จาตุรนต์-ณัฐวุฒิ หยุดหาเสียงช่วย รับห่วงใยมาตั้งแต่ก่อนเหตุ 8 ก.พ.

“จาตุรนต์” และแกนนำรุ่นใหญ่พรรคไทยรักษาชาติ ประกาศหยุดปราศรัยระหว่างกระบวนการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคดียุบพรรค ส่งสัญญาณไม่เห็นด้วยกับกรรมการบริหารพรรคตั้งแต่การกำหนดชื่อแคนดิเดตพรรค แต่เข้าใจในเจตนาบริสุทธิ์ใจและพร้อมช่วยแก้ปัญหาที่เกิดเท่าที่ทำได้ 

วันที่ 14 ก.พ. เวลา 11.20 น. ที่พรรคไทยรักษาชาติ นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรค  นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรค พร้อมแกนนำ เช่น นายพิชัย นริพทะพันธุ์ ประธานคณะทำงานเศรษฐกิจพรรค นายนิคม ไวยรัชพานิช อดีตประธานวุฒิสภา นพ.เหวง โตจิราการ ร่วมกันแถลงข่าวต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

นายจาตุรนต์ กล่าวว่า เมื่อพรรคเผชิญปัญหาสมาชิกและผู้มีหน้าที่ต่างๆ ย่อมต้องมาคิดช่วยกันแก้ปัญหา โดยเราติดตามการเสนอชื่อผู้อยู่ในบัญชีนายกรัฐมนตรีของพรรคด้วยความห่วงใยมาตลอด และเมื่อสถานการณ์ไปจนถึงขั้นที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เสนอต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ยุบพรรค ด้วยข้อหาที่เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยในเรื่องที่เกี่ยวข้องเป็นเรื่องละเอียดอ่อน จึงเห็นว่าควรจะงดกิจกรรมเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาแทรกซ้อน

“จากการพูดคุยกับกรรมการบริหารหลายท่านหลังจากวันที่ 8 ก.พ.  และรับฟังคำชี้แจงต่อสาธารณชนหลายครั้ง ทราบดีว่า มีเจตนาดีและดำเนินการไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ แต่เมื่อเรื่องนี้กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ เราเห็นว่าเพื่อให้การดำเนินการต่างๆ ในขั้นตอนต่อไปนี้เป็นขั้นตอนที่ต้องไปว่ากันที่ศาลรัฐธรรมนูญ  ในส่วนที่พวกเราเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง และการปราศรัยต่อประชาชนจำนวนมากๆ เมื่อคำนึงถึงข้อหาและกระบวนการแล้ว เพื่อจะเป็นประโยชน์เราจะงดกิจกรรมที่จะพบกับประชาชนจำนวนมากๆ เพื่อให้ทุกอย่างไม่มีปัญหาแทรกซ้อน”

ส่วนการดำเนินการในขั้นตอนศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าหากมีช่องทางในการช่วยยืนยันเรื่องเจตนาบริสทุธิ์ใจของกรรมการบริหารพรรค เราก็พร้อมจะช่วยไปช่วย และเต็มใจร่วมแก้ปัญหาของพรรคไปจนถึงที่สุด นายจาตุรนต์ กล่าว

ส่วนผู้สมัครรับเลือกตั้ง การพบปะและการชี้แจงประชาชนเป็นเรื่องปกติธรรมดา เป็นเรื่องที่ทำได้และควรทำแต่จะงดการปราศรัยขนาดใหญ่

ด้าน นายณัฐวุฒิ ใสเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งพรรค กล่าวว่า ผู้สมัคร 100 กว่าเขตยังมีสถานะผู้สมัครรับเลือกตั้ง และยังมีพันธะผูกพันในการทำงานร่วมกับประชาชนซึ่งต้องดำเนินการกันไป แต่คณะกรรมการรณรงค์ที่จะมีการตั้งเวทีปราศรัยใหญ่หรือยกทีมจากส่วนกลางไปจำนวนมาก เราจะยุติการขับเคลื่อน เราอยากให้พรรคมีสมาธิ มีช่วงเวลาในการดำเนินการที่ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้สถานการณ์เดินหน้าไปอย่างมีความชัดเจนก่อน

“ผมเป็นสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ ตอนที่เดินเข้ามาก็กล่าวกับประชาชนและสมาชิกพรรคว่าภารกิจของเราคือเจตนาดีเพื่อบ้านเมือง พาบ้านเมืองกลับสู่ประชาธิปไตยและแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจปากท้องให้กับประชาชน ดังนั้นความรับผิดชอบนี้ยังคงอยู่ จะบทบาทหน้าที่ไหนก็ตาม ผมจะขอยืนหยัดอยู่กับพรรค จนกว่าสถานการณ์จะได้ข้อยุติ ไม่ว่าจะทางที่พรรคเดินหน้าหาเสียงเลือกตั้งได้ หรือเป็นแนวทางอื่นๆ”