‘โรงแรมเชียงใหม่’ แห่ขายกิจการ หวังเก็งกำไร ยันไม่เกี่ยวนักท่องเที่ยวจีนลด

อดีต ปธ.สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่ ชี้ชัดกระแสแห่ประกาศขายโรงแรมทั้งเมือง ไม่ใช่เพราะนักท่องเที่ยวจีนลด แต่เป็นเพราะเจ้าของหวังขายฟันกำไรจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้น และไม่มีความชำนาญในธุรกิจ

วันที่ 27 พ.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีกระแสข่าวว่าผู้ประกอบการ หรือเจ้าของโรงแรมที่พักใน จ.เชียงใหม่ ต่างพากันแห่ประกาศขายธุรกิจโรงแรมกันอย่างไม่ขาดสาย เนื่องจากการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะจากการที่จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงนั้น นายพรชัย จิตรนวเสถียร กรรมการพัฒนาการท่องเที่ยวเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนา และอดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ รวมทั้งเจ้าของธุรกิจโรงแรมใน จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า กระแสข่าวดังกล่าวน่าจะมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงพอสมควร โดยยอมรับว่าปัจจุบันจำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ อาจจะลดจำนวนลงเนื่องจากนักท่องเที่ยวจีนในลักษณะของกลุ่มทัวร์ที่ลดลง แต่เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้น และที่จริงไม่ได้ส่งผลกระทบรุนแรงถึงขั้นทำให้โรงแรมที่พักต้องปิดและขายกิจการ

ทั้งนี้ นายพรชัย ระบุว่า จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าโรงแรมหรือที่พักที่มีการประกาศขายส่วนใหญ่เป็นโรงแรมที่พักขนาดเล็ก ที่มีการพัฒนาที่ดินหรือปรับปรุงบ้านพักเดิมที่อยู่ในตัวเมืองเป็นโรงแรมที่พักขึ้นใหม่เป็นจำนวนมาก ทั้งที่ผู้ประกอบการจำนวนหนึ่งอาจจะไม่ได้มีความเชี่ยวชาญหรือไม่มีประสบการณ์ในธุรกิจนี้มาก่อน แต่เป็นไปตามกระแสการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วจากการที่นักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประกอบกับปัจจุบันเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า จ.เชียงใหม่ จะมีโครงการพัฒนาต่างๆ ทั้งท่าอากาศยานเชียงใหม่แห่งที่ 2 หรือ รถไฟความเร็วสูง เป็นต้น

โดยปัจจัยที่แท้จริงที่ทำให้มีการประกาศขายโรงแรมที่พักต่างๆ เหล่านั้น มาจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ ราคาที่ดินและอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าตัว ซึ่งเมื่อประกอบกับการที่ผู้ประกอบการไม่ได้มีความชำนาญในการทำธุรกิจโรงแรมอยู่แล้ว แม้ว่าธุรกิจจะยังคงสามารถทำกำไรได้ แต่เมื่อพิจารณาจากการที่สามารถขายทำกำไรได้มากกว่าที่ลงทุนไปหลายเท่าตัวและได้เงินมาเก็บไว้หรือนำไปลงทุนในธุรกิจอื่นที่ทำกำไรได้มากกว่า จึงเลือกที่จะประกาศขายมากกว่าที่จะทำธุรกิจต่อไป ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งมาจากข้อบังคับและหลักเกณฑ์ตามกฎหมายเกี่ยวกับใบอนุญาตโรงแรมที่ต้องปฏิบัติ ซึ่งผู้ประกอบการจำนวนมากคิดว่าเป็นเรื่องง่าย แต่เมื่อประกอบกิจการแล้วพบว่าไม่ง่ายอย่างที่คิด จึงตัดสินใจขาย

อดีตประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ รวมทั้งเจ้าของธุรกิจโรงแรมใน จ.เชียงใหม่ ระบุด้วยว่า นักท่องเที่ยวชาวจีนที่เข้ามาท่องเที่ยวใน จ.เชียงใหม่ แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าพักตามลำพัง (F.I.T ย่อจาก Free Individual Traveler) และนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่ม รวมไปถึงกรุ๊ปทัวร์ต่างๆ โดยปัจจุบันนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ลดลงเป็นในส่วนของกลุ่มทัวร์ ซึ่งโรงแรมที่พักที่ได้รับผลกระทบจะเป็นโรงแรมตั้งแต่ขนาดกลางขึ้นไป แต่ไม่ปรากฏว่ามีการประกาศขายกิจการแต่อย่างใด ส่วนโรงแรมที่พักขนาดเล็ก ที่มีลูกค้าเป็นกลุ่ม F.I.T ที่ไม่ได้ลดลง กลับมีการประกาศขาย ซึ่งน่าจะเป็นข้อสังเกตต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้นได้ว่าเหตุปัจจัยที่แท้จริงเป็นอย่างไร