ชาวตรังแห่รักษา ‘เผายาบนท้อง’ ช่วยเรื่องเลือดลมและช่องท้อง ตามสูตรแพทย์แผนไทย

ชาวตรังแห่รักษา ‘เผายาบนท้อง’ หวังช่วยเรื่องเลือดลมและช่องท้อง ตามสูตรแพทย์แผนไทย เผยส่วนมากเป็นคนไข้ที่รักษาแพทย์แผนปัจจุบันมาแล้วแต่ไม่หาย ต้องการลดยาและผลข้างเคียง

เมื่อวันที่ 11 ก.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพแพทย์แผนไทย โรงพยาบาลนาโยง จ.ตรัง เปิดให้บริการเผายาบนหน้าท้องของผู้ป่วยหรือที่เรียกว่า “เผาเครื่องยาร้อน” เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวกับเลือดลมและช่องท้อง เช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ท้องผูกและอื่น ๆ

https://www.facebook.com/NewsWorkpoint/videos/1107615959402078/

ผู้ป่วยส่วนมากจะเข้ารับการรักษากับแพทย์แผนปัจจุบันแล้วแต่ไม่หายขาด จึงหันมารักษากับแพทย์ทางเลือกหรือแพทย์แผนไทย เพื่อลดการกินยาและผลข้างเคียงที่อาจตามมาในระยะยาว ขั้นตอนของการเผายาบนหน้าท้องของผู้ป่วยนั้น เริ่มทำการรักษากันมาตั้งแต่ปี 2555 ก่อนการรักษาแพทย์แผนไทยจะต้องคัดกรองผู้ป่วยก่อน หากมีไข้ มีแผลผ่าตัดหรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง มีกำเดาอุ่นกายกำเริบ ก็จะไม่เผายาให้

สำหรับศาสตร์การเผาเครื่องยาร้อน ใช้กันมากในโรงพยาบาลสังกัดกระทรวงสาธารณสุข วัตถุดิบหลักๆ ได้แก่ สมุนไพรพื้นบ้าน เช่น ขมิ้น, ผิวมะกรูด, ตะไคร้, หัวไพล, เหง้าข่า, เหง้ากระทือและเกลือ นำวัตถุดิบหลักมาตำเข้าให้เข้า ก่อนนำมาพอกบนหน้าท้องของผู้ป่วย ซึ่งจะต้องนวดน้ำมันเพื่อกระตุ้นบริเวณช่องท้องเสียก่อนประมาณ 5-10 นาที เมื่อโรยเครื่องยาลงไปแล้วก็ใช้ผ้าชุบน้ำปิดลงไปบนหน้าท้อง ก่อนจะเทเมทธิลแอลกอฮอล์แล้วจุดไฟเผานาน 1-3 นาที รวมคนละ 3 ครั้ง หรือจนกว่าผู้ป่วยจะรู้สึกว่าร้อน

จึงจะใช้ผ้าชุบน้ำคลุมทับเพื่อยุติการรักษา แต่ละคนจะรักษาต่อเนื่องสัปดาห์ละ 3-5 ครั้ง โดยใช้ตัวยาเดิมที่เก็บไว้ใช้เฉพาะคนหรือจนกว่าจะหมดกลิ่นและสีเปลี่ยนไป ทุกขั้นตอนจะต้องทำโดยแพทย์แผนไทยที่ผ่านการฝึกอบรมและมีใบประกาศรับรองมาแล้วเท่านั้น แต่ละเดือนมีผู้ป่วยมาขอรับบริการกว่า 30-40 รายทั้งในและนอกเวลาราชการ ด้าน นางณัฐยมน พุฒนวล ผู้ป่วยรายหนึ่งกล่าวว่า หลังเผายา แล้วรู้สึกว่าตัวยาจะซึมเข้าไปในท้อง ทำให้รู้สึกสบายขึ้นมาก

นางสิตาพัชญ์ ธีรนิจคุณานนต์ แพทย์แผนไทยปฎิบัติการ โรงพยาบาลนาโยง อ.นาโยง จ.ตรังกล่าวว่า จริงๆ แล้วการเผาเครื่องยามีมาแต่สมัยโบราณกาลแล้ว โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ซึ่งโรงพยาบาลนาโยงนำมาใช้ประกอบการรักษาโรคเกี่ยวกับช่องท้อง และปวดกล้ามเนื้อหลัง เคล็ดขัดยอก โดยมีผู้ป่วย 30-35 รายต่อเดือน ส่วนใครที่สนใจสามารถติดต่อได้ทั้งในและนอกเวลาราชการ