โรงพยาบาลแจงดูแลแม่เสียลูกคาท้องตามขั้นตอน แต่เกิดเหตุสุดวิสัย

ผู้อำนวยการยกทีมยืนยันดูแลแม่ที่เสียลูกในท้องก่อนคลอดตามขั้นตอนแล้ว แต่เป็นเหตุสุดวิสัย ส่วนกรณีพยาบาลที่เข้าเวรนอน ไม่ยอมลุกมาดูอาการรับจะตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง

กรณี น.ส.ปริชาติ บัวทอง อายุ 41 ปี และนายวิเชียร ปานดาทอง อายุ 34 ปี ร้องเรียนว่าตั้งท้องมา 9 เดือน อีกไม่กี่ชั่วโมงจะได้เห็นหน้าลูกชาย สุดท้ายกลับได้รับแจ้งว่าลูกที่ตั้งชื่อไว้ว่า ด.ช.อภิวัฒน์ ถูกรกพันคอเสียชีวิตในท้องแม่ โดยแพทย์บอกว่าเป็นเหตุสุดวิสัย แต่ทางครอบครัวมองว่าพยาบาลที่เข้าเวรไม่สนใจแม้จะแจ้งว่าเจ็บท้องก็ได้คำตอบว่าให้ทนเอา โดยระหว่างนั้นพยาบาลที่ดูแลนอนตอบไม่ได้ลุกมาดู จนมาตรวจอีกครั้งพบว่าเด็กหยุดหายใจแล้ว

วันนี้ (6 ธ.ค.) นายแพทย์ประเสริฐ ฉัตรวิชชานนท์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปากท่อ อำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี พร้อมด้วยรองผู้อำนวยการและหัวหน้าพยาบาลชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ดูแลคนไข้ตั้งแต่ 28 พ.ย.ตามมาตรฐานโดยต้องรอให้ปากมดลูกเปิด มีการตรวจสอบชีพจรทารก และตรวจสัญญาณชีพของแม่ ทุก 1 ชม. เป็นระยะตลอดทั้งคืน แต่ตอน 05.00 น. วันใหม่ชีพจรทารกแปรปรวนได้พยายามแก้ไขแล้ว การไม่ได้นำผู้ป่วยส่งต่อโรงพยาบาลราชบุรี เพราะปรึกษาหมอทางสูตินรีแพทย์ที่โรงพยาบาลราชบุรี แล้วให้ความเห็นว่าคนไข้สามารถคลอดปกติได้

ส่วนประเด็นที่ทางผู้เสียหายติดใจในเรื่องของการให้บริการของเจ้าหน้าที่พยาบาล ได้ประชุมและตรวจดูบันทึกแล้วมีการตรวจตามขั้นตอน อย่างไรก็ตามกรณีที่พยาบาลนอนโต้ตอบกับคนไข้จะเร่งตรวจสอบอีกครั้ง แต่ว่าโดยแนวทางในการปฏิบัติเราปฏิบัติตามมาตรฐานอยู่แล้ว ทั้งนี้ กรณีข้อวิจารณ์การให้บริการของเจ้าหน้าทางโรงพยาบาลรับไว้และจะนำไปปรับปรุงในระบบ ซึ่งที่ผ่านมาโรงพยาบาลปากท่อได้พยายามปรับปรุงระบบมาโดยตลอด ต้องยอมรับว่าด้วยปริมาณบุคลากรค่อนข้างจะน้อยเมื่อเทียบกับผู้มาขอรับบริการ และบางครั้งไม่สามารถให้บริการได้รวดเร็วทันใจมากนัก เราก็พยายามแก้ไขให้ดีขึ้น

ด้าน น.ส.ปริชาติ และนายวิเชียร เดินทางไปยื่นคำร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดราชบุรี เพื่อขอให้ช่วยเป็นหน่วยงานกลางในการประสานและให้ความเป็นธรรมจากเหตุกรณ์ที่เกิดขึ้น เพราะทางครอบครัวสูญเสียลูกชายไปแล้ว จากการให้บริการของเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ไม่เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ จนทำให้ลูกชายต้องเสียชีวิตภายในครรภ์

วันเดียวกัน นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดราชบุรี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับผู้สื่อข่าวว่า ได้ให้ทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลปากท่อ สอบสวนข้อเท็จจริงและทำรายงานกลับมา และส่งเจ้าหน้าที่อีกชุดเข้าไปติดตามข้อเท็จจริงอีกด้าน พร้อมกันนี้ตนเองจะเดินทางไปเยี่ยมครอบครัวผู้เสียหายอีกครั้ง โดยได้สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ทุกรายต้องยึดการบริการที่ได้มาตรฐาน โดยเฉพาะจรรยาบรรณในวิชาชีพ ถ้าผิดก็ว่าไปตามผิด แต่ถ้าถูกก็ต้องให้ความเป็นธรรมของเจ้าหน้าที่

สำหรับการเยียวยาผู้เสียหายที่ใช้สิทธิ์บัตรทอง กรณีผู้รับบริการได้รับความเสียหายจากการเข้ารับบริการ ตามมาตรา 41 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ.2545 เกณฑ์การพิจารณาเงินช่วยเหลือ (1) เสียชีวิตหรือทุพพลภาพอย่างถาวร ตั้งแต่ 240,000 ไม่เกิน 400,000 บาท (2) สูญเสียอวัยวะหรือพิการ ตั้งแต่ 100,000 ไม่เกิน 240,000 บาท (3) บาดเจ็บหรือเจ็บป่วยต่อเนื่อง ไม่เกิน 100,000 บาท ในเรื่องนี้ตนจะนำเข้าคณะกรรมการเพื่อตรวจสิทธิ์อีกครั้งและพร้อมที่จะดูแลต่อไป