“สุริยะ” เสนอ 4 รัฐมนตรีไม่ต้องลาออก หวั่นกระทบเศรษฐกิจไทย

“สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ขอ 4 รัฐมนตรีสมาชิกพรรคพลังประชารัฐอยู่ในตำแหน่งต่อจนถึงเลือกตั้งเสร็จ ชี้เป็นประโยชน์มากกว่าลาออกช่วยให้เศรษฐกิจไทยไม่ชะงัก ยันตอนพรรคอื่นก็ทำกันแบบนี้

วันที่ 11 ธ.ค. นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสานพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าว 4 รัฐมนตรีสมาชิกของพรรคประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม หัวหน้าพรรค, นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รองหัวหน้าพรรค, นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เลขาธิการพรรค และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โฆษกพรรค อาจจะเปลี่ยนใจไม่ลาออกจนกว่าจะถึงการเลือกตั้งว่า

สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ สมศักดิ์ เทพสุทิน

เป็นข้อเรียกร้องที่มีมานานและตนเคยชี้แจงแล้วว่าในอดีตรัฐมนตรีที่อยู่ในช่วงเลือกตั้งก็ไม่มีคนใดลาออกจากตำแหน่ง และทำงานต่อเนื่องไปจนสิ้นสุดการเลือกตั้ง อีกทั้งเห็นว่าการที่ 4 รัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ ยังอยู่ในตำแหน่งจะเป็นประโยชน์มากกว่าการลาออก เนื่องจากมีความจำเป็นต้องแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง หากลาออกจะทำให้งานสะดุดลงเกิดความชะงักงันทางเศรษฐกิจ

ส่วนประเด็นกล่าวหาว่าเป็นการเอาเปรียบพรรคการเมืองอื่นนั้น ตนมองว่าผู้ที่โจมตีก็เป็นคู่แข่งทางการเมืองซึ่งสมัยเป็นรัฐบาลก็ทำเช่นนี้ ทั้งนี้ ส่วนตัวได้พูดคุยกับ 4 รัฐมนตรีแล้วและอยากให้อยู่ต่อ

นายสุริยะ ยังกล่าวถึงแนวคิดการตัดชื่อและโลโก้พรรคการเมืองบัตรเลือกตั้งออกว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ได้รู้เห็นกับ กกต.ในเรื่องนี้ ตรงข้ามพรรคไม่เห็นด้วยกับการตัดชื่อและโลโก้พรรคออก เพราะจากการพูดคุยกับว่าที่ ส.ส. 30 กว่าคน ทั้งส.ส.ภาคเหนือและภาคกลาง เห็นตรงกันว่าต้องใส่ชื่อและโลโก้พรรค เพื่อไม่ใช้ประชาชนเกิดความสับสน พร้อมมั่นใจว่าประชาชนจะไม่เกิดความสับสนจนลงคะแนนผิดให้กับพรรคเดิมของ อดีต ส.ส.ที่ย้ายมาพรรคพลังประชารัฐ เพราะพรรคมีความแข็งแกร่งพอ

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้งพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ปลดล็อกการเมืองว่า ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองทำได้หมด เว้นเรื่องการหาเสียง ดังนั้นจะดำเนินการอะไรต้องระมัดระวัง จึงต้องรอฟังฝ่ายกฎหมายในเรื่องของรายละเอียด  อย่างไรก็ตาม หลังจากปลดล็อกการเมืองแล้ว ถือว่าบรรยากาศดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนการเปิดนโยบายพรรคต้องรอฟังจากทีมกฎหมายอีกครั้ง