ผู้เชียวชาญจากหน่วยงานสืบสวนอุบัติเหตุทางอากาศเผยผลการสอบสวนเบื้องต้น ชี้สาเหตุที่เฮลิคอปเตอร์ของ “เจ้าสัววิชัย” ตก มาจากเครื่องบินไม่ตอบสนองต่อคำสั่งนักบิน
วันที่ 14 พ.ย. 61 สื่อต่างประเทศรายงานว่า หน่วยงานสืบสวนอุบัติเหตุทางอากาศในเมืองฟาร์นโบโรห์ ทางใต้ของอังกฤษ เปิดเผยหนึ่งในสาเหตุ ที่ส่งผลให้เฮลิคอปเตอร์ “เจ้าสัววิชัย” ตก จนทำให้เจ้าสัววิชัยและคณะเสียชีวิตรวม 5 ราย เมื่อวันที่ 27 ต.ค. 61 ที่ผ่านมาว่า หนึ่งในสาเหตุของการตกมาจากการที่ “อากาศลำดังกล่าวไม่ตอบสนองต่อคำสั่งนักบิน”
โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า “ภาพวิดีโอที่ใช้กันอย่างแพร่หลายภายในสนามแสดงให้เห็นว่า AgustaWestland AW169 กำลังปีนขึ้นไปตามปกติเป็นเวลาประมาณ 40 วินาที โดยเฮลิคอปเตอร์เริ่มเลี้ยวขวา ซึ่งตรงกันข้ามกับคำสั่งของของนักบินที่บังคับเครื่องไปทางซ้าย จนเครื่องบินไม่สามารถเคลื่อนที่ไปต่อได้ และดิ่งลงกระแทกกับพื้น”
ทาง AAIB ระบุว่าเครื่องตกลงมาจากระดับความสูง 430 ฟุต หรือ 121.9 เมตร ซึ่งในขณะนั้นเฮลิคอปเตอร์อยู่ในลักษณะที่ส่วนลำตัวเครื่องตั้งตรง โดยหลังเกิดเหตุซากเฮลิคอปเตอร์ได้ถูกนำไปตรวจสอบยังที่ทำการของ AAIB ในเมืองฟาร์นโบโรห์ มณฑลแฮมเชียร์ ซึ่งการสอบสวนก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า ผู้ประสบเหตุครั้งนี้มีโอกาสรอดชีวิตอยู่ใน “ระดับต่ำ”
ตามรายงานของ AAIB ระบุด้วยว่า ในวันเกิดเหตุ (27 ต.ค. 61) เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ออกเดินทางจากท่าอากาศยานแฟร์โอ๊กส์ ในมณฑลเซอร์รีย์ของอังกฤษโดยมีนักบิน 1 คน และผู้โดยสาร 1 คนบนเครื่อง และได้ลงจอดที่ท่าจอดเฮลิคอปเตอร์ ลอนดอนเฮลิพอร์ต ในย่านแบตเตอร์ซีของกรุงลอนดอน โดยมีผู้โดยสารขึ้นมาอีก 3 คน แล้วนักบินนำเครื่องมุ่งหน้าสู่สนามฝึกซ้อม Belvoir Drive Training Ground ของสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ จากนั้นผู้โดยสารทั้งหมดได้เดินไปที่สนามคิงเพาเวอร์สเตเดียม
ต่อมาทางนักบินและผู้โดยสาร 1 คนได้กลับไปที่สนามฝึกซ้อมแล้วนำเครื่องกลับไปที่สนามคิงเพาเวอร์สเตเดียม โดยในเที่ยวบินดังกล่าวเตรียมออกเดินทางจากเมืองเลสเตอร์ มุ่งหน้าสู่ท่าอากาศยานสตานสเต็ดชานกรุงลอนดอน โดยมีคนบนเครื่อง 5 คน คือ นายวิชัย ศรีวัฒนประภา พร้อมทีมงานคือ น.ส.นุสรา สุขหน้าไม้ และนายกวีพร พรรณแพร รวมทั้งนักบิน 2 คน คือ นายเอริก สวอฟเฟอร์ นักบิน และ น.ส.อิสซาเบลลา โรซา เลโควิช