อดีตผู้ใหญ่บ้านตกใจ มีชื่อแจ้งตายทั้งที่ตัวยังมีชีวิตอยู่

อดีตผู้ใหญ่บ้านตกใจมีชื่อของตัวเองแจ้งตายทั้งๆ ที่ตัวเองยังมีชีวิตอยู่ ด้าน “อัจฉริยะ” ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมพาร้องภาค 7 ตรวจสอบโยงแก๊งค้ามนุษย์หรือไม่

วันที่ 13 ก.ย. 61 นายอัจฉริยะ  เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมนำครอบครัวของนายประเสริฐ สุกแดง อายุ 61 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านใน ต.มาบแค อ.เมือง จ.นครปฐม ที่ถูกบุคคลไม่รู้จักแจ้งตาย นอกจากนั้นมีชื่อ-นามสกุลซ้ำกันกับนายประเสริฐ ชื่อนายประเสริฐ สุกแดง ชาวบ้านจาก ต.ลำเหย อ.เมือง จ.นครปฐมอายุ 61 ปีเท่ากัน ซึ่งวันนี้ก็มาแสดงตัวเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจ โดยได้ยื่นหนังสือต่อพล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ที่กองบังคับการตำรวจภูธรภาค 7 จ.นครปฐม ให้ช่วยสืบหาว่าคนที่ตายเป็นใครและช่วยคืนสถานะบุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่ให้

ประเสริฐ สุกแดง ชาวบ้านจาก ต.ลำเหย (ขวา) ประเสริฐ สุกแดง อดีตผู้ใหญ่บ้าน (ซ้าย)

ด้านนายอัจฉริยะตั้งข้อสังเกตุว่าน่าจะมีขบวนการสวมสิทธิ์บัตรประชาชน และเรื่องเอาเงินประกันด้วยหรือไม่ ก็ต้องปล่อยให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการตรวจสอบทุกขั้นตอนอย่างถูกต้องแบบตรงไปตรงมา ทั้งนี้มีการสอบถามไปยังนางอรรัมภา ชาวนาไร่ ภรรยาของนายประเสริฐทราบว่า เรื่องดังกล่าวเกิดจากที่น.ส.ฤดี มนูเลิศ ลูกสาวญาติของนายประเสิรฐ เคยมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้าน แต่ต่อมาได้มีการขอให้นายประเสริฐ รับรองนางสาวฤดีเป็นบุตร แต่ทางนายประเสริฐไม่ยินยอม น.ส.ฤดี จึงได้ย้ายออกจากทะเบียนบ้านเมื่อปี พ.ศ. 2544

จนมาปี พ.ศ. 2559 ทางน.ส.ฤดี ได้ไปคัดทะเบียนบ้านที่เทศบาลเมืองเพชรบุรีที่มีชื่อนายประเสริฐ เพื่อเอาไปใช้สิทธิ์บัตรทอง 30 บาท ที่โรงพยาบาลพระจอมเกล้า จ.เพชรบุรี เพื่อทำการรักษาพ่อของตัวเองที่ป่วยเป็นโรงมะเร็งระยะสุดท้าย เนื่องจากพ่อของเธอเป็นต่างด้าวไม่มีบัตรประชาชนและไม่มีสิทธิ์ในการรักษาที่โรงพยาบาลดังกล่าว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 23 ม.ค. 61 พ่อของเธอได้เสียชีวิตลง น.ส.ฤดีจึงได้ไปแจ้งตายและทางโรงพยาบาลก็ออกหนังสือรับรองการตายให้ และมีการจัดงานศพไปเรียบร้อย

จนนายประเสริฐมารู้เรื่องขณะเดินทางไปประเทศเมียนมา เนื่องจากไม่สามารถเดินทางได้เพราะทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่านายประเสริฐได้เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งหลังจากนี้ทางเทศบาลเมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ก็ได้ทำการนัดให้มายืนยันตัวตนในวันที่ 19 ก.ย. 61 ที่จะถึงนี้