นอกจากการหาเสียงเลือกตั้งจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เพราะเหลืออีกเพียงประมาณ 40 วัน จะถึงวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. 62 สัปดาห์หน้ายังมีคดีที่เกี่ยวกับการเมือง 2 คดีใหญ่ที่ต้องติดตามกัน
วันพุธที่ 13 ก.พ. ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษา คดีที่พนักงานอัยการคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ฟ้องพลตรีจำลอง ศรีเมือง, นายสนธิ ลิ้มทองกุล, นายสมศักดิ์ โกศัยสุข, นายสมเกียรติ พงศ์ไพบูลย์, นายพิภพ ธงไชย และนายสุริยะใส กตะศิลา พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) รวม 6 คน เป็นจำเลยฐานบุกรุกสถานที่ราชการทำให้เสียหาย
สุริยะใส กตะศิลา
กรณีเมื่อวันที่ 25 พ.ค.51 จำเลยได้จัดปราศรัยชักชวนประชาชนกดดันให้นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี ลาออก และได้ปิดล้อมผลักดันรื้อแผงกั้นบุกรุกเข้าไปในสถานที่ราชการ อาทิ ทำเนียบรัฐบาล สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำให้ได้รับความเสียหายรวมมูลค่า 1,766,548 บาท จำเลยให้การปฏิเสธ
สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยคนละ 2 ปี ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาแก้เหลือจำคุกคนละ 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา
คดีนี้เมื่อวันที่ 1 ก.พ. นายสุริยะใส กตะศิลา อดีตผู้ประสานงาน พธม. จำเลยที่ 6 ไม่ได้ไปศาลเนื่องจากป่วย ความดันโลหิตสูง ศาลจึงเลื่อนไปอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา 13 ก.พ.
ส่วนอีกคดี วันพฤหัสบดีที่ 14 ก.พ. พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 4 นัดฟังการสั่งคดีที่พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายวัฒนา เมืองสุข ผู้สมัคร ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย , นายจาตุรนต์ ฉายแสง ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยรักษาชาติ และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย กรณีเมื่อวันที่ 17 พ.ค. 61 ทั้ง 3 ร่วมกันแถลงลงานของ คสช.ในหัวข้อ “4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล และ คสช.นำไปสู่ความมืดมนและอันตราย”
ต่อมาคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ส่ง พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการส่วนกฎหมายของ คสช.แจ้งความร้องทุกข์กล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ฐานยุยงปลุกปั่น คดีนี้พนักงานอัยการนัดฟังคำสั่งครั้งแรกวันที่ 28 พ.ย.61 เเต่ได้ให้เลื่อนวันฟังคำสั่งคดีออกไปก่อน เนื่องจากก่อนหน้านี้กลุ่มผู้ต้องหาได้ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมเข้ามา
พนักงานอัยการได้มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามทำการสอบสวนเพิ่มเติมตามประเด็นที่มีการร้องขอความเป็นธรรม และนัดฟังคำสั่งอีกครั้ง 10 ม.ค. 62 แต่ผลสอบเพิ่มเติมยังไม่ครบถ้วน จึงเลื่อนฟังคำสั่งคดีไปเป็น 14 ก.พ. 62
