SHARE

คัดลอกแล้ว

สนช. มีมติ 149เสียง แก้ ป.วิอาญา ให้ศาลยกฟ้องคดีที่จำเลยหนีคดี เป็นโจทก์ยื่นฟ้องอาญาเอาผิดคนอื่น ชี้หากไม่เคารพกระบวนการยุติธรรม ก็ย่อมไม่ได้รับความคุ้มครองจากกระบวนการยุติธรรมเช่นกัน

วันที่ 4 ธ.ค.2561 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ซึ่งมีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ทำหน้าที่ประธานพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา จำนวน 5 มาตรา ในวาระ 2 และ 3 ตามที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ที่มีนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ เป็นประธาน โดยมีสมาชิก สนช. เข้าร่วมประชุมทั้งหมด 152 คน จากสมาชิกที่มี 240 คน ลงมติเห็นด้วย 149 เสียง งดออกเสียง 3  ซึ่งถือว่าเป็นการให้ความเห็นชอบกับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่….) พ.ศ….  ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญ (กมธ.) พิจารณาแล้วเสร็จ โดยสารสำคัญของร่างกฎหมาย  คือ การตัดสิทธิ์บุคคลที่ปฏิเสธอำนาจศาล ที่ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลในคดีอาญาซึ่งถึงที่สุด เช่น บุคคลที่หลบหนีการจำคุกตามคำพิพากษาของศาล ห้ามใช้สิทธิ์ฟ้องคดีอาญาใดๆ ได้อีก

ส่วนเนื้อหาที่น่าสนใจ มาตรา 4 ซึ่งเพิ่มเติมวรรคสามของมาตรา 117 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ 22) พ.ศ.2547  ให้อำนาจเจ้าพนักงานศาลสามารถจับผู้ต้องหาหรือจำเลยที่ศาลสั่ปล่อยตัวชั่วคราว กรณีที่มีเหตุจำเป็นโดยไม่ต้องรอตำรวจหรือพนักงานฝ่ายปกครองดำเนินการ ซึ่งปรับเนื้อหาให้ทันกับการใช้เทคโนโลยีติดตามตัวผู้ที่ถูกศาลสั่งปล่อยตัวชั่วคราว

ภาพประกอบ

และมาตรา 5 การห้ามประชาชนเป็นโจทก์ฟ้องคดีผู้อื่นโดยไม่สุจริตหรือเพื่อกลั่นแกล้งกันนั้น กรรมาธิการฯ ชี้แจงต่อที่ประชุมว่า หากโจทก์ฟ้องคดีโดยไม่สุจริตมีการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อกลั่นแกล้งเอาเปรียบจำเลย ศาลมีอำนาจยกฟ้องหรือไม่รับฟ้องได้ และห้ามโจทก์ยื่นฟ้องคดีในเรื่องเดียวกันอีก ซึ่งจะครอบคลุมถึงกรณีผู้ปฏิเสธคำสั่ง คำพิพากษาศาลในคดีที่ถึงที่สุดแล้ว โดยปราศจากเหตุผลอันสมควร เช่น ศาลตัดสินลงโทษจำคุกหรือปรับแต่จำเลยไม่ปฏิบัติตาม เช่น หลบหนี บุคคลผู้นั้นจะถูกตัดสิทธิ์ไม่ให้ฟ้องคดีอาญาต่อศาลได้อีก เพราะกฎหมายไม่ควรให้สิทธิ์ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษา แต่การตัดสิทธิ์การฟ้องคดีอาญาไม่รวมถึงกรณีที่มีการไปดำเนินคดีผ่านช่องทางตำรวจและอัยการ

 

 

 

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า