‘คมนาคม’ เตรียมเคาะค่าโดยสารรถร่วม ขสมก. 15 ธ.ค.นี้

รมว.คมนาคม เห็นใจรถร่วมบริการ รับปากพิจารณาข้อเสนอขึ้นค่าโดยสาร เตรียมเคาะราคาที่เหมาะสม 15 ธ.ค.นี้ ชี้อนาคตรถทุกคันต้องเข้าสู่ระบบ e-ticket 

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 61 เวลา 09.00 น. นางภัทราวดี กล่อมจรูญ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารประจำทาง พร้อมด้วยนายวิทยา เปรมจิตร์ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมบริการ นำทีมผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก. กว่า 100 คน เดินทางมาที่กระทรวงคมนาคม เพื่อขอทราบความคืบหน้าการปรับอัตราค่าโดยสารรถร่วม ขสมก. โดยเสนอปรับรถธรรมดาจาก 9 บาท เป็น 12 บาทตลอดสาย รถปรับอากาศจาก 13 บาทเป็น 15 บาทและเพิ่มระยะละ 2 บาท ส่วนรถใหม่อัตรา 20 บาท 4 กม. แรก ต่อไป 25 บาท (25บาทตลอดสาย) หลังเคยเข้าพบและยื่นหนังสือต่อ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมมาแล้ว แต่จนปัจจุบันก็ยังไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

นางภัทราวดี กล่าวว่า การยื่นขอปรับขึ้นค่าโดยสารไม่ได้เพิ่งมาเรียกร้อง เรียกร้องกันมาตั้งแต่ 10 ก.พ. 58 แต่ไม่ได้รับการพิจารณา โดนกระทรวงคมนาคมขอศึกษาต้นทุนของค่าโดยสารก่อนว่าอัตรามันควรจะเป็นเท่าไร ผ่านไป 4 ปี แล้วยังไม่ได้ข้อสรุป ทางผู้ประกอบการต้องแบกรับการขาดทุนมาตลอด สภาพรถจึงไม่ดีเท่าที่ควร ผู้ประกอบการยินดีที่จะปรับเปลี่ยนรถใหม่ในอัตรา 20 บาทตลอดเส้นทาง และอัตรา 40 บาทขึ้นได้ทั้งวัน สำหรับรถปรับอากาศ ยินดีที่จะปรับ แต่ขณะนี้แบกรับต้นทุนไม่ไหว และรถได้หยุดวิ่งไปกว่า 2,000 คันแล้ว

ด้านนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากการประชุมก็เห็นใจผู้ประกอบการรถร่วม ขสมก. ที่จะต้องแบกรับภาระต้นทุน ทั้งราคาเชื้อเพลิง NGV ที่สูงขึ้น ค่าแรงของภาคเอกชนรวมถึงค่าซ่อมบำรุงรถต่างๆ ซึ่งก็ได้พูดคุยกันในเรื่องนโยบายที่รัฐบาลมุ่งหวังและทางผู้ประกอบการก็เห็นร่วมกันในเรื่องการปรับคุณภาพของการให้บริการ ในส่วนของรถเก่าจะต้องรับไปพิจารณาว่ามีเงื่อนไขในการปรับปรุงอย่างไรได้บ้างรวมถึงการหารถใหม่มาแทน และหลังจากนี้รถร่วมทั้งหมดจะเข้าสู่ระบบ e-ticket ให้สะดวกมากขึ้นมีการปรับปรุงตัวรถให้มีมาตรฐาน และมีกฎมารยาทของพนักงานด้วย ในส่วนของข้อเสนอในการปรับขึ้นอัตราค่าโดยสาร กรมการขนส่งทางบกจะรับข้อเสนอนี้ไปพิจารณาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ธ.ค. 61 ซึ่งต้องดูข้อมูลประกอบและเคาะอัตราราคาที่เหมาะสม โดยทางคณะกรรมการของกรมการขนส่งทางบกจะมีการหารือกันอีกครั้ง

ขณะที่นายวิทยา เปรมจิตร์ นายกสมาคมพัฒนารถร่วมบริการ กล่าวว่า พึงพอใจในส่วนของแผนรถร่วมบริการใหม่ ที่ผ่านมาผู้ประกอบการไม่มีในเรื่องต้นทุนในการปรับเปลี่ยน ถ้าหากได้รับการอนุมัติแล้ว เชื่อว่าภายใน 1 ปี ประขาชนจะได้รับบริการที่ดีกว่าเดิมแน่นอน