สรุปดราม่าเดือด! อ.ปวิน- เฌอปราง BNK48 – พรรคอนาคตใหม่

สรุปเหตุการณ์ที่กำลังร้อนแรงที่เกี่ยวพัน ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ อาจารย์จากมหาวิทยาลัยเกียวโต เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันจาก BNK48 และพรรคอนาคตใหม่
มีที่มาที่ไปอย่างไร นี่คือบทสรุปทั้งหมด 14 ข้อ
1) ปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการที่วิจารณ์แนวคิดของทหาร ตั้งแต่ยุคก่อน คสช. จะทำการรัฐประหาร และเป็นนักวิชาการกลุ่มแรกๆ ที่โดนคสช. เรียกตัวไปปรับทัศนคติ

2) แต่ปวินไม่ยอมไป จึงถูกออกหมายจับ และถูกยกเลิกพาสปอร์ตประเทศไทย ทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอย่างผู้ลี้ภัยทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ปวินสามารถใช้ชีวิตที่ญี่ปุ่น และเดินทางไปทั่วโลกได้ เนื่องจากเขามีพาสปอร์ตญี่ปุ่นกับตัว โดยปวิน ยังมีจุดยืนทางการเมืองเช่นเดิม คืออยู่ตรงข้ามรัฐบาลทหาร และ คสช.

3) 4 กันยายน รัฐบาลเชิญนักแสดงหลายคนเข้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อรับมอบประกาศนียบัตร แสดงความขอบคุณในการช่วยเหลือจัดรายการ “เดินหน้าประเทศไทย” หนึ่งในนั้นคือ เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันของวง BNK48
เฌอปรางให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบว่า ส่วนหนึ่งบอกว่า “รู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เข้ามาร่วมในโครงการนี้ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชนทราบถึงโครงการของภาครัฐ ส่วนตัวแล้วรู้สึกดีใจ ที่จะได้ช่วยเหลือผู้อื่นอีกทางหนึ่ง”

4) 15 กันยายน รายการ เดินหน้าประเทศไทยตอนพิเศษ ออนแอร์ โดยมีเฌอปรางเป็นแขกรับเชิญพิเศษ พูดถึงความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา และโครงการ ติวฟรี.com ที่นักเรียนที่อยู่ห่างไกลความเจริญ จะสามารถเรียนรู้วิชาต่างๆได้ฟรีๆ ผ่านทางออนไลน์

5) ปวิน โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กของตัวเอง กล่าวถึงเฌอปรางกับกรณีตอบรับคำเชื้อเชิญของคสช. ไปร่วมจัดรายการเดินหน้าประเทศไทยว่า “กรณีคนรุ่นใหม่อย่างเฌอปราง ที่ขายความสดใส น่ารัก เสียงเพลงอย่างเดียว แต่พอมาถึงเรื่องหลักการประชาธิปไตย ความถูกต้องในสังคม นาง Ignorant มากๆ”

“จะไม่มีใครสนห่าอะไรทั้งสิ้น ถ้าน้องเฌอร้องเพลงหาแดกไปวันๆ ไม่ต้องไปยุ่งการเมือง แต่นี่ตัวเองกลายเป็นส่วนหนึ่งของผงซักฟอกเผด็จการ แต่กลับบอกว่าไม่ยุ่งการเมือง โถ อีตอแหล”

“ถามแบบซีเรียส ประยุทธ์บอกเฌอว่า ขอให้สร้างไทยไปด้วยกัน อันนี้งง คุณน้องเฌอเป็นใคร ที่จะทำหน้าที่พิเศษช่วยสร้างไทย มีคุณสมบัติพิเศษใด ทำไมเราต้องฝากชีวิตไว้กับเผด็จการ และนักร้องเด็ก ทำไมคุณน้องเฌอ ถึงได้ License ให้มาทำหน้าที่ตรงนี้ และหน้าที่ของเธอคืออะไร ร้องเพลงเชียร์อย่างเดียว หรือช่วยหาเสียงให้เผด็จการด้วย อะไรยังไงคะ”

6) เรื่องเหมือนจะเงียบ แต่ผ่านไป 1 เดือนเศษ 31 ตุลาคม เฌอปราง ไปให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ Timeout.com เล่าเรื่องชีวิตในการทำงาน และความรับผิดชอบที่เพิ่มมากขึ้น ในวันที่มีชื่อเสียงมากขึ้น เธอเล่าให้ฟังว่า ในปัจจุบันเธอต้องเรียนหนังสือ ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ต้องฝึกซ้อมกับวง BNK48 ต้องออกงานต่างๆ นอกจากนั้นยังต้องอัพเดทความเคลื่อนไหวให้แฟนๆรู้ตลอด

