ยืดเวลาอีก 1 เดือน “ฟลอร่าพาร์ค-ฟ้าประทาน” โต้แย้งสิทธิ์ครอบครองที่ดินวังน้ำเขียว

ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา อ้าง พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง ขยายเวลาให้ผู้ครอบครองที่ดินฟลอร่า พาร์ค และ ฟ้าประทานฟาร์ม อีก 1 เดือน เพื่อรวบรวมเอกสารและหลักฐานโต้แย้งสิทธิ์ครอบครองที่ดินวังน้ำเขียว ซึ่งหากยังไม่ทันภายในกำหนดจะเข้ายึดพื้นที่คืนทันที

จากกรณีตรวจสอบการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.ของเอกชน 2 ราย ทั้งผู้ครอบครองที่ดินฟลอร่า พาร์ค ริมถนนสายวังน้ำเขียว-เขาแผงม้า ตำบลวังน้ำเขียว อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา เนื้อที่กว่า 100 ไร่ และผู้ถือถือครองที่ดินฟ้าประทานฟาร์ม เนื้อที่กว่า 270 ไร่ เปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ด้านการเกษตรแต่ยังไม่ได้ออกเอกสารสิทธิ์ 4-01 ซึ่งตัวแทนบริษัทเอกชนได้ขอขยายเวลาการโต้แย้งสิทธิ์ครอบครองที่ดินออกไปอีก 1 เดือน จนถึงต้นเดือน ธ.ค.61

นายสุรชัย ยุทธชนะ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก.โคราช) เปิดเผยว่า นางลักขณา นะวิโรจน์ รองประธานกรรมการบริหารอาวุโส บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ยื่นหนังสือขอผ่อนผันการเข้าชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก.ในการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.วังน้ำเขียว ฟ้าประทานฟาร์ม และฟลอร่า พาร์ค รวม 2 แปลง เนื้อที่เกือบ 400 ไร่

ทั้งนี้ ฝ่ายกฎหมายของ ส.ป.ก.ได้พิจารณาเหตุผลของฟลอร่าพาร์ค และ ฟ้าประทานฟาร์ม ซึ่งให้เหตุผลว่า เจ้าของผู้ถือครองที่ดินของทั้ง 2 แห่งติดภารกิจสำคัญ และอยู่ระหว่างรวบรวมเอกสารและหลักฐานยังไม่ครบ ทาง ส.ป.ก.ก็พิจารณาแล้วว่า ผู้ถือครองที่ดินทั้ง 2 แห่ง สามารถขอยืดระยะเวลาโต้แย้งสิทธิ์ได้ ตาม พ.ร.บ.วิธีปฏิบัติราชการทางการปกครอง โดยมีระยะเวลาในกรอบ 1 เดือน คือตั้งแต่วันที่ 5 พ.ย. –  5 ธ.ค.2561

ดังนั้นในวันที่ 6 ธ.ค.61 ผู้ถือครองที่ดินทั้ง 2 แห่ง ต้องนำเอกสารและหลักฐานมาโต้แย้งสิทธิ์ทันที ถ้าไม่มาก็ถือว่ายอมรับถึงการถือครองที่ดิน ส.ป.ก.โดยมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่ง ส.ป.ก.ก็ต้องทำการยึดที่ดินคืนกลับมาได้ทันที

สำหรับ ฟลอร่า พาร์ค เนื้อที่ 103 ไร่ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งชมความงามดอกไม้นานาชนิด และศูนย์เรียนรู้เทพประทาน เนื้อที่ 180 ไร่ ซึ่งทั้งสองแห่งตั้งอยู่ในเขตอำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา ถูกชาวบ้านในพื้นที่ร้องเรียนต่อนายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ว่ามีกลุ่มทุนและข้าราชการระดับสูงในกระทรวงครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.ในอำเภอวังน้ำเขียว โดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย