อยากทำดีตอบแทน…เสียงภักดีของเด็กสุพรรณฯ เคยถวายฎีกาถึง ร.9

สีหน้าของ “ขวัญชนก กล่ำพุก” ในวัย 22 ปี สดชื่นแจ่มใส เช่นเดียวกับคนในครอบครัว อีก 4 ชีวิต ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง ริมคลองสองพี่น้อง เขตเทศบาลเมืองสองพี่น้อง อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ทุกวันนี้ครอบครัว “กล่ำพุก” มีเรือลำเล็กๆ เป็นของตัวเอง

ขวัญชนก เล่าย้อนความหลังว่า ตั้งแต่พ่อของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่ ปี 2555 ครอบครัวก็ขาดเสาหลัก พี่ชายป่วยเป็นโรคโปลิโอและโรคลมชัก น้องสาวคนเล็กก็เพิ่งมีอายุได้เพียงขวบครึ่ง  และเหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ไม่กี่ปีถัดมา แม่ก็ถูกรถชนจนทำให้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เธอกำลังเรียนกศน.ได้แต่ท้อใจในโชคชะตาของชีวิต

“ตอนนั้นมาขออาศัยอยู่ที่บ้านของน้าชาย ทั้งบ้าน 6-7 คน กินข้าวกับไข่ต้มใบเดียว”

เธอจึงคิดตามประสาเด็กว่า จะมีใครช่วยเธอและครอบครัวให้พ้นจากความทุกข์ยากนี้ได้บ้าง….

“ตอนนั้นเห็นข่าวพระราชสำนัก เขาบอกว่า มีคนเขียนฎีกาถวายแล้วมีคนได้ หนูก็เลยถามแม่ว่า เราลองเขียนกันไปบ้างไหม แม่ก็บอกว่า ถ้าอย่างนั้นก็เขียนร่างมาก่อนแล้วเราค่อยเขียนส่งไป หนูเขียนไปครั้งเดียว ประมาณเดือนนึงก็มีหนังสือตอบกลับมา”

ขวัญชนก ยังเก็บจดหมายตอบกลับที่จ่าหน้าซองจาก สำนักราชเลขาธิการ สวนจิตรลดา กรุงเทพฯ  เป็นอย่างดีจนถึงทุกวันนี้  “หนูดีใจมากที่ท่านยังเห็นเด็กที่เดือดร้อน ไม่ทิ้งประชาชนอย่างหนู”

ครอบครัวกล่ำพุก ได้รับพระราชทานพันธุ์ปลานิลจำนวน 3,000 ตัว และกระชัง 3 กระชัง ทำให้มีอาชีพเลี้ยงปลา หารายได้ จนขวัญชนกสามารถเรียนจบการศึกษา และมีงานทำเป็น พนักงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง สามารถเป็นเสาหลักดูแลครอบครัวของเธอได้เต็มที่

ซึ่งขวัญชนก บอกว่า แม้ภาระหน้าที่ในการเป็นหัวหน้าครอบครัวจะหนักหนา เพราะเป็นคนเดียวที่หารายได้หลัก ดูแลพี่ชายที่ป่วย แม่ ยาย และน้องสาวที่กำลังเรียน กศน. แต่เธอก็ไม่ท้อเพราะมีแรงบันดาลใจที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งสถิตอยู่ในหัวใจของเธอนับตั้งแต่วันที่ถวายฎีกา

“ท่านไปหาลูกทางภาคเหนือ หรือที่ไหนๆ ลำบากแค่ไหนท่านก็ไป พระองค์ไม่เคยพัก ไม่เคยบ่น ไม่เคยพูดว่าเหนื่อยให้ประชาชนได้ยิน ไม่แบ่งชั้นวรรณะ ท่านช่วยเหลือหมด เพราะทุกคนคือลูกของท่าน แล้วเราทำไมจะทำไม่ได้”

ทุกวันก่อนออกไปทำงานตอนเช้า และหลังจากเลิกงานกลับมาบ้าน ขวัญชนก จะกราบพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช เพื่อเป็นสิริมงคลสำหรับตนเองและครอบครัวเสมอ

นอกจากนี้ ขวัญชนก ยังบอกว่า เธอจะทำความดี ช่วยเหลือผู้อื่นทุกครั้งที่มีโอกาส เพื่อตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณของในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งแม้จะผ่านมา 2 ปีแล้วที่พระองค์สวรรคต ทุกครั้งที่นึกถึงก็ยังมีความรู้สึกเสียใจ สำหรับขวัญชนกแล้ว เมื่อถามว่า พระองค์ท่านอยู่ไหน เธอตอบแทนหัวใจคนไทยว่า พระองค์ท่านสถิตอยู่ในใจเสมอ

“พระองค์ท่านอยู่ในใจลูกทุกคน หนูรู้ท่านยังอยู่กับเราไม่ได้ไปไหน…”