อบจ.สงขลา สั่งเพิ่มถังดับเพลิง หลังไฟไหม้ จยย. บนแพขนานยนต์ข้ามฟาก

ผอ.กองกิจการขนส่ง อบจ.สงขลา เข้มงวด ! สั่งติดตั้งถังดับเพลิงเพิ่มบนแพขนานยนต์ข้ามฝากทะเลสาบสงขลา หลังเกิดเหตุไฟไหม้รถจักรยานยนต์เสียหาย 1 คัน ขณะแพเตรียมจอดเทียบท่า

จากกรณีเกิดเหตุไฟไหม้รถจักรยานยนต์คันหนึ่ง บนแพขนานยนต์ข้ามฟากทะเลสาบสงขลา เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้า วันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมา ขณะบรรทุกรถจักรยานยนต์เกือบ 20 คัน ข้ามฟากระหว่างฝั่ง อ.เมืองสงขลา กับฝั่ง อ.สิงหนคร แต่โชคดีเป็นช่วงที่แพกำลังเทียบท่า ทำให้รถจักรยานยนต์อีกหลายคันที่มาด้วยกันพากันขี่ขึ้นมาบนฝั่งได้ทันไม่มีผู้บาดเจ็บ แต่ขณะไฟกำลังลุกไหม้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปดับไฟได้ เนื่องจากถังดับเพลิงติดตั้งอยู่ตรงจุดเกิดเหตุพอดี ต้องรอให้แพขนานยนต์อีกลำเดินทางมาถึงจึงสามารถนำถังดับเพลิงจากแพอีกลำขึ้นไปฉีดดับไฟเอาไว้ได้

ล่าสุดวันนี้ (17 ต.ค. 61) นายชัยวัฒน์ ชูเกิด ผู้อำนวยการกองกิจการขนส่ง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับแพขนานยนต์ ได้เดินทางไปตรวจสภาพความเสียหายแพขนานยนต์ อบจ.11 ลำเกิดเหตุ หลังจากเคลื่อนย้ายแพจากฝั่งสิงหนครเข้ามาจอด ท่าที่ 2

โดยคนขับแพและเจ้าหน้าที่ประจำแพอีก 2 คน เล่าว่า วันเกิดเหตุเมื่อแพมาถึงฝังกำลังจะเทียบท่า พบว่ารถจักรยานยนต์คันที่เกิดไฟไหม้ มีน้ำมันรั่วออกมา เจ้าหน้าที่แพจึงแจ้งให้เจ้าของรถทราบ จากนั้นเมื่อแพใกล้เทียบท่ารถทุกคันได้สตาร์ทเครื่องเตรียมขึ้นฝั่ง แต่รถจักรยานยนต์คันที่น้ำมันรั่วเจ้าหน้าที่ได้เตือนว่า ค่อยสตาร์ทให้ขึ้นไปบนถนนก่อนเพราะอาจเกิดอันตรายได้ แต่เจ้าของรถไม่เชื่อฟังสตาร์ทรถเลยขณะที่รถยังอยู่บนแพ ทำให้ไฟลุกไหม้ขึ้นทันทีอย่างรวดเร็ว แต่โชคดีที่แพเทียบฝั่งพอดีทำให้รถจักรยานยนต์คันอื่น ๆ สามารถขี่ขึ้นฝั่งได้ทัน อีกทั้งบริเวณที่เกิดเหตุอยู่หน้าห้องเก็บของที่มีถังดับเพลิงติดตั้งอยู่ภายใน 2 ถัง เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถฝ่าไฟที่ลุกไหม้อย่างรุนแรงเข้าไปได้ จึงต้องใช้ถังดับเพลิงจากแพอีกลำหนึ่งมาช่วยดับไฟ

ด้านความเสียหายของแพขนานยนต์ อบจ.11 บริเวณประตูหน้าห้องเก็บของและที่พื้นที่ถูกไฟไหม้จากน้ำมันเบนซิล ส่วนบริเวณใต้พื้นที่ติดตั้งสายยางสูบน้ำได้รับความเสียหายจากความร้อน ขณะนี้ได้ให้ช่างมาตรวจเช็คสภาพแพอย่างละเอียดแล้ว และช่วงนี้ต้องให้แพขนานยนต์ อบจ.11 หยุดให้บริการชั่วคราว จนกว่าจะทำการตรวจเช็คและซ่อมแซมส่วนที่เสียหายให้พร้อมใช้งานได้ตามปกติก่อน

นายชัยวัฒน์ ชูเกิด ผู้อำนวยการกองกิจการขนส่ง องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ที่มีดูแลรับผิดชอบเกี่ยวกับแพขนานยนต์ กล่าวว่า แพทุกลำของ อบจ.สงขลา มีมาตรฐานในด้านความปลอดภัย โดยเฉพาะลำ 11 ที่เกิดเหตุ ยืนยันว่ามีถังดับเพลิงอยู่ภายในห้องเก็บ 2 ถัง แต่เหตุที่ไม่สามารถเข้าไปเอาถังดับเพลิงทั้งสองใบเพราะว่า ไฟที่ลุกไหม้จักรยานยนต์ เกิดขึ้นที่บริเวณประตูทางเข้าห้องเก็บของที่ถังดับเพลิงวางอยู่ ทำให้ไม่สามารถเข้าไปเอาถังดับเพลิงได้ เจ้าหน้าที่แพจึงต้องวิทยุประสานแพลำ 1 ที่กำลังจะเข้าเทียบท่าให้นำถังดับเพลิงมาทำการดับไฟ

อย่างไรก็ตาม องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาต้องขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และจะเข้มงวดเรื่องอุปกรณ์ความปลอดภัยให้มากขึ้น เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ที่ใช้บริการ ขณะนี้ได้สั่งการให้มีการติดตั้งถังดับเพลิงเพิ่มขึ้นแล้วในจุดที่สามารถหยิบใช้งานได้สะดวกทั้งภายนอกและภายในแพ ขนานยนต์ทุกลำ หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้นก็จะสามารถหยิบใช้ได้ทันที ส่วนความเสียหายครั้งนี้ มีรถจักรยานยนต์ 1 คัน มูลค่าประมาณ 30,000 บาท