ดีเบตเลือกตั้ง 62 l ฟัง 5 พรรค สร้างเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง

วันที่ 28 ก.พ. 62 ช่องเวิร์คพอยท์ ได้จัดดีเบต ลุยศึกเลือกตั้ง 62 “วิสัยทัศน์ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ และทำให้ประเทศร่ำรวย” ณ ตลาดประมงพื้นบ้านอ่างศิลา จ.ชลบุรี  โดยมี บรรจง ชีวมงคลกานต์ และ รินรดา รวีเลิศ รับหน้าที่พิธีกร

มีตัวแทนจาก 5 พรรคการเมือง ประกอบด้วย นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ , ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ , นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย , นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ หัวหน้าพรรคเศรษฐกิจใหม่

EEC (Eastern Economic Corridor) โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก

โดยแต่ละคน ได้ทยอยแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ EEC (Eastern Economic Corridor) โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ดังนี้

นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า EEC เป็นการกระตุ้นการลงทุนครั้งใหญ่ที่ทำให้ไทยได้ประโยชน์ และยังตอบโจทย์คนในพื้นที่อีกด้วย เป็นการสร้างฐานความเจริญใหม่ สิ่งที่ตามมาก็คือ งานใหม่ๆ และโอกาสใหม่ๆ ของคนในพื้นที่ และถ้าพรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นรัฐบาล ก็จะดำเนินโครงการนี้ต่ออย่างแน่นอน

ส่วน ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า โครงการต่างๆ ใน EEC นั้น หลายโครงการเป็นการสานต่อจากรัฐบาลหลายยุคหลายสมัย โดยภาพรวมแล้ว ตนจึงเห็นว่า EEC เป็นบวกมากกว่าลบ และถ้าประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล หลายโครงการของ EEC ก็จะเดินหน้าต่อ อย่างโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน เป็นต้น

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตอนที่รัฐบาลบอกว่า จะทำเขตเศรษฐกิจชายแดน ตนไม่ค่อยเห็นด้วย แต่ถ้าเป็น EEC คิดว่ามาถูกทาง

สิ่งที่ตนเห็นแย้งกับ ดร.สามารถ ก็คือเรื่องรถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน แต่ควรจะเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดเป็นหลัก ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ก็จะทบทวนโครงการรถไฟเชื่อมต่อ 3 สนามบิน เพื่อปรับรูปแบบให้เหมาะสม

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ECC แยกย่อยได้ 3 ส่วน คือ 1. สาธารณูประโภคขั้นพื้นฐาน เช่น รถไฟความเร็วสูง ท่าเรือ สนามบิน 2. การทำให้บริการภาครัฐ มีความกระฉับกระเฉงมากขึ้น และ 3.การจูงใจการลงทุนจากต่างชาติ เช่น การละเว้นภาษี

ตนเห็นด้วยกับการทำให้บริการภาครัฐกระฉับกระเฉงขึ้น ลดภาระของผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกรรมต่างๆ แต่ที่ไม่เห็นด้วย และคิดว่าต้องทบทวนก็คือ รถไฟความเร็วสูงเชื่อมต่อ 3 สนามบิน เพราะมีการประมูลที่ดินเข้าไปพ่วงด้วย ที่ดิน 150 ไร่ ที่มักกะสัน ดินใหญ่กลางใจเมือง ถูกพ่วงเข้าไปในสัญญานี้ ร่วมถึงที่ดินที่อู่ตะเภา

และตนไม่เห็นด้วยกับการละเว้นภาษีให้กับผู้ที่เข้ามาลงทุน แต่ไอเดียของพรรคอนาคตใหม่ก็คือ ต้องเก็บภาษี แล้วแบ่งภาษีให้ท้องถิ่นโดยตรง ซึ่งถ้าเป็นอุตสาหกรรมที่ทำให้เกิดซัพพลายเชนใหม่ๆ อันนี้อาจละเว้นภาษี แต่ถ้าไม่ใช่ ควรจะเก็บภาษีเท่ากับอุตสาหกรรมอื่นๆ จึงคิดว่าโครงการนี้ควรระงับไว้ก่อน รอ 2 เดือน ให้รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง เข้าไปทบทวนพิจารณา

