สถานการณ์น้ำท่วม จ.ลำปาง
ที่ อ.เกาะคา จ.ลำปาง ได้เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ หลังจากน้ำจากลำห้วยแม่ตานน้อยได้เอ่อล้นไหลท่วมบ้านเรือนราษฎร บ้านม้ากลาง ม.13 ต.ลำปางหลวง อ.เกาะคา มีบ้านเรือนของชาวบ้านได้รับความเสียหาย ประมาณ 60 หลัง ขณะที่พบว่า ชาวบ้านบางรายที่อาศัยอยู่ริมตลิ่ง ต่างเร่งขนย้ายทรัพย์สินที่อยู่ชั้นล่างของตัวบ้าน ขึ้นไปเก็บไว้ชั้นบน ล่าสุดสถานการณ์น้ำยังทรงตัว หลังพบว่า สาเหตุที่ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากครั้งนี้มาจากฝนที่ตกหนัก
ส่วนในพื้นที่ บริเวณบ้านสบจาง ม.6 ต.วังพร้าว อ.เกาะคา ตลิ่งลำน้ำแม่จางได้ทรุดตัว และเป็นเหตุให้ที่ดินของชาวบ้านและพืชผลการเกษตรของชาวบ้านเสียหาย ท่อส่งน้ำประปาหมู่บ้านแม่หลง ม.1 ต.วังพร้าว อ.เกาะคา ถูกน้ำแม่จางพัดเสียหาย
ล่าสุดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้วและจะได้สำรวจความเสียหาย เพื่อให้ความช่วยเหลือ ต่อไป
สถานการณ์น้ำท่วม จ.ขอนแก่น
สถานการณ์น้ำในเขตพื้นที่ อ.เมืองขอนแก่น บริเวณบ้านบึงอีเฒ่า ม.5 ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น มวลน้ำได้ไหลเข้าในหมู่บ้านเมื่อเวลา 20.00 น. ของคืนวันที่ 17 ต.ค. 60 ชาวบ้านได้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และนำรถยนต์ไปจอดริมถนนหรือที่สูง โดยมวลน้ำจากลำน้ำพองได้ไหลทะลักเข้าท่วมพื้นที่นาข้าวของชาวบ้านบึงท่าแก และบึงอีเฒ่าทั้ง 2 หมู่ ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 60 และเมื่อวานนี้ (18 ต.ค. 60) น้ำได้เข้าหมู่บ้านอย่างรวดเร็ว จนชาวบ้านตั้งตัวไม่ทัน ทำให้บ้านของชาวบ้านบางหลังท่วมสูงถึง 80 เซนติเมตร
ขณะที่ทหารจากมณฑลทหรบกที่ 23 ค่ายศรีพัชรินทร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ชลประทานขอนแก่น ได้นำท่อนไม้ยูคาลิปตัสมาทำเป็นตาราง ก่อนที่จะนำไปหย่อนลงในใตสะพานข้ามลำห้วยใหญ่ บ้านนาเพียง ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เพื่อทำเป็นแนวก่อนที่จะหย่อนถุงบิ๊กแบ็กที่บรรจุทรายลงไปใต้สะพาน เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าลำห้วยใหญ่ ซึ่งการทำงานเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากมีกระแสน้ำที่แรงและท่อนไม้หายาก ขณะนี้ยังพบว่าปริมาณที่ไหลเข้าที่ลำห้วยใหญ่ยังมีปริมาณมาก แม้ว่าก่อนหน้านี้จะใช้วิธีการใช้นักประดาน้ำปิดบานประตูระบายน้ำ แต่ปริมาณน้ำที่มากยังคงล้นบานประตูเข้าสู่ลำห้วยใหญ่ ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งวางถุงบิ๊กแบ็กตลอดทั้งวัน และเฝ้าระวังในชุดประตูระบายตลอด 24 ชั่วโมง
สถานการณ์น้ำท่วม จ.เพชรบูรณ์
แม่น้ำป่าสักที่ อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ เริ่มเอ่อล้นตลิ่ง ไหลเข้าท่วม 11 ชุมชนที่อยู่ในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก และ 11 หมู่บ้านในเขตเทศบาล ต.ตาลเดี่ยว อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์
เนื่องจากเมื่อวานนี้ได้เกิดน้ำป่าที่ไหลมาจากเทือกเขาต่างๆ ของ อ.ด่านซ้าย จ.เลย ไหลบ่าเข้าท่วม 11 หมู่บ้านใน 5 ตำบล ของ อ.หล่มเก่า และไหลลงมาสมทบกับน้ำในแม่น้ำป่าสักที่กำลังมีปริมาณสูง ส่งผลให้แม่น้ำป่าสักที่ อ.หล่มสัก มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และได้เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมย่านเศรษฐกิจ ทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเดือดร้อนจากการถูกน้ำท่วมกว่า 1,500 หลังคาเรือน โดยชาวบ้านได้ช่วยกันระดมนำกระสอบทรายมาปิดกั้นที่หน้าประตูบ้าน และเก็บข้าวของหนีน้ำกันอย่างโกลาหล
สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครสวรรค์
