สาวร้อง ! เก๋งถูกสวมทะเบียน เจอ 2 ใบสั่งจับความเร็ว เครียดเสียภาษีไม่ได้

โร่แจ้งความ ! ถูกสวมทะเบียนรถยนต์ เจอใบสั่งส่งมาที่บ้าน 2 รอบ ข้อหาขับรถเร็วเกินกฎหมายกำหนด ล่าสุดไม่สามารถเสียภาษีประจำปีได้ พบทะเบียนเก๋งถูกต่อภาษีไปแล้ว วอนหน่วยงานตรวจสอบ

วันที่ 9 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีสาวคนหนึ่งโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หลังได้รับความเดือดร้อนรถยนต์ถูกสวมทะเบียน นำไปใช้ในพื้นที่ต่าง ๆ จนมีใบสั่งตำรวจทางหลวง เรื่อง ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ส่งมาที่บ้านถึง 2 ใบ และล่าสุดไม่สามารถเสียภาษีรถยนต์ประจำปีได้ เนื่องจากมีคนนำหมายเลขทะเบียนรถยนต์ไปต่อภาษีฯแล้ว ทำให้ขณะนี้รถยนต์ของเธอขาดต่อภาษี สร้างปัญหาหนักใจอย่างมาก ทราบชื่อผู้โพสต์คือ นางสาวกรรณิการณ์ สงทิพย์ อายุ 34 ปี พนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน ล่าสุดได้นำเอกสารหลักฐานทั้งใบสั่ง ใบแจ้งความ รูปรถยนต์และพาไปดูรถยนต์ที่ใช้ขับเดินทางมาทำงานเป็นประจำทุกวัน

โดยนางสาวกรรณิการณ์ เล่าว่า ตนได้ซื้อรถยนต์มือหนึ่ง โตโยต้า วิออส สีบรอนเงิน หมายเลขทะเบียน กจ 3431 เพชรบุรี ใช้งานมานานกว่า 6 ปี กระทั่งปี 2560 มีใบสั่งจากสถานีตำรวจทางหลวง 3 กองกำกับการ 7 ส่งมาที่บ้านจำนวน 2 ใบ โดยทั้งสองใบระบุว่า รถยนต์หมายเลขทะเบียน กจ 3431 เพชรบุรี ซึ่งเธอเป็นเจ้าของ กระทำความผิดคือ ขับรถเร็วเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด โดยใบแรกระบุวันที่ 5 เดือนมีนาคม 2560 และใบที่สอง ระบุวันที่ 4 เมษายน 2560 พื้นที่กระทำความผิดคือ กม.1241-1242 ท่าช้าง บางกล่ำ สงขลา โดยในใบสั่ง เป็นรูปรถยนต์ยี่ห้อ รุ่นรถ สีรถ และทะเบียนตรงกัน แต่บริเวณกระจังหน้าไม่เหมือนกับรถยนต์ของเธอ ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เคยขับถรถไปในพื้นที่ดังกล่าว ก่อนเข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.หัวหิน

กระทั่งปีนี้ รถยนต์ครบกำหนดต่อทะเบียนเสียภาษี วันที่ 26 กันยายน 2561 จึงได้ไปติดต่อไปที่สำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นผู้จดทะเบียนรถยนต์คันนี้ โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่ารถยนต์หมายเลขทะเบียน กจ 3431 เพชรบุรี ได้มีการมาต่อทะเบียนเสียภาษีประจำปีไปแล้ว เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2561 ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน สาขาแม่สะเรียง โดยเจ้าหน้าที่แจ้งว่า จะต้องนำเอกสารเล่มทะเบียนรถยนต์มายืนยันต่อเจ้าหน้าที่ เพื่อตรวจสอบตามขั้นตอน ซึ่งนางสาวกรรณิการณ์ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากเพิ่งนำรถยนต์ไปเข้าไฟแนนซ์ได้ 2 เดือน หากจะนำเล่มทะเบียนรถออกมา ทางบริษัทไฟแนนซ์แจ้งว่า จะต้องนำเงินมาชำระให้เต็มจำนวน ไม่สามารถนำเล่มออกมาได้ไม่ว่ากรณีใดก็ตาม ซึ่งตอนนี้เธอยังไม่สามารถหาเงินจำนวนหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นบาทมาคืนได้

นางสาวกรรณิการณ์ เผยอีกว่า ตอนนี้ก็รู้สึกเครียดมาก เนื่องจากรถขาดต่อทะเบียนเสียภาษีประจำปี ถือเป็นการกระทำผิดกฎหมายจราจร ทำให้ไม่กล้าใช้รถไปไหน รวมทั้งเกรงว่าหากมีคนนำรถยนต์ที่เลขทะเบียนตรงกับรถของตนไปกระทำผิดกฎหมาย ก่ออาชญากรรม หรือขนยาเสพติด ตนจะเดือดร้อนไปด้วย ตอนนี้ไม่รู้จะทำอย่างไร อยากวิงวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบรถยนต์อีกคันหนึ่งที่ได้มีการนำไปต่อทะเบียน อาจจะเป็นการคลาดเคลื่อนในขั้นตอนการคีย์ข้อมูลหรือไม่ หรือมีขบวนการสวมป้ายทะเบียนเพื่อนำรถไปทำผิดกฎหมาย จึงขอความเห็นใจอยากให้เจ้าหน้าที่หาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็ว