แนวทางแก้ปัญหา ผลกระทบจากโครงการ EEC ที่เกิดกับประชาชนในพื้นที่

ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นจากโครงการดังกล่าว กับประชาชนในพื้นที่ แต่ละพรรคการเมืองจะมีแนวทางแก้ปัญหาอย่างไรนั้น นายอุตตม สาวนายน กล่าวว่า ต้องมีมาตรการดูแล ต้องเยียวยาให้เหมาะสม อย่างเรื่องผังเมือง พรบ.EEC ก็กำหนดให้มีการศึกษาและวางผังเมืองในทุกพื้นที่

หรือในเรื่องอุตสาหกรรม ต้องยอมรับว่ามันมีของเดิมตั้งอยู่ แต่ที่จะสร้างใหม่ ต้องมีการคุยกันว่าพื้นที่ไหนเหมาะสม และเหมาะกับการทำเกษตร หรือเหมาะกับอุตสาหกรรม

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า ในเรื่องผลกระทบ ไม่ว่าจะฝุ่นควัน ขยะ รถติด คนที่ต้องรับกรรม ก็คือคนในพื้นที่ แต่ผลประโยชน์ไปตกกับกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่มีสำนักงานอยู่ใน กทม. และโรงงานที่อยู่ในภาคตะวันออก กลุ่มทุนต่างชาติที่ย้ายฐานการลงทุนมายังภาคตะวันออก ดังนั้นกลุ่มทุนเหล่านี้ ต้องเสียภาษี แล้วเอาภาษีไปให้ท้องถิ่นบริหารจัดการ

ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องพื้นที่ทำกิน ตนเห็นใจเกษตรกร แต่เวลานี้พื้นที่สีเขียวได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงงาน เพราะมันมีปัญหาเรื่องผังเมือง ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นรัฐบาล จะทบทวนสิ่งต่างๆ เหล่านี้

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า คณะกรรมการ 27 คนของ EEC ไม่มีคนในพื้นที่เลย การตัดสินใจรวมศูนย์มากๆ แล้วกรรมการชุดนี้แหละ ที่ดูเรื่องผังเมือง ตนจึงเห็นด้วยกับคุณธนาธรที่ว่า ต้องมีการกระจายอำนาจลงมา อย่างน้อยต้องมีตัวแทนท้องถิ่นที่แท้จริงอยู่ในคณะกรรมการด้วย

ส่วน นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กล่าวว่า ทำไมไม่ปล่อยให้ระยอง ปลูกทุเรียน ปลูกมังคุด ปลูกผลไม้ เพราะที่นั่นเป็นแหล่งผลไม้ที่ดีที่สุดของประเทศ แต่กลับทำลายพื้นที่การเกษตรและวิถีชีวิตชุมชน คือ ใช้ไม่ถูกอรรถประโยชน์ อย่างพัทยาที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวดังระดับโลก ถ้าวันหนึ่งมีสารเคมีเต็มไปหมด จะทำอย่างไร

การหางบประมาณ มาดำเนินการในโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ

ในเรื่องการหางบประมาณ มาดำเนินการในโครงการขนาดใหญ่ของประเทศนั้น นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ได้กล่าวถึงแนวทางของพรรคเพื่อไทยว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาล ขั้นแรกก็ต้องตัดไขมันออกให้หมด ทำงบประมาณอย่างรอบคอบ สิ่งที่ไม่จำเป็นต้องตัดออกไป อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องสร้างก็คือ เศรษฐกิจรูปแบบใหม่ หาคู่ค้าใหม่ ใช้เทคโนโลยีในการผลิต แทนที่จะผลิตสินค้าเกษตรที่มูลค่าต่ำ ต้องเปลี่ยนเป็นสินค้าเกษตรที่มีมูลค่าสูงขึ้น อย่างเกษตรอินทรีย์ เป็นต้น

ส่วน ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ กล่าวว่า โครงการเมกกะโปรเจค รัฐจะลงทุนเองทั้งหมดไม่ได้ เพราะเม็ดเงินมีจำกัด เราต้องให้เอกชนมาร่วมลงทุน หรือเป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ เช่น รถไฟความเร็วสูง ระหว่างไทยกับจีน

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า ตอนนี้มีโครงการที่อยู่ในบีโอไอ 200 กว่าโครงการที่ละเว้นการเก็บภาษีผู้ลงทุน ซึ่งเป็นกลุ่มทุนขนาดใหญ่ เราจะต้องปฏิรูปในเรื่องนี้ รวมถึงต้องยกเลิกทุนผูกขาดและนำแนวทางเก็บภาษีที่ดินที่มีประสิทธิภาพมาดำเนินการ เพราะในปัจจุบันมีที่ดินว่างเปล่าที่กระจุกอยู่ในมือนายทุนเป็นจำนวนมาก

