เหมยขาบโผล่! รับฤดูร้อนวันแรก กิ่วแม่ปานอุณหภูมิต่ำสุด 3 องศา

กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อน ขณะที่ยอดดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ อากาศหนาวจัด พบเหมยขาบ หรือ น้ำค้างแข็งทั่วบริเวณที่กิ่วแม่ปาน อุณหภูมิลดลงเหลือ 3 องศา

วันที่ 21 ก.พ. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประกาศของทางกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า ประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่วันที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ เป็นต้นไป และจะสิ้นสุดประมาณกลางเดือนพฤษภาคม 2562 ทั้งนี้ คาดหมายว่า ฤดูร้อนปี 2562 จะมีอากาศร้อนมากกว่าปี 2561 และร้อนมากกว่าปกติ 1-2 องศาเซลเซียส ซึ่งหลายพื้นที่ของภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก จะมีอากาศร้อนจัดอุณหภูมิสูงสุดในตอนกลางวัน 40 องศาเซลเซียสขึ้นไป ในบางช่วงของเดือนมีนาคมและเมษายน อย่างไรก็ตาม อุณหภูมิสูงสุดในปีนี้จะไม่ทำลายสถิติอากาศร้อนที่สุดของประเทศไทย ซึ่งวัดอุณภูมิได้ 44.6 องศาเซลเซียส ที่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2559 โดยคาดว่า จะร้อนที่สุด 7 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก นครสวรรค์ และกาญจนบุรี

อย่างไรก็ตาม หลายพื้นที่ของภาคเหนือก็ยังมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง โดยพื้นราบช่วงเช้าและกลางคืนยังมีอากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิอยู่ที่ 16-19 องศา ขณะที่ยอดดอยสูงยังมีอากาศอยู่ในเกณฑ์หนาวถึงหนาวจัด 6-10 องศาเซลเซียส

ขณะที่เช้าวันนี้ ที่ยอดดอยอินทนนท์ ได้เกิดปรากฏการณ์ของอากาศหนาวจัดอีกครั้ง แม้จะประกาศเข้าสู่ช่วงฤดูรอนในวันแรก โดย นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ เปิดเผยว่า เช้านี้ยอดดอยอินทนนท์ยังมีอากาศหนาวจัดอยู่ที่ 6 องศา ส่วนที่กิ่วแม่ปานพบว่าอุณหภูมิลดลงเหลือเพียง 3 องศา ประกอบกับเช้านี้ไม่มีกระแสลม ความชื้นต่ำ ท้องฟ้าเปิด ทำให้เกิดเหมยขาบหรือน้ำค้างแข็งให้เห็นเป็นบริเวณกว้าง ตามทุ่งหญ้าภายในกิ่วแม่ปาน ซึ่งเป็นที่ตื่นตากับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก

โดย นายกริชสยาม ยังเปิดเผยอีกว่า ที่ดอยอินทนนท์ยังมีอากาศหนาวเย็นต่อเนื่องอุณหภูมิเฉลี่ยยังอยู่ที่ 13-15 องศาเซลเซียส ในส่วนของโซนท่องเที่ยว และที่พักบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อุณหภูมิยามเช้าและกลางคืนยังอยู่ที่ 13-15 องศา ส่วนยอดดอยยังมีอากาศหนาวจัดต่อเนื่อง 5-8 องศา เท่านั้นในช่วงนี้ ทั้งยังเหมาะสำหรับท่องเที่ยวสัมผัสอากาศหนาวความสวยงามของธรรมชาติ และทะเลหมอกที่ยังคงมีให้เห็นต่อเนื่อง

ขอบคุณภาพ : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ – Doi Inthanon National Park