ยิ่งสาว ยิ่งฉาว ! “บอย สกล” หนุ่มเนียนเรียน ม.ดัง สร้างโลกใบลวงมาเกือบ 10 ปี

ทำเอาหลายคนถึงกับงงงัน ที่เมื่อไม่กี่วันก่อน แฮชแท็กทวิตเตอร์ #บอยสกล ขึ้นอันดับหนึ่ง จนเกิดคำถามกระหึ่มตามมาว่า “บอย สกล” คือใคร ? หลังจากนั้นเรื่องราวของเขาก็เผยแพร่ออกมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังมีการขุดคุ้ย ที่ทำให้อึ้งทึ่งขึ้นไปได้อีก

ซึ่งเป็นเรื่องเหลือเชื่อเป็นอย่างมากว่า เป็นไปได้อย่างไร ที่ บอย สกล หรือ นายสกล จะแฝงตัวเป็นนักศึกษาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้อย่างแนบเนียน เป็นเวลาร่วม 4 ปี ? โดยระหว่างนั้นได้มีการโพสต์ภาพขณะอยู่ในกลุ่มเพื่อนนักศึกษา รวมถึงเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็นการรับน้อง เข้าค่าย ฯลฯ และที่พีคสุดๆ ก็คือ การที่เขาเป็นหนึ่งในผู้ถือป้ายงานฟุตบอลประเพณี จุฬา – ธรรมศาสตร์

สร้างโลกใบลวง ตั้งแต่ช่วงเรียนมัธยม

จุดเริ่มต้นของมหากาพย์โลกใบลวงของบอย สกล คาดว่าน่าจะเกิดขึ้นเมื่อเกือบ 10 ปีที่แล้ว หลังจากเขาจบ ม.3 ด้วยเกรดเฉลี่ยที่ไม่ดีนัก จึงไม่สามารถเรียนต่อชั้น ม.4 ในโรงเรียนเดิมได้ ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาชื่อดังของจังหวัดฉะเชิงเทรา

หลังจากนั้นเขาก็เข้าไปเรียนที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ แต่กลับบอกกับใครๆ ว่า ตัวเองเรียนสวนกุหลาบฯ (บางแหล่งข่าวระบุว่า เขาเนียนเป็นนักเรียนเตรียมอุดมฯ ด้วย) และไม่ได้แอบอ้างเฉยๆ บอย สกล ถึงกับลงทุนสวมเครื่องแบบของสถาบันดังกล่าว เข้าไปเนียนทั้งร่วมเรียน ร่วมกิจกรรม โดยมีการเผยแพร่ภาพเป็นระยะในโลกออนไลน์ จนคนทั่วไปเข้าใจว่า เขาเป็นนักเรียนของสวนกุหลาบฯ จริงๆ

ต่อมาก็มีเพื่อนนักเรียนบางคนเอะใจสงสัย แต่บอย สกล ก็เอาตัวรอดได้ด้วยการสร้างเรื่องโป้ปดมดเท็จให้ผู้จะที่ทำการเปิดโปงได้รับความเสียหาย จนหลายคนต้องล่าถอยไป แต่ความจริง ย่อมเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ สุดท้ายแล้วเขาก็ไม่รอด ถูกกระชากหน้ากากได้ในที่สุด

เป็นประธานสโมสรนิสิตคณะวิศวะ

เมื่อถูกจับได้ บอย สกล ก็หลบหายไป หลังจากนั้นเขาก็สามารถสอบเข้าศึกษาต่อใน คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ได้ โดยเพื่อนๆ ที่เคยร่วมเรียนกับเขาต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า บอย สกล มีวาทศิลป์ดีเยี่ยม พูดจาโน้มน้าวเก่งมาก โดยระหว่างเรียนที่นั่น เขาก็ชักชวนเพื่อนๆ ตั้งพรรค แล้วพรรคของเขาก็ชนะการเลือกตั้ง ทำให้ บอย สกล ได้เป็นประธานสโมสรนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์

ในระหว่างที่ทำหน้าที่ตรงนี้ บอย สกล ก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่า ยักยอกเงินของสโมสร เกือบ 7 แสนบาท แต่เรื่องนี้เพื่อนๆ ของเขาก็บอกว่า เป็นแต่เพียงการตั้งข้อสงสัยเท่านั้น เพราะไม่มีหลักฐานเอาผิดกับเขาได้

 สร้างสตอรี่ เรียนที่ ม.ดัง

ต่อมาเขาก็ถูกรีไทร์ อันเนื่องมาจากเกรดเฉลี่ยที่ต่ำกว่าเกณฑ์ แล้ว บอย สกล ก็สร้างสตอรี่ขึ้นว่า ตัวเองสอบติดจุฬาฯ โดยมีภาพที่เขาร่วมกิจกรรมต่างๆ ของมหาวิทยาลัยออกมาเป็นระยะ อีกทั้งยังมีการโชว์ใบเกรดในเฟซบุ๊กอย่างสม่ำเสมอ โดยตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา ทางครอบครัวของบอย สกล เอง ก็เข้าใจว่า เขาเรียนที่มหาวิทยาลัยดังกล่าวจริงๆ

โดยเพื่อนนักศึกษาคนหนึ่งที่เป็นรูมเมทของเขา ได้ให้ข้อมูลกับนักข่าวว่า บอย สกล จะแต่งชุดนักศึกษาของมหาวิทยาลัยไปเรียนทุกวัน ทำให้ตนไม่เกิดความระแคะระคาย หรือสงสัยแต่อย่างใด

เเละก่อนหน้าที่เขาจะเเอบอ้างว่าเรียนที่จุฬาฯ ก็มีภาพของเขาเข้าร่วมกิจกรรมรับน้อง ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วย

เนียนเป็น นักศึกษา ม.ดัง ได้อย่างไรถึง 4 ปี ?

