SHARE

คัดลอกแล้ว

น้าชายสาวพริตตี้ท้อง 6 เดือน เหยื่อนวดเท้าช็อกหมดสติแท้งลูก โต้กลับโรงพยาบาลให้คนไข้กลับไปเสียชีวิตที่บ้าน บอกอาการดีขึ้นแล้ว แต่ความจริงหลานสาวยังนอนชักไม่รู้สึกตัว อ้างค่ารักษาเต็มวงเงินประกันสังคม หากอยู่ต่อต้องจ่ายเงินเอง

วันที่ (18 ก.พ. 2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีนางสาววิราวรรณ เกษเกษี อายุ 26 ปี สาวท้อง 6 เดือน ช็อกหมดสติและแท้งลูก จากการเข้าไปใช้บริการนวดเท้าที่ร้านนวดในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งในตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11 ม.ค. 62 และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ แต่อาการไม่ดีขึ้นร่างกายกลับมีสภาพไม่ต่างจากเจ้าหญิงนิทรา

นายชัยวัฒน์ คำยา อายุ 54 ปี น้าของนางวิราวรรณ เปิดเผยว่า ล่าสุดอาการของนางสาววิราวรรณ มีแต่ทรงกับทรุด โดยครอบครัวและญาติยอมรับสภาพว่าร่างกายไม่มีทางกลับมาปกติแบบเดิมได้อย่างแน่นอน เพราะสมองน่าจะตายไปหมดแล้ว ตั้งแต่ตอนที่แท้งลูกและตัวนางสาววิราวรรณต้องปั๊มหัวใจถึง 3 รอบ ให้กลับมาหายใจ เนื่องจากช็อกขาดอากาศไปเลี้ยงสมองเป็นเวลานาน

ขณะเดียวกัน นายชัยวัฒน์ ยังเผยอีกว่า จากการไปเยี่ยมอาการหลานสาวล่าสุด พบว่าเจ้าหน้าที่ที่ดูแลไม่ได้ให้ความใส่ใจดูแลคนป่วยอย่างที่ควรจะเป็น นอกจากนี้ยังพยายามผลักไสให้นำตัวนางสาววิราวรรณกลับไปรักษาตัวที่บ้าน โดยบอกว่าอาการดีขึ้นแล้ว ซึ่งขัดแย้งกับสภาพความเป็นจริงที่นางสาววิราวรรณ ยังนอนชักตลอดเวลา และต้องมัดแขนมัดขาไว้กับเตียง รวมทั้งต้องใช้อุปกรณ์ช่วยหายใจ ซึ่งประเมินแล้วมองว่าหากแม่ของนางสาววิราวรรณต้องนำตัวกลับไปอยู่ที่บ้านเช่าก็เหมือนกับนำตัวหลานสาวกลับไปตายอย่างเดียว อีกทั้งครอบครัวไม่มีกำลังที่จะดูแลอย่างแน่นอน เพราะนางสาววิราวรรณ เป็นคนหาเงินเพียงคนเดียวเพื่อเลี้ยงแม่ที่แก่แล้วและลูกชาย

ทั้งนี้นายชัยวัฒน์ บอกว่า ทางโรงพยาบาลโดยเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลคนหนึ่งบอกด้วยว่า หากต้องการให้นางสาววิราวรรณ พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่อไป ทางญาติจะต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด เนื่องจากวงเงินคุ้มครองการรักษาตามสิทธิประกันสังคมของนางสาววิราวรรณ เต็มวงเงินแล้ว อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจะให้หลานสาวรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลต่อไป เพราะเห็นว่าทางโรงพยาบาลเป็นฝ่ายที่พยายามจะยื้อชีวิตของนางสาววิราวรรณไว้ ด้วยการชักจูงให้แม่เซ็นชื่อยินยอมให้เจาะคอ ทั้งที่ญาติปฏิเสธตั้งแต่แรกและในตอนแรกญาติยอมรับสภาพว่านางสาววิราวรรณต้องเสียชีวิตและจะปล่อยให้จากไปอย่างสงบ ซึ่งเมื่อยื้อชีวิตไว้แล้วก็ควรจะต้องให้การรักษาต่อไปจนถึงที่สุด

ส่วนเงินช่วยเหลือเยียวยาที่มีการมอบให้ นายชัยวัฒน์ บอกว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้นเพิ่งได้รับเงินช่วยเหลือทั้งหมดจำนวน 20,000 บาท เท่านั้น โดยทางหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและคู่กรณีรับปากว่าจะช่วยเหลืออย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตามยังไม่มีความคืบหน้าจากการที่มีการนัดไปพูดคุยเจรจากัน เมื่อวันที่ 7 ก.พ. ที่ผ่านมา ซึ่งในส่วนของค่ารักษาพยาบาลนั้น ในเมื่อทางโรงพยาบาลแจ้งว่าเต็มวงเงินแล้วก็คงจะต้องให้ทางคู่กรณีเป็นฝ่ายรับผิดชอบ โดยที่ยืนยันว่าจะไม่นำตัวหลานสาวออกจากโรงพยาบาล ขณะเดียวกันกำลังพิจารณาและจะปรึกษาผู้รู้ว่าจะสามารถร้องเรียนหรือดำเนินการใดๆ กับทางโรงพยาบาลได้หรือไม่ ที่พยายามจะผลักไสหลานสาวให้กลับไปเสียชีวิตที่บ้าน

podcast

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า