานฯ แล้ว ซึ่งห่างจากด่านตรวจจุดแรกประมาณ 9 กิโลเมตร อย่างไรก็ตามเมื่อมาถึงบริเวณด่านตรวจที่ 1 ทางตัวเองพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ของอุทยานฯ พร้อมที่จะให้การต้อนรับอย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะให้การดูแลอย่างทั่วถึงจนกว่าเจ้าตัวจะเดินทางกลับ และทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับภรรยาจนสำเร็จ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

สุดซึ้ง! หนุ่มอุดรฯ หอบอัฐิภรรยา เดินจากใต้ขึ้นดอยอินทนนท์ ตามคำมั่นสัญญา

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า