แหล่งข่าวในมหาวิทยาลัยดังกล่าวได้ให้ข้อมูลว่า บอย สกล เนียนไปเรียนในหลายคณะ ทั้งทันตแพทย์ศาสตร์ พาณิชย์ศาสตร์และการบัญชี ร่วมถึงเศรษฐศาสตร์ โดยคาดว่าในการร่วมกิจกรรมต่างๆ เขานำชื่อและรหัสนิสิตคนอื่นไปแอบอ้าง ประกอบกับนโยบายของทางมหาวิทยาลัยที่สนับสนุนให้นิสิตทำกิจกรรม จึงไม่ได้มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดนัก บอย สกล จึงใช้ช่องโหว่งตรงนี้เข้าไปเนียนได้อย่างต่อเนื่อง

อย่างการเป็นหนึ่งในผู้ถือป้ายงานฟุตบอลประเพณีฯ นั้น คาดว่า บอย สกล ใช้วิธีแอบอ้างชื่อ รหัสของนิสิตคนอื่น โดยคนที่รู้จักกับเขาเล่าว่า บอย สกล ขออาสาทำหน้าที่นี้ ซึ่งด้วยบุคลิกน่าเชื่อถือ พูดจาโน้มน้าวเก่ง จึงทำให้เขาได้รับหน้าที่นี้ไปในที่สุด

และที่ผ่านมาถึงจะมีคนสงสัย ระแคะระคาย แต่ก็จะถูก บอย สกล ใช้วิธีใส่ร้ายป้ายสีให้เสื่อมเสีย เพื่อให้คนคนนั้นหมดความน่าเชื่อถือ ซึ่งเป็นวิธีที่เขาใช้ตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม และสั่งสมประสบการณ์การทำลายล้างได้อย่างช่ำชองขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ลอยนวลมาได้อย่างยาวนาน

โดยแหล่งข่าวที่เคยทำกิจกรรมร่วมกับเขาได้ให้ข้อมูลว่า บอย สกล มีความใฝ่ฝันอยากเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัย และได้ชักชวนตนให้ไปสมัครด้วย แต่เมื่อเรื่องลวงโลกของเขาถูกแฉ บอย สกล ก็หายตัวไป และไม่สามารถติดต่อได้จนถึงขณะนี้

เมื่อโลกใบลวงถล่ม

และแล้วจุดจบโลกใบลวงของ บอย สกล ก็มาถึง หลังจากเขาทำเรื่องขอเป็นผู้รับผิดชอบโครงการ “ค่ายวิชาการกระดานสีขาว” ของมหาวิทยาลัย ซึ่งอาจจะเนื่องมาจากความย่ามใจที่สามารถเนียนเป็นนิสิตของสถาบันแห่งนี้มาได้ถึง 4 ปี เขาจึงส่งชื่อจริง นามสกุลจริง ไป ทำให้ต้องตายน้ำตื้น เพราะเมื่อทางมหาวิทยาลัยนำชื่อนามสกุลไปตรวจสอบ ก็ไม่พบในฐานข้อมูลนิสิต ทำให้โลกใบลวงของบอย สกล ต้องถล่มลงในทันที

ชีวิตหลังจากนี้ของ บอย สกล

หลังจากถูกแฉ บอย สกล ก็หายหน้าไปทันที จนถึงทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครติดต่อเขาได้ แม้แต่ทางครอบครัวก็ไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหน และทางมหาวิทยาลัยที่เขาแอบอ้าง กำลังเตรียมหลักฐานเพื่อเอาผิดกับ บอย สกล ที่ทำให้สถาบันเสื่อมเสียชื่อเสียง

ซึ่งจากข้อมูลของบุคคลที่รู้จักเขา ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า บอย สกล เป็นผู้ที่มีวาทศิลป์สุดยอดมาก แต่น่าเสียดายที่เขานำไปใช้ในทางที่ผิด ด้วยการสร้างโลกจอมปลอมขึ้นมา และเลือกมีชีวิตอยู่กับการหลอกลวง

ดังนั้นเมื่อโลกใบลวงถล่มลง วิธีที่ดีที่สุดก็คือการออกมาเผชิญหน้า พูดความจริง ยอมรับความผิด ยอมรับผลจากการกระทำที่ตนเองก่อ และเรียนรู้ที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปให้ได้ ในโลกแห่งความเป็นจริง