“คือแค่เฌอหายไปประมาณครึ่งวัน ไม่อัพเดทอะไร แฟนๆก็เริ่มมาและ รู้สึกว่าเขาเป็นเหมือนพ่อแม่ของเฌออีกคน ที่เฌอต้องแคร์เขา”

7) ผู้สัมภาษณ์ในเว็บไซต์ Timeout ถามต่อว่า “เป็นเฌอปรางมันเหนื่อยเนาะ”
เฌอปรางตอบกลับไปว่า “จริงๆเฌอก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันต้องการมีชีวิตส่วนตัวอะไรหรอก แค่เขาไม่บนเวลาเฌอหายไป เฌอก็แฮปปี้มากแล้ว เพราะจริงๆ ถ้าเกิดเฌอหายไป คือนอนอยู่ ไม่ก็นั่งเล่นโทรศัพท์ นั่งดูยูทูบ ฟังเพลง ส่วนการ์ตูนนี่ก็แทบไม่ได้ดูแล้ว เพราะไม่มีเวลาจะดู แต่เริ่มดู Netflix เพื่อการแสดงเลยนะคะ”

Timeout พาดหัวบทสัมภาษณ์นี้ว่า “เป็นเฌอปรางมันเหนื่อย: คุยกับกัปตัน BNK48 ในวันที่เธอเติบโตกลายเป็นไอดอลอันดับหนึ่งของประเทศ”

8) เฌอปรางแชร์บทสัมภาษณ์ของ Timeout ใน FB ของตัวเอง จากนั้น ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเข้ามาคอมเมนต์ โดยแท็กปวินเข้ามา แล้วพิมพ์ว่า “Pavin Chachavalpongpun เค้าบอกว่า เป็นเค้ามันเหนื่อย นะครับ”
ปวิน ตอบกลับไปว่า “เหนื่อยก็นอนเล่นอยู่บ้านสิค่ะ ดัดจริต”

9) จากนั้น ปวิน ได้โจมตีเฌอปรางต่อ โดยโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว มีใจความว่า
“ลำไยอีเฌอปรางมาก บ่นว่าเหนื่อยนี่นั่น โทษนะคะ ทำงานอะไรไม่เหนื่อย? คนทำงานก่อสร้างไม่เหนื่อยหรอ? เป็นกะหรี่ก็เหนื่อยเพราะต้องรับลูกค้าหื่นร้อยพ่อพันแม่ เป็นนักวิชาการก็เหนื่อย เพราะต้องเดินทาง แต่งตัวสวยๆ โพสต์รูปลง IG อาชีพอะไรก็เหนื่อยทั้งนั้น เพราะมันต้องเอาแรงงานแลกเงิน ถ้าไม่อยากเหนื่อย ก็นั่งตะไบเล็กอยู่บ้าน ดัดจริตฉิบหายค่ะ”

10) การโจมตีเฌอปราง สร้างความไม่พอใจให้กับแฟนๆ วง BNK48 โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็นแฟนคลับของเฌอปรางโดยตรง และปวินได้โพสต์ข้อความอีกครั้งว่า
“โอตะด่าดิชั้น ว่าอิจฉาเด็ก คอยแต่จ้องจะวิจารณ์ เออ กลายเป็นว่า รากฐานของการวิจารณ์มาจากความอิจฉา งั้นดิชั้นวิจารณ์นายก ก็เพราะดิชั้นอิจฉาเผด็จการ ดิชั้นวิจารณ์ทรัมป์ เพราะดิชั้นอิจฉาทรงผมทรัมป์ ดิชั้นวิจารณ์อีทองแดง เพราะดิชั้นอิจฉาหมา อาชีพนักวิชาการ ต้องเป็นคนขี้อิจฉาถึงทำได้ … ดิชั้นไม่จำเป็นต้องอิจฉาเฌอปราง เพราะดิชั้นหน้าตาดีกว่า ร้องเพลงเพราะกว่า เต้นดีกว่า และดิชั้นยังมีสิ่งที่นังเฌอปรางไม่มี — หมายจับ!”

