SHARE

คัดลอกแล้ว

ผู้ปกครองร้อง ! ลูกชายวัย 7 ขวบ ถูกเพื่อนห้องเดียวกันใช้ไม้ไผ่แทงเท้าเป็นแผลลึก เลือดอาบ เหตุไม่มีเงินซื้อขนมเลี้ยง แต่ทางโรงเรียนไม่แจ้งเรื่อง และไม่นำเด็กส่งโรงพยาบาล

วันที่ 24 กันยายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพร้อมพงศ์ พิมเภา อายุ 30 ปี ชาว อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ผู้ปกครอง ด.ช.พงศธร พิมเภา อายุ 7 ปี นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อ.เขาวง จ.กาฬสินธุ์ ร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน หลังลูกชายถูกเพื่อนนักเรียนร่วมห้องใช้ไม้แทงหลังเท้าจนได้รับบาดเจ็บ เป็นแผลลึก สาเหตุเกิดจากลูกชายไม่มีเงินซื้อขนมเลี้ยงเพื่อน โดยหลังเกิดเหตุทางโรงเรียนละเลยไม่ยอมทำแผลให้เด็ก ไม่พาไปโรงพยาบาล และไม่แจ้งเรื่องให้ผู้ปกครองทราบ มาทราบอีกทีตอนเด็กกลับมาบ้านแล้ว จึงเข้าขอความเป็นธรรมดังกล่าว

นายพร้อมพงศ์ พ่อของเด็กผู้เสียหาย กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 22 กันยายน ที่ผ่านมา หลังเลิกเรียนตนได้เดินทางไปรับลูกชายตามปกติ แต่สังเกตเห็นหลังเท้าข้างขวา มีพลาสเตอร์ติดอยู่ และมีคราบเลือดอาบทั่วหลังเท้า ตอนแรกไม่ได้เอะใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นแผลถลอกที่เกิดจากเด็กหยอกล้อกันเท่านั้น อีกทั้งทางคณะครูก็ไม่ได้แจ้งเรื่องใด ๆ กระทั่งกลับมาถึงบ้าน ลูกชายบอกว่าปวดแผลและเท้าบวม จึงเปิดพลาสเตอร์ออกดูก็ต้องตกใจ เพราะพบว่าเป็นแผลลึกและยาวกว่า 2 ซม.จึงรีบนำตัวไปโรงพยาบาล ซึ่งแพทย์ก็ทำการล้างแผลและเย็บ 2 เข็ม แพทย์ถามว่าทำไมไม่พามาตอนที่เกิดเหตุใหม่ ๆ ตนจึงได้แจ้งไปว่าเพิ่งทราบเรื่อง

ซึ่งหลังจากทำแผลเสร็จได้สอบถามลูกชายทราบว่า ช่วงเวลา 12.00 วันที่ 22 กันยายน ขณะอยู่ที่โรงเรียน ลูกชายกำลังนั่งเก็บก้อนหินเล่นใกล้สนามเด็กเล่นกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง จากนั้นมีเด็กชายชั้น ป.1 ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนนำไม้ไผ่แหลมเดินเข้ามาแทงที่บริเวณหลังเท้าของ ด.ช.พงศธร ซึ่งจากการสอบถามลูกชายเเละเพื่อนทราบว่า สาเหตุที่เด็กคนดังกล่าวนำไม้ไผ่มาแทงเท้านั้น เพราะโกรธที่ไม่ได้กินขนมจาก ด.ช.พงศธร เหมือนทุก ๆ วัน เพราะวันนั้นลูกชายได้เงินมาโรงเรียนเพียง 10 บาท ไม่เหมือนทุกวันที่ผ่านมา ซึ่งถูกขู่บังคับให้ซื้อขนมเลี้ยงมาโดยตลอด

หลังจาก ด.ช.พงศธร พิมเภา โดนเพื่อนเอาไม้ไผ่แทงหลังเท้า ครูที่เห็นเหตุการณ์กับไม่มีการพาเด็กไปล้างแผล และทำแผลให้เด็ก มีเพียงการนำพลาสเตอร์มาติดแผลให้เท่านั้น ทั้งที่เป็นแผลฉกรรจ์และไม่พาไปพบหมอ อีกทั้งไม่มีการเเจ้งผู้ปกครองให้ทราบเรื่อง กระทั่งถึงเวลาเลิกเรียนผู้ปกครองไปรับแล้วเห็น ด.ช.พงศธร พิมเภา เดินเท้ากระเผกจึงได้สอบถามก็ทราบว่าโดนเพื่อนเอาไม้ไผ่แทงเท้า

โดยนายพร้อมพงศ์ บอกอีกว่าว่า หากเรื่องดังกล่าวไม่เกิดขึ้นกับลูกของตนเอง หลายคนอาจไม่รู้ว่าคนเป็นพ่อแม่นั้นรู้สึกอย่างไรที่เห็นลูกเป็นแบบนี้ และที่สำคัญหลังเกิดเหตุคณะครู ผู้บริหารโรงเรียน และผู้ปกครองของเด็กที่ก่อเหตุกลับไม่ยอมพาเด็กไปรักษาตัว และไม่ยอมพูดคุยชี้แจงเรื่องราวที่เกิดขึ้น กลับปล่อยให้เรื่องเงียบหายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซึ่งกรณีนี้ถือว่าไม่ถูกต้อง เพราะที่ผ่านมาทราบจากผู้ปกครองหลายคนว่าเด็กที่เกิดเหตุใช้ไม้แทงลูกชายนั้น ยังเคยกัดเพื่อนและนำรองเท้า หมวกลูกเสือของเพื่อน ๆ ไปซ่อนหลายครั้ง ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องควรที่จะแสดงความรับผิดชอบและร่วมกันหาวิธีแก้ไข เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นอีก จึงร้องขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชน และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบ อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าวตนอยู่ระหว่างปรึกษาทางครอบครัว และเตรียมที่จะเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เขาวง ต่อไป

ล่าสุด นายประพันธ์ศักดิ์ ไชยสิงห์ ผู้อำนวยการโรงเรียนกุดสิมวิทยาสาร อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตนทราบเรื่องตั้งแต่วันเกิดเหตุแล้ว ยอมรับว่าที่แรกเห็นพลาสเตอร์ติดไว้เท่านั้น ไม่ได้เปิดแผลดู กระทั่งผู้ปกครองไปเปิดแผลดูแล้วไม่สบายใจ ซึ่งตนได้ให้ครูประจำชั้นเชิญผู้ปกครองของเด็กทั้งสองฝ่ายมาทำความเข้าใจและขอโทษที่ทางโรงเรียนปล่อยประละเลย พร้อมยืนยันว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ถึงแม้เป็นเรื่องไร้เดียงสาของเด็ก แต่ก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะทั้งคนทำและคนถูกกระทำล้วนเป็นเด็กทั้งคู่

ทั้งนี้พฤติกรรมของเด็กก่อเหตุแกล้งเพื่อนมาแล้วหลายครั้ง เหมือนเด็กเก็บกด ทราบว่าเด็กคนดังกล่าวนั้นมีปัญหาทางครอบครัว ทางโรงเรียนได้กำชับให้ผู้ปกครองดูแลบุตรหลานให้มากขึ้น และกำชับครูทุกคนคอยดูแลสอดส่องเด็กนักเรียนให้มากขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดขึ้นอีก และหากมีเหตุการณ์ลักษณะนี้ให้รีบนำเด็กส่งโรงพยาบาลทันที

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า