โดยตนเห็นว่า สิ่งที่จำเป็นเร่งด่วนในเมืองไทยคือ รถไฟฟ้ารางคู่ ทำรางคู่ให้สมบูรณ์ เชื่อมโยงเมืองย่อยๆ ทำให้การคมนาคมทางรถไฟเป็นโหมดหลัก กลายเป็นกระดูกสันหลังของประเทศ และไม่ต้องทำรถไฟความเร็วสูง แต่ข้ามไปยังการสร้าง ไฮเปอร์ลูป (Hyperloop) เลย

ส่วน นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ เสนอว่า ให้ประเทศไทยเป็น ดิวตี้ฟรี คันทรี ประกาศให้เป็นประเทศปลอดภาษีที่ใหญ่อันดับ 1 ของโลก ส่วนเขตอุตสาหกรรมต่างๆ ให้ไปสร้างที่ชายแดน เพราะเมื่อถัวเฉลี่ยแล้ว ค่าแรงจะต่ำลง สามารถดึงดูดนักลงทุนได้

นายอุตตม สาวนายน กล่าวว่า โครงการใหญ่ๆ อย่าง EEC หลักการก็คือ รัฐไม่ลงทุน 100 % เราส่งเสริมให้เอกชนมาลงทุน และสนับสนุนส่งเสริมธุรกิจที่เกี่ยวกับการค้าออนไลน์ ธุรกิจที่ใช้ดิจิทัล อย่างเรื่องภาษีออนไลน์ จะเก็บเฉพาะบริษัทต่างชาติ แต่คนไทยไม่เก็บ และจะลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาลง

ความคิดเห็นเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี 

ส่วนคำถามสุดท้ายก็คือ แต่ละพรรคมีความคิดเห็นอย่างไร กับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เป็นแนวคิดที่มีปัญหา เพราะปัจจุบันโลกเปลี่ยนเร็วมาก อีกทั้งยังไม่มีความยืดหยุ่น ในแง่ตัวกฎหมายก็มีปัญหา เพราะระบุไว้กว้างมาก จนกระทั่งสามารถเอาผิดทุกคนได้ หรือทำให้ถูกก็ได้ ซึ่งมันขึ้นกับการตีความ

ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติมี 6 ด้าน และแนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ก็สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติทุกด้าน แต่ปัญหาก็คือ ระยะเวลายาวไป เพราะคนเราไม่มีความสามารถที่จะมองเห็นอนาคตไกลๆ ถึง 20 ปี อีกทั้งเราก็มีแผนของสภาพัฒน์อยู่แล้วทุกๆ 5 ปี อย่างไรก็ตาม ตนเห็นว่าการมีแผนยุทธศาสตร์ ถือเป็นสิ่งที่ดี แต่ต้องปรับระยะเวลาลงมา

ส่วน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี มีคณะกรรมการ 17 คน คือผู้นำเหล่าทัพ กลุ่มทุน กลุ่มคนที่ใกล้ชิดกับคณะรัฐประหารชุดนี้

ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ยุทธศาสตร์ชาติเขียนไว้ว่าอย่างไร แต่ปัญหาอยู่ที่คณะกรรมการมีสิทธิ์ชี้ขาดว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทำผิด แล้วส่งไปให้ ปปช.ลงโทษทางกฎหมาย ซึ่ง ปปช.ก็ตั้งมาโดย คสช. เท่ากับคณะกรรมการ 17 คน มีอำนาจเหนือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง ที่มาจากคน 50 ล้านคน

นายอุตตม สาวนายน กล่าวว่า เจตนารมณ์ของยุทธศาสตร์ชาติก็คือ ให้ประเทศมีทิศทางที่จะเดิน ประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มียุทธศาสตร์ชาติทั้งนั้น แล้ว พรบ.ก็เปิดไว้ ตรงไหนที่สภาไม่เห็นชอบ ก็สามารถแก้ได้

นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ กล่าวว่า ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี นานเกินไป โลกเปลี่ยนเร็ว ถ้าเราตามไม่ทัน เราจะต้องตกยุค และเราก็จะหลุดโลก