11) ประเด็นระหว่างปวิน กับเฌอปราง มาเชื่อมโยงกับพรรคอนาคตใหม่ โดยที่ ปวินมีความชื่นชอบ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคเป็นการส่วนตัว และเคยโพสต์ภาพ หนังสือชื่อ “ปักธงอนาคต” ที่เล่าชีวประวัติของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในเฟซบุ๊กของตัวเองด้วย

12) ในอินเตอร์เน็ตมีการหยิบยกความสัมพันธ์ระหว่าง ปวิน กับ พรรคอนาคตใหม่เข้ามา เริ่มตั้งคำถามถึงพรรคมากขึ้น และเริ่มแสดงตัวว่าอาจไม่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ที่จะมาถึง

13) คริส โปตระนันทน์ หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ข้อความ แสดงความชัดเจนว่า ปวิน ไม่ใช่หนึ่งในกรรมการพรรค เป็นเพียงแค่แฟนคลับของพรรคเท่านั้น
“เห็นๆข่าวปวินออกมาแสดงความไม่มีวุฒิภาวะ ต่อ แคปเฌอ และโอตะทั้งหลาย
จริงๆปวินไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพรรคของเรานะครับ (แกเป็นแฟนคลับเราเฉยๆ ซึ่งเราก็ขอบคุณมาก แต่รอบนี้ผมในฐานะผู้ก่อตั้งพรรค แกล้ำเส้นไปมากจริงๆ)”

ตามด้วยโพสต์ต่อในคอมเมนต์ว่า
“ที่อ.ล้ำเส้นเพราะว่า อ.มีทัศนะ “เหยียดมนุษย์” ครับ

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีกลุ่มการเมืองหนึ่งด่าอีกกลุ่มการเมืองหนึ่ง ว่า “โง่” “เป็นฐานเสียงไร้คุณภาพ” และเป็นสาเหตุของวิกฤตการเมืองไทยมาสิบกว่าปีแล้ว ผมไม่แน่ใจว่า ทำไมวันนี้อาจารย์ปวินถึงทำแบบเดียวกับที่กลุ่มการเมืองนั้นเคยทำ

อาจารย์เหยียดโอตะในหลายโอกาส แต่ก็ไม่ชัดเท่าครั้งนี้โดยอ.ปวินอ้างว่า “ธนาธรคงไม่แคร์ฐานเสียงไร้คุณภาพ” มีการดูถูกในเชิงสติปัญญา และ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ เช่นคำว่า “โง่” ซึ่ง แสดงให้เห็นว่า อ.เชื่อว่า มีคนบางกลุ่มฉลาดกว่าคนบางกลุ่ม ซึ่งเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคุณค่าประการแรกที่พรรค อนาคตใหม่เชื่อ นั่นคือ คนเท่ากัน”

14) นั่นทำให้ อ.ปวิน ออกมาตอบโต้ทางเฟซบุ๊ก ว่า
“ดิชั้นไม่เคยอ้างว่าเป็นสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ เพียงแต่เอ็นดูพรรคและธนาธร เลยสนับสนุนเต็มที่ แต่เมื่อดิชั้นประกาศศึกกับนักร้องเด็กที่ช่วยเผด็จการ แล้วโอตะเอาดิชั้นไปเกี่ยวโยงกับอนาคตใหม่ คุณรู้ไหมคะ สมาชิกพรรคคนหนึ่งรีบออกมาผลักไสดิชั้น แถมด่าดิชั้นว่าไม่มีวุฒิภาวะ เพราะหวังคะแนนเสียงจากโอตะ แม้ว่าโอตะกลุ่มนี้จะให้ท้ายนักร้องเด็กที่สนับสนุนเผด็จการ คุณคิดว่าจุดยืนของพรรคอนาคตใหม่เป็นอย่างไร เสียแรงสนับสนุนมาก
…ถ้าจะผลักไสดิชั้น ดิชั้นก็พร้อมจะทิ้งอนาคตใหม่นะคะ ไม่ใช่ทิ้ง แต่จะเริ่มวิจารณ์อย่างจริงจังเสียที หมดฮันนิมูนพีเรียดแล้วค่ะ”

สำหรับความขัดแย้งของ อ.ปวิน ในกรณีเฌอปราง จะมีผลอะไรต่อความนิยมและฐานเสียงของพรรคอนาคตใหม่ ในการเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงหรือไม่ ก็จำเป็นต้องมาติดตามดูกันต่อไป

สำหรับในประเด็นนี้ อ.ปวิน ยังคงอัพเดทความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดที่เฟซบุ๊กส่วนตัว
ในขณะที่ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ เฌอปราง อารีย์กุล กัปตันวง BNK48 ยังคงไม่ออกมาแสดงความเห็นแต่อย่างใด