ผุดทัวร์สลัมในเคนยา ใช้ความจนเป็นจุดขาย

[et_pb_section fb_built=”1″ _builder_version=”3.0.47″ custom_padding=”3px|0px|12px|0px”][et_pb_row _builder_version=”3.0.47″ background_size=”initial” background_position=”top_left” background_repeat=”repeat” custom_padding=”0px|0px|13px|0px”][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.0.63″ parallax=”off” parallax_method=”on”][et_pb_text _builder_version=”3.0.63″]

“ที่นี่ไม่ใช่อุทยานแห่งชาติ พวกเราไม่ใช่สัตว์ป่า” เสียงไม่พอใจทัวร์สลัม ที่ท่องเที่ยวใหม่ของคนไม่เคยลิ้มรสความจน

เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวของเคนยา ส่วนใหญ่คนจะนึกถึงการท่องซาฟารีรวมถึงการท่องเที่ยวทางทะเลกับชายหาดที่สวยงาม แต่หลายปีมานี้ Kibera สลัมใหญ่ที่สุดในกรุงไนโรบี เมืองหลวงของประเทศ กลายเป็นจุดสนใจและเป็นอีกหนึ่งที่หมายของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะจากชาติตะวันตก

“ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นวัตถุอะไรสักอย่าง” คุณแม่ลูก 2 วัย 34 ปีที่อาศัยอยู่ในสลัมนี้พูดถึงเหตุการณ์เมื่อไม่กี่เดือนก่อนที่มีกลุ่มนักท่องเที่ยวพยายามเข้ามาใกล้และถ่ายภาพเธอ “ฉันอยากตะโกนด่าแต่ก็กลัวไกด์ที่มากับคนพวกนั้น”

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section][et_pb_section fb_built=”1″ fullwidth=”on” _builder_version=”3.0.63″][et_pb_oxide_fullwidth_parallax_image src=”https://workpointnews.com/wp-content/uploads/2018/08/1535713964_18227_ss-170809-kenya-election-reaction_7_080148fd64a04a30116214d092bdf9bd.jpg” _builder_version=”3.0.63″][/et_pb_oxide_fullwidth_parallax_image][/et_pb_section][et_pb_section fb_built=”1″ _builder_version=”3.0.63″ custom_padding=”54px|0px|20px|0px”][et_pb_row _builder_version=”3.0.63″ custom_padding=”14px|0px|21px|0px”][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.0.63″ parallax=”off” parallax_method=”on”][et_pb_text _builder_version=”3.0.63″]

ตามข้อมูลสำมะโนประชากรของทางการเคนยา มีคนอาศัยอยู่ใน Kibera ประมาณ 170,000 คนแต่คาดว่าตัวเลขจริงอาจเกิน 2 ล้านคน สลัมแห่งนี้เผชิญทั้งปัญหาคนว่างงาน สุขอนามัยและคุณภาพชีวิตย่ำแย่ การได้กินอาหารเพียงแค่วันละ 2 มื้อเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเด็กส่วนใหญ่

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”3.0.63″ custom_padding=”13px|0px|27px|0px”][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.0.63″ parallax=”off” parallax_method=”on”][et_pb_image src=”https://workpointnews.com/wp-content/uploads/2018/08/1535713953_21857_1518249964_1-org.jpg” _builder_version=”3.0.63″ align=”center”][/et_pb_image][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”3.0.63″][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.0.63″ parallax=”off” parallax_method=”on”][et_pb_text _builder_version=”3.0.63″]

เช่นเดียวกับหญิงวัย 67 ปีอีกคน ที่ไม่พอใจสายตาอยากรู้อยากเห็นของนักท่องเที่ยว “ที่นี่ไม่ใช่อุทยานแห่งชาติ พวกเราไม่ใช่สัตว์ป่า” หญิงคนนี้ซึ่งอยู่ที่สลัมแห่งนี้มาทั้งชีวิต ยังวิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้นว่า “เหตุผลเดียวที่ทำให้มีทัวร์มาลงที่นี่ก็เพราะมีคนแค่หยิบมืออยากได้เงินจากธุรกิจนี้” ธุรกิจที่ว่าคือการขายภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนยากจนให้คนที่ไม่เคยลิ้มรสความจนได้เห็นซึ่งเธอมองว่าผิดศีลธรรมและบริษัททัวร์ควรเลิกให้บริการแบบนี้

