นิด้าโพล ค้านพ.ร.บ.ยาใหม่! หนุน “เภสัชกร” จ่ายยาเหมือนเดิม

หนึ่งในหัวข้อถกเถียงของสังคม พ.ร.บ.ยาใหม่ เปิดทางให้วิชาชีพอื่นสามารถจ่ายยาได้ ไม่สงวนไว้ให้แค่ “เภสัชกร” ผลสำรวจจาก “นิด้าโพล” เป็นเสียงส่วนหนึ่งของประชาชนที่ให้ความเห็นในเรื่องนี้ โดยส่วนใหญ่มองว่า การให้วิชาชีพอื่นมาจ่ายยาได้ ส่งผลเสีย และ มีผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ป่วย

วันที่ 9 ก.ย. นิด้าโพล เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “พ.ร.บ.ยาใหม่ ประชาชนได้ประโยชน์?” โดยสำรวจความคิดเห็นจากประชาชนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,250 คนระหว่างวันที่ 3-4 ก.ย. 61 เกี่ยวกับการแก้ไข พ.ร.บ.ยา ฉบับใหม่ กรกฎาคม 2561

โดยแก้ไขจาก พ.ร.บ.ยา พ.ศ. 2510 มาตรา 21 ผู้รับอนุญาตขายส่งยาแผนปัจจุบัน ต้องมีเภสัชกรชั้นหนึ่งประจำอยู่ ณ สถานที่ขายยา ประจำอยู่ตลอดเวลาที่เปิดทำการ ให้ตัดข้อความ “เภสัชกร” เป็น “ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการ” ถ้าไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ สามารจัดหา ผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการมาทำงานแทนได้ และให้วิชาชีพอื่นในสายสุขภาพ สามารถจ่ายยาได้

ผลดีหรือผลเสียต่อประชาชนกับการที่ พ.ร.บ.ยาฉบับใหม่ เอื้อประโยชน์ให้วิชาชีพอื่นในสายสุขภาพ สามารถเปิดร้านขายยาได้เหมือนกับเภสัชกร

• ร้อยละ 51.2 ส่งผลเสีย เพราะ วิชาชีพอื่นในสายสุขภาพไม่มีความชำนาญ เชี่ยวชาญเท่ากับเภสัชกรที่จบมาเฉพาะด้าน และบางส่วน ระบุว่า ส่งผลทำให้มีร้านขายยาเพิ่มมากขึ้น
• ร้อยละ 46.48 ส่งผลดี เพราะจะได้มีทางเลือกเพิ่มมากขึ้น วิชาชีพอื่นในสายสุขภาพก็มีความรู้ความสามารถ ไม่น้อยกว่าเภสัชกร และเป็นการสร้างความเชื่อมั่นในการซื้อยามากขึ้น เนื่องจากในบางครั้งเภสัชกร ก็ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ถูกต้องอย่างแพทย์
• ร้อยละ 2.32 ไม่ระบุ / ไม่แน่ใจ

ปัญหาเกี่ยวกับยาที่ควรปรับปรุงแก้ไขมากที่สุด

• ร้อยละ 32.08 การขายยาออนไลน์
• ร้อยละ 15.92 การให้วิชาชีพอื่นสามารถเปิดร้านขายยาได้โดยไม่ต้องขออนุญาต
• ร้อยละ 13.12 การโฆษณายาอันตราย
• ร้อยละ 12.80 การผสมยา ถือเป็นการผลิตยาใหม่ต้องมีการควบคุมเข้มงวด
• ร้อยละ 12.16 การขายยาชุด ยาแบ่งขาย
• ร้อยละ 10.80 การจัดประเภทของยาตามหลักสากล คือ จ่ายยาตามใบสั่งแพทย์ จ่ายยาโดยเภสัชกร ยาสามัญที่ประชาชนซื้อได้เอง
• ร้อยละ 2.24 ไม่ระบุ / ไม่แน่ใจ
• ร้อยละ 0.88 การนำเทคโนโลนีสารสนเทศเข้ามาให้บริการด้านยาแก่ประชาชน

ด้านความเชื่อมั่นของประชาชนต่อบุคลากรวิชาชีพอื่นในสายสุขภาพสามารถจ่ายยา / ขายยา ได้เทียบเท่ากับเภสัชกร

• ร้อยละ 68 ไม่เชื่อมั่น เพราะเภสัชกรมีความรู้ ความชำนาญมากกว่าบุคลากรวิชาชีพอื่นในสายสุขภาพ เนื่องจากเรียนตรงตามหลักสูตรและตรงกับสายงาน ขณะที่บางส่วน ระบุว่า ต้องการผู้ที่มีความรู้ ความสามารถเฉพาะทางในการแนะนำหรือจ่ายยา
• ร้อยละ 29.44 เชื่อมั่น เพราะบุคลากรวิชาชีพอื่นในสายสุขภาพมีความรู้ความสามารถเทียบเท่าเภสัชกร
• ร้อยละ 2.56 ไม่ระบุ / ไม่แน่ใจ

การยอมรับให้วิชาชีพอื่นในสายสุขภาพสามารถจ่ายยา/ขายยาโดยไม่มีเภสัชกรควบคุม

• ร้อยละ 77.04 ยอมรับไม่ได้ เพราะผู้ที่จะจ่ายยาได้นั้นต้องเป็นเภสัชกร หรือมีเภสัชกรคอยควบคุมการจ่ายยา ขณะที่บางส่วนระบุว่า ไม่มีความมั่นใจหากเป็นวิชาชีพอื่นที่ไม่ได้จบเฉพาะทาง ไม่มีความเชี่ยวชาญเทียบเท่าเภสัชกร อาจจะจ่ายยาไม่ตรงกับโรคที่เป็นหรือจ่ายยาผิด
• ร้อยละ 21.12 ยอมรับได้ เพราะ เป็นการเปิดกว้างในด้านอาชีพมากขึ้น เนื่องจากวิชาชีพอื่นในสายสุขภาพก็มีความรู้ ความสามารถเทียบเท่ากับเภสัชกร
• ร้อยละ 1.84 ไม่ระบุ/ไม่แน่ใจ

โพลฉบับเต็ม