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครสวรรค์ ออกแจ้งเตือนประชาชนเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง น้ำไหลหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำเจ้าพระยา และน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ โดยแม่น้ำเจ้าพระยามีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงสิ้นเดือนนี้ คาดปริมาณน้ำอาจเพิ่มอีกมากกว่า 50 เซนติเมตร
ขณะที่เจ้าหน้าที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.นครสวรรค์ เผยว่า จากการติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ พบว่า ในช่วงนี้ปัจจัยเสี่ยงจะมีปริมาณฝน ทำให้สถานการณ์น้ำในหลายพื้นที่อยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังและวิกฤตแล้ว โดยเฉพาะบริเวณแม่น้ำที่มีปริมาณน้ำจากทางตอนบนไหลเข้ามาสมทบ หรือมีฝนตกในพื้นที่รับน้ำบริเวณลุ่มน้ำ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง น้ำไหลหลากในพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำ และน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงวันนี้ถึง 31 ต.ค. โดยให้ประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และพร้อมอพยพไปยังพื้นที่ปลอดภัย
สถานการณ์น้ำท่วม จ.ชัยนาท
จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ใน อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ผ่านมา 11 วันที่บ้านเรือนประชาชนต้องถูกน้ำท่วมจำนวนกว่า 2,700 หลังคาเรือน ชาวบ้านต้องขนของอพยพขึ้นมาอาศัยกิน-นอนอยู่บนถนนกว่า 500 ครัวเรือน มีพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายกว่า 16,000 ไร่นั้น
นอกจากประชาชนจำนวนกว่า 7,000 คนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้แล้ว ชาวบ้านบอกว่า ยังมีพืชสวนครัวต่างๆที่ต้องแช่น้ำมาถึง 11 วัน ทำให้พืชหลายชนิดมีอาการเหี่ยวเฉา ใบเหลืองไหม้ ซึ่งเป็นสัญญาณว่ากำลังจะตาย ซึ่งชาวบ้านเองก็ทำได้แต่เพียงนั่งดูด้วยความรันทดใจเพราะไม่รู้จะช่วยได้อย่างไร เพราะชาวบ้านเอง ปัจจุบันก็กินอยู่กันอย่างลำบาก ได้เพียงแค่ภาวนาให้น้ำลดลงเร็วๆ ก่อนที่ต้นไม้จะตายหมด
สถานการณ์น้ำท่วม จ.อุทัยธานี
พื้นที่บ้านเกาะสวรรค์ หมู่ 6 ต.เกาะเทโพ อ.เมือง จ.อุทัยธานี หลังจากชาวบ้านเกาะสวรรค์แจ้งมาว่า ฝนที่ตกหนักติดต่อกันมา 2 วัน ส่งผลให้น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาไหลเข้าท่วมถนนในหมู่บ้าน โดยหน้าวัดเกาะสวรรค์ น้ำได้ท่วมทางระยะทางยาวกว่า 300 กม. ทำให้รถที่ผ่านนั้นต้องระวังระดับน้ำสูงประมาณ 40 เซนติเมตร
ส่วนบ้านเรือนนั้น น้ำได้เข้าท่วมมาเป็นเวลา 2 สัปดาห์แล้ว ทำให้ชาวบ้านเกาะสวรรค์ต้องอยู่กับน้ำจำนวน 79 หลังคาเรือน รวมวัดเกาะสวรรค์ซึ่งเป็นพื้นที่ค่อนข้างต่ำใน ต.เกาะเทโพ น้ำก็เข้าท่วม จนพระภิกษุสงฆ์ หากจะออกจากวัด ต้องใช้เรือพายออกมา
ส่วนความช่วยเหลือในตอนนี้ ชาวบ้านวัดเกาะสวรรค์ได้ช่วยกันตั้งโรงครัวเพื่อประกอบอาหารไว้แจกจ่ายกับชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมแล้วหุงหาอาหารลำบากไว้ที่เขื่อนระบายน้ำ เสด็จพระพาสต้น ร.5 ซึ่งเป็นเขื่อนไว้ระบายน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาออก ชาวบ้านบางส่วนยังย้ายสิ่งของนำมาไว้ที่นี่อีกด้วย
สถานการณ์น้ำท่วม จ.ปทุมธานี
ขณะที่ชุมชนร่วมจิตต์มุสลิม ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี ที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากเมื่อวานตอนกลางคืนระดับน้ำได้สูงขึ้นเร็ว ทำให้ของที่ใช้ไม้เทินไว้จมน้ำ ชาวบ้านหวั่นว่าวันนี้จะสูงขึ้นอีก โดยระดับน้ำสูงตั้งแต่ 30- 60 ซม.
จากการสอบถามนางย๊ะ ใจทรัพย์ อยู่บ้านเลขที่ 39/1 ต.บางปรอก อ.เมือง จ.ปทุมธานี กล่าวว่า น้ำได้ท่วมบ้านมาหลายวันแล้ว และช่วง 1 ทุ่มไปแล้ว จะขึ้นอีกประมาณ 30-40 เซนติเมตร ที่บ้านมีแต่ผู้สูงอายุ เด็ก และคนพิการ ตนก็แย่เพราะสายตาไม่ค่อยจะดี กลัวจะเดินตกทางเดินไม้ที่ทำไว้ในบ้าน ไม่มีหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ ต้องไปรื้อไม้ที่อยู่ริมระเบียงมาทำทางเดินในบ้านช่วงน้ำท่วม วอนหน่วยงานรัฐเข้ามาช่วยเหลือด้วย