ตรวจเข้มรถควันดำ พร้อมสั่งห้ามวิ่ง 30 วัน

กรมควบคุมมลพิษร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร ตรวจสอบตรวจจับรถควันดำต่อเนื่อง และหน่วยงานทุกหน่วยยังดำเนินการเพื่อป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กจนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติ

วันที่ 17 ก.พ.2562 นายประลอง ดำรงค์ไทย อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ(อคพ.) เปิดเผยว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีแนวโน้มที่ดีขึ้นกำลังจะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งหน่วยงานต่างต่างๆยังปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้น ซึ่งเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562 คพ.ร่วมกับกองบังคับการตำรวจจราจร ตรวจสอบตรวจจับรถควันดำตามมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บริเวณถนนประดิษฐ์มนูธรรม เขตลาดพร้าว และถนนวิภาวดีรังสิต เขตดอนเมือง เรียกรถตรวจสอบควันดำรวม 179 คัน ซึ่งเป็นรถขนาดใหญ่ตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ.2522 จำนวน 129 คัน พบรถควันดำเกินมาตรฐาน 19 คัน และรถยนต์ขนาดเล็กตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ.2535 จำนวน 50 คัน ควันดำเกินมาตรฐาน 8 คัน พนักงานเจ้าหน้าที่ได้ออกคำสั่งห้ามใช้ชั่วคราวกับรถที่มีควันดำเกินมาตรฐานเป็นเวลา 30 วัน และยังดำเนินการตรวจสอบตรวจจับรถควันดำไปอย่างต่อเนื่อง

นายประลอง กล่าวว่า และเพื่อสร้างความรู้ความเข้าในในเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2562 สถาบัน วปอ. จัดเสวนาทางวิชาการ “สาเหตุและผลกระทบ PM2.5 ต่อความมั่นคงและสุขภาพของคนไทย ” ผมเองได้เข้าร่วมเป็นวิทยากรอภิปรายร่วมกับอธิบดีกรมอนามัย และอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่ง จัดโดยชมรมศิษย์เก่าหลักสูตรการบริหารจัดการความมั่นคงขั้นสูง (ศมส.) ณ ห้องประชุมวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร เพื่อเผยแพร่สาเหตุและผลกระทบของมลพิษทางอากาศอันเกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ที่มีต่อความมั่นคงด้านสุขภาพของคนไทย

นอกจากนี้ยังเป็นการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการของชมรม ศมส. และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์แก่สังคมโดยการอภิปรายดังกล่าว เป็นการบรรยายให้แก่ผู้บริหาร กรรมการสมาคม วปอ. และนักศึกษาหลักสูตรการบริหารความมั่นคงขั้นสูง ตั้งแต่รุ่น 1 ถึงรุ่นที่ 10 จำนวนกว่า 150 ท่าน และได้มีการหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นพร้อมทั้งการให้ข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลจากผู้เข้าร่วมโครงการสัมมนาฯ

อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า แม้สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กจะคลี่คลายและลดลงในช่วงนี้ ซึ่งนอกจากมลภาวะอากาศที่จะกลับเข้าสู่ฤดูร้อน แต่ด้วยการทำงานในการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็กของส่วนราชการ ทุกภาคส่วนเช่น กทม. บก.จร. สตช. กรมการขนส่ง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กรมฝนหลวง กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงคมนาคม ขสมก. ภาคเอกชนทุกฝ่าย รวมทั้ง 5 จังหวัดปริมณฑล ซึ่งทุกฝ่ายได้ทำงานเพื่อป้องกันและแก้ไขฝุ่นละอองขนาดเล็กในกรุงเทพฯรวมทั้งปริมณฑลอย่างเต็มกำลังความสามารถ จึงเป็นปัจจัยหลักอีกปัจจัยหนึ่ง ที่ส่งผลทำให้ฝุ่นละอองขนาดเล็กลดลง

หน่วยงานทุกหน่วยงานยังต้องดำเนินการอย่างเข้มข้นในทุกวันจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลที่ท่านนายกรัฐมนตรีให้ทุกฝ่ายเร่งรัดและป้องกันอย่างเต็มกำลังความสามารถรวมทั้ง ท่านนายกฯ ได้สั่งการในการประชุมครม.ที่ผ่านมาให้มีการยกระดับ การป้องกันและแก้ไขปัญหา PM 2.5 และ PM 10 ให้เป็นวาระแห่งชาติ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษกล่าวในตอนท้าย