คนงานในโรงงานเสื้อผ้าที่ผลิตสินค้าของยูนิโคล่ประท้วง เหตุแบรนด์เสื้อผ้าจากญี่ปุ่นไม่จ่ายค่าแรงคนงานกว่าสองพันคนหลังเลิกจ้างโรงงานเป็นแหล่งผลิต
โรงงานแห่งหนึ่งในเมืองชิคูปา บนทางตะวันตกของเกาะชวา ประเทศอินโดนีเซียปิดตัวลงหลังยูนิโคล่เลิกจ้างผลิตเสื้อผ้าโดยอ้างปัญหาคุณภาพและส่งสินค้าไม่ตรงเวลา เป็นเหตุให้คนงานกว่า 2,000 คนไม่ได้รับค่าแรงที่ติดค้างไว้เป็นจำนวนรวมกันแล้วกว่า 5.5 ล้านดอลลาร์หรือประมาณ 180 ล้านบาท
วาร์นี เลนา นาปิปูลู หนึ่งในคนงานกล่าวว่าที่ทำงานของเธอแย่ลงเรื่อย ๆ ตั้งแต่ยูนิโคลเข้ามาจ้างโรงงานผลิตเสื้อผ้าในปี 2012 จากที่ปกติต้องทำงาน 7.00 – 16.00 น. ก็ต้องทำงานเกินเวลาจนบางครั้งล่วงไปถึง 22.00 น. แม้จะทำงานมากเท่าไรก็ได้รับค่าจ้างเพิ่มเพียงประมาณ 15 บาทเท่านั้น
องค์การ Clean Clothes Campaign (CCC) ยังเปิดเผยว่า เทดี เซนาดี ปูตรา แรงงานอีกคนหนึ่งถึงขนาดเดินทางไปยังโตเกียวเพื่อขอพบตัวแทนยูนิโคล แต่บริษัทไม่ส่งใครมาและยังนัดให้พบกนในจาการ์ตาเดือนถัดไป
ด้านนายจอห์นสัน เหยียน นักสิทธิแรงงานของ CCC กล่าวว่าถึงยูนิโคลไม่ใช่ผู้ว่าจ้างคนงานเหล่านี้โดยตรงแต่ก็ยังต้องรับผิดชอบ เนื่องจากสัญญาของยูนิโคลที่ทำกับโรงงานส่งผลลบต่อสุขภาพคนงาน และการตัดสินใจในการทำสัญญากับโรงงานนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ส่งผลให้โรงงานต้องปิดตัวลงในที่สุด โดยยูนิโคลเข้ามามีส่วนในการกำกับรูปแบบการทำงานในโรงงานและเรียกร้องให้นายจ้างกดดันคนงานผ่านเป้าหมายการทำงานที่สูงและการทำงานล่วงเวลาเกินความสมเหตุสมผล เขากล่าวว่า “ยูนิโคลไม่ได้ทำหน้าที่ตนเองในการปกป้องสิทธิของคนงานตามสมควร มีการเลกจ้างไม่เป้นธรรม และการบงคับทำงานล่วงเวลาโดยไม่มีค่าตอบแทนตามสมควร ไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่ควรกระทำก่อนเลิกจ้างโรงงาน”
บริษัท Fast Retail ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของยูนิโคลตอบโต้การประท้วงด้วยการอ้างว่าความผิดทางกฎหมายควรตกอยู่กับนายจาบา การ์มินโดซึ่งเป็นเจ้าของโรงงาน และรับปากว่าจะช่วยลูกจ้างที่ถูกลอยแพหางานใหม่ในโรงงานใกล้เคียง