กกต. ประชุมยาวยังไม่มีข้อสรุปชี้ชะตาพรรคไทยรักษาชาติ ประธานส่งข้อความยังหารืออยู่ ย้ำถ้าข่าวไม่ได้ออกจากประธานหรือเลขาธิการให้ถือเป็นข่าวไม่จริง หลังลือสะพัดเตรียมส่งให้ศาลรัฐธรรมนุญพิจารณายุบพรรคหรือไม่
วันที่ 12 ก.พ. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีการพิจารณากรณีพรรคไทยรักษาชาติ เสนอพระนาม ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค และมีผู้ร้องว่าเป็นการกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ
ต่อมามีข่าวระบุว่า กกต. มีมติให้ส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญเป็นผู้พิจารณาว่าจะยุบพรรคไทยรักษาชาติหรือไม่ ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 ในหมวด 8 การสิ้นสุดของพรรคการเมือง มาตรา 92 ระบุว่าเมื่อคณะกรรมการมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทําการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ให้ยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น
(๑) กระทําการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขหรือเพื่อให้ได้มาซึ่งอํานาจในการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งมิได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ
(๒) กระทําการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
อย่างไรก็ตามในช่วงเย็น นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ได้ส่งข้อความถึงผู้สื่อข่าวว่า กกต.ยังพิจารณาเรื่องนี้อยู่ และข่าวที่เผยแพร่ออกไป ไม่ได้มาจากการให้ข่าวของประธานและเลขาธิการ กกต. ไม่ถือเป็นข่าวจริง และระบุเพิ่มเติมว่ายังไม่ได้ข้อสรุปในวันนี้ และน่าจะหารือต่อในวันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.)
และประมาณ 19.00 น. มีจดหมายข่าวจาก กกต. ระบุว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อบางฉบับว่า “มติ กกต.สั่งยุบพรรคไทยรักษาชาติ…” นั้น สำนักงาน กกต.ขอเรียนว่า ประเด็นดังกล่าว ยังอยู่ในระหว่างการพิจารณา และเมื่อเสร็จสิ้นการพิจารณาจะแถลงข่าวให้ทราบต่อไป
ส่วนที่พรรคไทยรักษาชาติ วันนี้มีการประชุมกรรมการบริหารพรรค นำโดย ร้อยโทปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรค เพื่อกำหนดท่าทีและเตรียมเดินหน้าการเลือกตั้งต่อ โดยมีรายงานว่า ระหว่างการประชุมมีการติดตามความคืบหน้าของการหารือของ กกต.ไปด้วย
ขณะเดียวกันมีการแจ้งว่า วันพรุ่งนี้ (13 ก.พ.) เวลา 09.00 น. คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคไทยรักษาชาติโดยนาย สุรชัย ชินชัย จะไปยื่นหนังสือถึง กกต. ต่อกรณีที่มีข่าวเผยแพร่ว่า กกต.มีมติส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคไทยรักษาชาติ เพื่อขอโอกาสในการใช้สิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ ชี้แจงแสดงเหตุผลข้อเท็จจริงรวมถึงข้อกฎหมาย และทั้งใช้สิทธิ์ในการอ้างพยานหลักฐานเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหา