“สนธิรัตน์” หวังปักธงพลังประชารัฐ กทม. แก้ปัญหาช่องว่างพรรคการเมืองเดิม

สนธิรัตน์ ลงหาเสียงตลาดวัดหนองแขม หวังสร้างภาพลักษณ์ใหม่บางบอน ชี้ลงหลายพื้นที่กรุงเทพฯ มีปัญหาเชื่อมต่อแกนนำชุมชนกับพรรคการเมือง ขออาสานำพรรคพลังประชารัฐมาอุดช่องว่าง แย้มโค้งสุดท้ายพรรคมีไม้เด็ดปล่อยเรียกคะแนนต่อเนื่อง ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ คาดมาช่วยหาเสียงแน่รอชัดเจนอีก 1-2 วัน

วันที่ 3 มี.ค. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายวัชระ กรรณิการ์ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. เขต 26 บางบอน-หนองแขม (เฉพาะแขวงหนองแขม) พรรคพลังประชารัฐ พร้อมทีมงานลงพื้นที่หาเสียงที่ตลาดวัดหนองแขม เขตหนองแขม กทม. โดยนายสนธิรัตน์ได้ร่วมกินข้าวต้มกับแกนนำชุมชนในพื้นที่พร้อมรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะเพื่อนำไปจัดทำนโยบาย นอกจากนี้ชาวบ้านที่เป็นชาวสวนผลไม้ได้นำมะม่วงพันธุ์ “ขาวนิยม” ผลไม้ซึ่งเป็นของดีเขตบางบอนมามอบให้กับนายสนธิรัตน์ เพื่อให้ช่วยโปรโมททำการตลาดสร้างมูลค่ามากยิ่งขึ้นด้วย

นายสนธิรัตน์ ให้สัมภาษณ์ถึงการหาเสียงในพื้นที่ กทม. ว่า พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายทำ กทม.ให้ดีขึ้น ยกระดับความเจริญให้กับ กทม. ทุกเขต การลงพื้นที่ต่าง ๆ พบว่า ยังขาดการเชื่อมโยงระหว่างแกนนำชุมชนกับพรรคการเมืองเพื่อนำปัญหาไปยังภาครัฐแก้ไขปัญหาให้กับชุมชน ซึ่งจากการลงพื้นที่ในเขตบางบอน-หนองแขม และได้พูดคุยกับแกนนำชุมชนพบว่า พื้นที่นี้ยังมีปัญหาน้ำเสีย น้ำท่วมขัง ปัญหายาเสพติดที่ระบาดในชุมชน ตนจึงได้ขอร้องผู้นำชุมชนสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐเพื่อเป็นตัวเชื่อมโยงแก้ปัญหาให้กับคนในพื้นที่ ทั้งนี้นายวัชระ ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคในเขตนี้ทำงานหนักมาก แม้พื้นที่นี้จะทำงานยาก แต่นายวัชระเดินเข้าหาประชาชน และเสียงตอบรับดีมาก เพราะประชาชนอยากเห็นการเปลี่ยนแปลง เชื่อว่านายวัชระจะเป็นความหวังใหม่ของเขตนี้

เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายจะปรับเปลี่ยนเขตบางบอนจากเมืองนักเลงเป็นเมืองแห่งการเพิ่มรายได้อย่างไร นายสนธิรัตน์ ตอบว่า “เป็นความรู้สึกของชาวบ้านที่ไม่อยากให้คนมองว่าพื้นที่แถวบางบอน แถวหนองแขม เป็นพื้นที่อิทธิพล เหล่านี้เป็นเสียงสะท้อนของชาวบ้าน ผมให้กำลังใจและบอกชาวบ้านว่า ผมเชื่อมั่นว่าไม่ได้เป็นอย่างนั้น เราต้องช่วยกันเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ไม่ให้เป็นแบบเดิมได้อย่างไร”

เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวด้วยว่า 3 สัปดาห์สุดท้ายขอให้จับตา พรรคพลังประชารัฐจะมีไม้เด็ดอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ในฐานะบุคคลที่พรรคเสนอชื่อเป็นนายกฯ มาช่วยหาเสียงนั้น คาดว่าจะมีความชัดเจนใน 1-2 วันนี้ เนื่องจากพรรคมียุทธศาสตร์และแผนการปราศรัยหาเสียงอยู่ซึ่งต้องปรับให้สอดคล้องและตรงตามเวลาของท่านนายกรัฐมนตรีด้วย