ผู้นำของจีนได้กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี ที่รัฐบาลจีนส่งสารถึงไต้หวัน เรียกร้องให้รวมชาติกับจีนแบบสันติและยุติการเผชิญหน้ากันในทุกด้าน แต่ก็เตือนว่า จีนจะไม่ปฏิเสธทางเลือกของการใช้กำลังทางทหาร เพื่อรวมเกาะไต้หวันเข้าเป็นของจีน ถ้ามีความจำเป็น
วันที่ 3 ม.ค. 62 สื่อต่างประเทศรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 ม.ค. 61 ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำของจีนได้กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในโอกาสครบรอบ 40 ปี เพื่อเรียกร้องให้ไต้หวันยอมจำนนและกลับมาเป็นส่วนหนึ่งของจีน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ตอกย้ำถึงการต้องการรวมเกาะไต้หวัน ให้เป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่ว่า เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ พร้อมเตือนหากมีความจำเป็นก็อาจจจะต้องใช้กำลังทางทหารเข้ามาช่วย ผู้นำจีนยังกล่าวอีกว่า แต่จีนจะสงวนทางเลือกของการใช้มาตรการทางทหาร ไว้สำหรับดำเนินการกับกลุ่มกิจกรรมของแนวร่วมที่ต่อต้านนโยบาย “1 ประเทศ 2 ระบบ ” ของประเทศจีน และ จีนจะไม่ยอมให้ “คนนอก” เข้ามาก้าวก่ายอีกด้วย
โดยประธานาธิบดีสี จิ้นผิงกล่าวว่า “ความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างไต้หวันกับจีน มีขึ้นมาอย่างยาวนาน จนทำให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกันมากพอสมควร และเราต่างก็ไม่ต้องการให้มันต้องมีสืบเนื่องต่อไปจนถึงคนรุ่นใหม่ เราทั้ง 2 ชาติ ควรจะร่วมกันรับผิดชอบต่ออนาคตของลูกหลานเรา”
“ด้วยการร่วมกันหาข้อสรุปที่ชัดเจนตรงกัน เพื่อฟื้นฟูสันติภาพอย่างยั่งยืนในช่องแคบไต้หวันและการกลับคืนสู่มาตรภูมิเป็นแผ่นดินเดียวกัน จีนจะขอสงวนทางเลือกของการใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็น แต่ทั้งนี้จะมุ่งเป้าไปที่กองกำลังของคนนอกที่เข้ามาแทรกแซง รวมถึงกลุ่มกิจกรรมที่ต่อต้านการรวมชาติ แต่มันจะไม่พุ่งเป้าไปที่เพื่อนร่วมชาติอย่างไต้หวันอย่างแน่นอน”
ด้านนางไช่ อิงเหวิน ผู้นำหญิงของไต้หวัน ก็ได้ออกมาตอบโต้สุนทรพจน์ของ สี ผู้นำจีน ผ่านการแถลงข่าวเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า ไต้หวันเป็นชาติแห่งเอกราช และอยู่ในระบอบประชาธิปไตย รวมทั้งยังมีวิถีแห่งชาติของตนเอง ไต้หวันจะไม่ยอมรับการรวมชาติกับจีน ภายใต้เงื่อนไข “ 1 ประเทศ 2 ระบบ” ที่รัฐบาลจีนเสนออย่างแน่นอน พร้อมย้ำว่า การเจรจาระหว่างกันทุกครั้ง จะต้องอยู่บนพื้นฐานแบบรัฐต่อรัฐเท่านั้น

นางไช่ อิงเหวิน ผู้นำหญิงของไต้หวัน
โดยนางไช่ อิงเหวิน กล่าวว่า “ฉันต้องการเน้นย้ำว่า ไต้หวันจะไม่ยอมรับ ‘1 ประเทศ 2 ระบบ’ ความเห็นของชาวไต้หวันส่วนใหญ่ต่อต้านระบบนี้ อย่างสิ้นเชิง และ นี่ก็เป็น ‘ฉันทามติของไต้หวัน’ ด้วย จีนควรเคารพการยึดมั่นในเสรีภาพและประชาธิปไตยของชาวไต้หวันทั้ง 23 ล้านคนและต้องใช้วิธีการที่สันติและมีความเสมอภาคในการจัดการกับความแตกต่างของเรา”
ที่ผ่านมารัฐบาลจีนกระทำการยั่วยุหลายอย่าง ที่ฝืนความรู้สึกของการเชื่อมโยงชาวไต้หวันในการรวมชาติกับจีนแผ่นดินใหญ่ เช่น การใช้เงินซื้อประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวัน ให้เปลี่ยนไปคบหาจีนแทน และ การฝึกซ้อมทางทหารใกล้กับเกาะไต้หวันที่มีบ่อยขึ้น
ด้านนักวิเคราะห์บางส่วนระบุว่า แม้สุนทรพจน์ของผู้นำจีนจะแสดงถึงความแข็งกร้าวที่มีต่อพวกที่มีแนวคิดแบ่งแยกดินแดนไต้หวัน และ เพื่อต้องการกระตุ้นให้มีการรวมชาติ แต่วัตถุประสงค์ของสุนทรพจน์นี้ ดูแล้วอาจจะเป็นการสื่อสาร 2 ทาง คือเพื่อมุ่งเป้าให้ประชาชนชาวจีนตะหนักถึงนโยบายแห่งชาติของจีนกับไต้หวัน และ ต้องการส่งสัญญาณไปยังประเทศอื่นๆ ที่กำลังคิดจะเข้ามายุ่งกับกิจการภายในประเทศของจีน