ชวนเดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณะช่วยลดปริมาณรถยนต์ส่วนบุคคล และลดปัญหามลพิษในวันปลอดรถสากล “Bangkok Car Free Day 2018”
วันนี้ (22 ก.ย. 61) นายสกลธี ภัททิยกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในการปล่อยขบวนจักรยานกิจกรรมรณรงค์ “Bangkok Car Free Day 2018” เนื่องในวันปลอดรถสากล (Wolrd Car Free day) ซึ่งตรงกับวันที่ 22 ก.ย. ของทุกปี โดยเมืองใหญ่ทั่วโลกจะร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลหันมาใช้รถขนส่งมวลชน ลดปริมาณรถยนต์ในท้องถนน ช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศจากยานพาหนะ
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร ร่วมกับ บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด จัดขึ้นภายใต้คำขวัญ “เดินทางร่วมกัน วันพาหนะส่วนรวม” เพื่อลดปัญหาด้านการจราจร ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนเดินทางได้สะดวก รวดเร็ว ประหยัด และปลอดภัย ด้วยการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนอย่างมีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกพื้นที่ รวมถึงร่วมใจกันปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทาง จอดรถไว้ที่บ้านหันมาใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้น เพื่อลดปริมาณรถยนต์บนท้องถนน ลดปัญหาการจราจรติดขัด ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ประหยัดพลังงาน และช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศจากยานพาหนะช่วยยกระดับคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น โดยมี นายซิลเวสเตอร์ บุช เอกอัครราชทูตฮังการีประจำประเทศไทย คณะทูตอินโดนีเซีย คณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ผู้บริหารสำนักการจราจรและขนส่ง กทม. กรมควบคุมมลพิษ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจจราจร ผู้บริหารบริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด ภาคีเครือข่าย และผู้เข้าร่วมกิจกรรม ร่วมพิธีปล่อยขบวนจักรยาน ณ บริเวนลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เขตปทุมวัน
จากนั้นร่วมขบวนปั่นจักรยานกิจกรรมรณรงค์ “Bangkok Car Free Day 2018” ระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร โดยเริ่มจากบริเวณลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ไปตามถนนราชดำริ ถนนเพชรบุรี ถนนบรรทัดทอง และถนนพระราม 1 แล้วกลับเข้าสู่ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กรุงเทพมหานครประสบปัญหาด้านการจราจรติดขัดอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นผลอันเนื่องมาจากความต้องการประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น และการเดินทางที่ยังต้องพึ่งพารถยนต์ส่วนบุคคลเป็นส่วนใหญ่ กรุงเทพมานครมุ่งหวังที่จะพัฒนาการเดินทางในกรุงเทพฯ และพื้นที่เกี่ยวเนื่องให้การเดินทางเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และปลอดภัยตามนโยบาย NOW “ทำจริง เห็นผลจริง” จึงมีแนวคิดที่จะพัฒนาการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนให้มีประสิทธิภาพครอบคลุมทุกพื้นที่เพื่อรองรับปริมาณและความต้องการเดินทางของชาวกรุงเทพฯ ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดกิจกรรมในวันนี้จะเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนหันมาใช้รูปแบบการเดินทางโดยไม่ใช้เครื่องยนต์เพื่อลดการใช้พลังงานสิ้นเปลือง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเดินทาง ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลหันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะมากยิ่งขึ้นต่อไป