SHARE

คัดลอกแล้ว

รัฐบาลวอชิงตันตอบโต้คำตัดสินศาลโลก ที่สั่งให้ยกเลิกคว่ำบาตรสินค้าเชิงมนุษยธรรมต่ออิหร่าน โดยมีแผนถอนตัวจากสนธิสัญญาไมตรีระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ

จากกรณีองค์คณะผู้พิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก มีคำตัดสินเป็นเอกฉันท์ ให้สหรัฐอเมริกายุติการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน สำหรับสินค้าที่เกี่ยวข้องกับด้านมนุษยธรรม เพราะละเมิดสนธิสัญญาไมตรีระหว่างอิหร่านกับสหรัฐฯ ปี 2498 และอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตประชาชนในอิหร่าน

โดยคำตัดสินของศาลโลก สั่งให้รัฐบาลวอชิงตันยกเลิกมาตรการลงโทษ ในการส่งออกสินค้าและบริการต่างๆ ทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ อาหาร สินค้าทางการเกษตร อุปกรณ์และบริการซ่อมแซมเครื่องบิน ไปยังอิหร่าน

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเตหะรานได้ร้องเรียนต่อศาลโลกว่า สหรัฐฯ ละเมิดสนธิสัญญาไมตรีกับอิหร่าน ด้วยการถอนตัวจากข้อตกลงด้านนิวเคลียร์อิหร่าน ปี 2558 และนำมาตรการคว่ำบาตรกลับมาใช้กับอิหร่านอีกครั้ง

องค์คณะผู้พิพากษาศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 61 มีคำสั่งให้สหรัฐอเมริกา ยุติการคว่ำบาตรอิหร่าน / AP

ขณะที่อิหร่านชื่นชมคำตัดสินของศาลโลกครั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะ แต่รัฐบาลวอชิงตัน ระบุว่า การตัดสินดังกล่าวเป็นสิ่งที่ไม่มีค่า และเกี่ยวข้องกับการคว่ำบาตรเพียงบางส่วน และยังไม่มีความชัดเจนว่า คำตัดสินของศาลโลกจะมีผู้ปฏิบัติตามหรือไม่

เนื่องจากทั้งสหรัฐฯ และอิหร่าน ต่างเคยเพิกเฉยต่อคำตัดสินของศาลศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมาแล้วในอดีต

แม้คำตัดสินของศาลโลกครั้งนี้ ถือว่ามีผลผูกมัดตามกฎหมาย แต่ไม่สามารถบังคับใช้ต่อคู่กรณีได้แต่อย่างใด

ล่าสุด วันนี้ (4 ต.ค.) รัฐบาลวอชิงตัน กำลังมีแผนถอนตัวออกจากสนธิสัญญาไมตรีกับอิหร่าน เพื่อตอบโต้คำตัดสินของศาลโลก ให้สหรัฐฯ ยกเลิกการคว่ำบาตรอิหร่าน

โดยนายจอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ แถลงต่อสื่อมวลชนว่า ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับอิหร่าน เป็นผลมาจากการปรับเปลี่ยนจุดยืนประเทศของผู้นำสูงสุดอิหร่าน จากชาติที่เคยได้รับความยกย่องบนเวทีโลก กลับกลายเป็นประเทศอันธพาล

จอห์น โบลตัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงสหรัฐอเมริกา / AFP

จุดประสงค์ของสหรัฐฯ ไม่ได้หวังล้มระบอบการปกครองของอิหร่าน แต่ต้องการให้ชาติดังกล่าวเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง

ส่วนนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า อิหร่านกำลังละเมิดกฎเกณฑ์ศาลโลก เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง และการโฆษณาชวนเชื่อของอิหร่าน

ทั้งนี้ การถอนตัวออกจากสนธิสัญญาไมตรีของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการทูตระหว่างสองชาติ ยิ่งก่อให้เกิดความตึงเครียด ระหว่างสหรัฐอเมริกากับอิหร่านมากขึ้น

ประชาชนอิหร่านเดินผ่านหน้าร้านแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ในกรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน / AFP

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า