ชนระทึก! รถบรรทุกเสียหลัก พุ่งชนเก๋ง-กระบะพังยับ ดับ 1 เจ็บระนาว

รถบรรทุกชลประทาน เสียหลักพุ่งชนเก๋งและกระบะ 3 คันซ้อน บริเวณบ้านหนองพริก  อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เป็นเหตุให้หญิงวัย 64 ปี นั่งกลับจากช่วยงานศพพร้อมครอบครัว ถูกอัดก๊อปปี้ดับคาที่ บาดเจ็บอีก 4 ราย

วันที่ 21 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา พ.ต.ท.เทพ บวชกระโทก รองผู้กำกับการสอบสวน สภ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเกิดเหตุรถบรรทุกสิบล้อพุ่งชนรถเก๋งและรถกระบะ 3 คันซ้อน มีผู้บาดเจ็บหลายรายและติดภายในรถ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร พร้อมหน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ประจำจุดอำเภอนางรอง และกู้ชีพ อบต.นางรอง นำอุปกรณ์ตัดถ่างรุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นถนนสายนางรอง-ลำปลายมาศ ช่วงบริเวณบ้านหนองพริก ต.นางรอง อ.นางรอง พบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า วีออส สีดำ หมายเลขทะเบียน กจ 6976 บุรีรัมย์ ตกอยู่ข้างทาง สภาพพังเสียหายยับ พบผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ 4 ราย เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งช่วยกันลำเลียงนำส่งโรงพยาบาลนางรองเพื่อให้แพทย์ช่วยชีวิต แต่นางรำเพียร โสใส อายุ 64 ปี ซึ่งนั่งอยู่เบาะหลังทนพิษบาดแผลไม่ไหวเนื่องจากถูกอัดกระแทกอย่างแรง ทำให้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการสอบถามทราบว่า รถเก๋งคันดังกล่าวเพิ่งออกมาจากไปช่วยงานศพ เหลืออีกไม่กี่กิโลเมตรก็จะถึงบ้านแล้ว แต่มาเกิดเหตุดังกล่าวก่อน โดยใกล้กันยังพบรถยนต์กระบะยี่ห้อนิสสัน บิ๊กเอ็ม สีแดง หมายเลขทะเบียน บท-4588 บุรีรัมย์ สภาพด้านหน้าพังเสียหาย มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย กู้ภัยจึงได้นำตัวส่ง รพ.นางรอง จากอุบัติเหตุครั้งนี้ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 4 ราย

ห่างกันประมาณ 100 เมตร พบรถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่สีขาว หมายเลขทะเบียน 83-4695 บุรีรัมย์ มีตราสัญลักษณ์ข้างประตูเขียนว่า “กรมชลประทาน” มีนายทูล ทองใจ อายุ 50 ปี เป็นคนขับรถบรรทุกคันดังกล่าว จากสอบถาม นายทองทูล เล่าว่า ตนเองเป็นลูกจ้างชั่วคราวของสำนักงานชลประทาน จ.บุรีรัมย์ ก่อนเกิดเหตุได้ขับรถออกมาจากตัวเมืองบุรีรัมย์ จะมุ่งหน้าเข้าตัวอำเภอนางรอง แต่พอถึงที่เกิดเหตุ รถได้เกิดเสียหลักพุ่งชนรถเก๋ง และรถกระบะรวม 3 คันซ้อน โดยไม่ทราบสาเหตุจนทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบสวนผู้ประสบเหตุทั้งสองฝ่าย และพยานแวดล้อมที่เห็นเหตุการณ์อย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุที่แท้จริงต่อไป