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section][et_pb_section fb_built=”1″ fullwidth=”on” _builder_version=”3.0.63″][et_pb_oxide_fullwidth_parallax_image src=”https://workpointnews.com/wp-content/uploads/2018/08/1535713943_31043_235ac72ded3da219c252859168072dd9.jpg” _builder_version=”3.0.63″][/et_pb_oxide_fullwidth_parallax_image][/et_pb_section][et_pb_section fb_built=”1″ _builder_version=”3.0.63″ custom_padding=”54px|0px|22px|0px”][et_pb_row _builder_version=”3.0.63″ custom_padding=”27px|0px|16px|0px”][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.0.63″ parallax=”off” parallax_method=”on”][et_pb_text _builder_version=”3.0.63″]

แต่ผู้ก่อตั้งบริษัท Kibera Tours หนึ่งในหลายบริษัทที่จัดทัวร์พาเที่ยวสลัมโดยคิดค่าบริการทัวร์ 3 ชั่วโมงประมาณ 1,000 บาทและมีลูกค้าปีละ 100-150 คน กลับมองว่าทัวร์แบบนี้มีข้อดี “ผมอยากโชว์ด้านดี ๆ ของ Kibera ทัวร์นี้ยังช่วยสร้างงานให้กับหนุ่มสาวที่นั่นด้วย” ทางบริษัทจ้างไกด์ 15 คน หนึ่งในนั้นคือ หนุ่มวัย 21 ปีซึ่งทำงานนี้มา 3 ปี “นักท่องเที่ยวดูสนุกกับทัวร์ แต่คนในสลัมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่” โดยเขาได้ค่าตอบแทนประมาณ 130 บาทต่อทัวร์ “รายได้ตรงนี้นอกจากจะทำให้ผมอยู่รอดแล้ว ผมยังเอามาลงทุนค้าขายเล็ก ๆ น้อย ๆ ด้วยครับ”

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”3.0.63″ custom_padding=”14px|0px|18px|0px”][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.0.63″ parallax=”off” parallax_method=”on”][et_pb_image src=”https://workpointnews.com/wp-content/uploads/2018/08/1535713946_64693_9015cd9cd909ed87b362065ea11f38962373f4a8.jpg” _builder_version=”3.0.63″ align=”center”][/et_pb_image][/et_pb_column][/et_pb_row][et_pb_row _builder_version=”3.0.63″ custom_padding=”27px|0px|19px|0px”][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.0.63″ parallax=”off” parallax_method=”on”][et_pb_text _builder_version=”3.0.63″]

ชาวเดนมาร์กคนหนึ่งซึ่งอาศัยอยู่ที่ไนโรบี มักพาเพื่อนหรือคนรู้จักที่มาจากต่างประเทศมาทัวร์ที่สลัมนี้ “ฉันอยากให้ทุกคนได้เห็นชีวิตของคนที่นี่ พวกเขาอาจจะไม่มีเงินแต่มีความสุข” แต่ไม่ว่าจะยังไง ผู้อยู่อาศัยในสลัมก็ไม่ชอบใจที่นักท่องเที่ยวพากันมาเที่ยวที่ที่พวกเขาเรียกว่าบ้าน

“ลองคิดกลับกันดูสิ ถ้าคนแอฟริกันผิวดำอย่างฉันไปเดินเที่ยวถ่ายรูปคนยากจนในยุโรปหรือในสหรัฐบ้าง พวกเขาจะรู้สึกยังไง” ผู้อยู่อาศัยคนหนึ่งกล่าว

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section][et_pb_section fb_built=”1″ fullwidth=”on” _builder_version=”3.0.63″][et_pb_oxide_fullwidth_parallax_image src=”https://workpointnews.com/wp-content/uploads/2018/08/1535713950_28544_18540c2df09d811e4232f96733726ecc5045e6c2.jpg” _builder_version=”3.0.63″][/et_pb_oxide_fullwidth_parallax_image][/et_pb_section][et_pb_section fb_built=”1″ _builder_version=”3.0.63″][et_pb_row _builder_version=”3.0.63″][et_pb_column type=”4_4″ _builder_version=”3.0.63″ parallax=”off” parallax_method=”on”][et_pb_text _builder_version=”3.0.63″]

ที่มา ‘We are not wildlife’: Kibera residents slam poverty tourism

[/et_pb_text][/et_pb_column][/et_pb_row][/et_pb_section]