เกิดเหตหนุ่มใหญ่ อายุ 40 – 45 ปี ปีนป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ สูงจากพื้นดินประมาณ 20 เมตร ในซอยนายเลิศ จ.กรุงเทพฯ จนท.พยายามเกลี้ยกล่อม เเต่ไม่เป็นผล หนุ่มใหญ่กระโดดลงมา ร่างตกบนหลังคาบ้าน บาดเจ็บสาหัส
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 24 ก.ย. 61 ร.ต.อ.วินิทร ตาลพรศรี รอง สวป.สน.ลุมพินี รับแจ้งเหตุมีชายคลุ้มคลั่งพยายามจะกระโดดจากที่สูงภายในซอยนายเลิศ แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพฯ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และประสานไปยังสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอเบาะลมก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ร้อย รส.ที่ 2 ม.พัน.1 รอ. ตำรวจป้องกันและปราบปราม ตำรวจฝ่ายสืบสวนสน.ลุมพินี และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุเป็นแผ่นป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ สูงจากพื้นดินประมาณ 20 เมตร ตั้งอยู่มนชุมชนเฉลิมนุสรณ์ และอยู่ห่างจากปากซอยประมาณ 500 เมตร เจ้าหน้าที่พบผู้พยายามกระโดดจากที่สูงเป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ อายุประมาณ 40-45 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้นคอกลมสีเลือดหมู กางเกงขาสั้นลายสก๊อตสีเทาดำ ไม่สวมรองเท้า อยู่ในลักษณะกำลังปีนป่ายอยู่บนโครงเหล็กหลังป้ายโฆษณา มีอาการคล้ายกับคนไม่ได้สติ
ทางเจ้าหน้าที่ดับเพลิงพญาไทนำเบาะลมมากาง แต่ไม่สามารถกางได้ เนื่องจากบริเวณด้านล่างของป้ายโฆษณาจุดเกิดเหตุนั้นมีพื้นที่แคบมาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเจรจาเกลี้ยกล่อมผู้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง โดยมีประชาชนที่อยู่ในชุมชนต่างมายืนมุงดูเหตุการณ์เป็นจำนวนมาก
ต่อมาเวลา 20.36 น. ทางเจ้าหน้าที่เกลี้ยกล่อมไม่เป็นผล ชายคนดังกล่าวได้กระโดดดิ่งตัวตรงลงมาบริเวณหลังคากระเบื้องของห้องเช่า ไม่มีเลขที่ ริมทางรถไฟของชุมชนดังกล่าว จนถูกกระเบื้องหลังคาบาดจนแขนขวาขาด ถึงต้นแขน และข้อเท้าข้างซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่กู้ชีพเอราวัณเร่งช่วยเหลือเบื้องต้นและรีบนำส่ง รพ.ตำรวจ เป็นการเร่งด่วน
จากการสอบสวน นายเทพบุตร พรมภา อายุ 44 ปี ชาวบ้านที่พักอยู่ในจุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงหัวค่ำตนพักอาศัยอยู่ในห้องเช่าได้ยินเสียงชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนตะโกนเสียงดังเหมือนเกิดเหตุขึ้น แต่พอตนออกมาดูพบเห็นชายวัยกลางคนอายุ 40 – 45 ปี กำลังปีนโครงเหล็กของป้ายโฆษณาอยู่ในอาการไม่มีสติคล้ายกับคนเมายาเสพติด จากนั้นคนในชุมชนจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ทั้งนี้จากการถามเพื่อนบ้านที่พักอาศัยต่างไม่รู้จักชายที่ก่อเหตุดังกล่าวแต่อย่างใด
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะต้องรอให้ผู้ก่อเหตุนั้นรักษาตัวก่อน จะทำการสอบปากคำเพื่อระบุตัวบุคคล และสาเหตุของการก่อเหตุในครั้งนี้ต่อไป