“หนูนา กัญจนา” ปราศรัยดุเดือด ย้อนอดีต “พ่อบรรหาร” ถูกประชาธิปัตย์อภิปรายไม่ไว้วางใจจนสร้างความเจ็บปวดให้กับครอบครัว แต่ยังสามารถก้าวข้ามความขัดแย้งร่วมเป็นรัฐบาลกันได้ ชูนโยบาย “ปรองดอง” ไม่กั๊กอยากเป็นรัฐบาลมากกว่าฝ่ายค้าน
ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 6 มี.ค. น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวปราศรัยตอนหนึ่ง ว่า โครงการลุ่มน้ำปากพนังเกิดขึ้นในสมัยที่ นายบรรหาร ศิลปอาชา เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2538 ซึ่งในช่วงนั้นพ่อบรรหาร เดินทางมาที่จังหวัดนครศรีธรรมราชทุกเดือน เพื่อตรวจเยี่ยมงานซึ่งถือว่าเป็นความผูกพันอย่างยิ่ง

กัญจนา ศิลปอาชา (หนูนา)
พรรคชาติไทยพัฒนาไม่ใช่พรรคใหญ่ เป็นพรรคการเมืองที่ขนาดกำลังดี คือทำงานได้ไม่สลับซับซ้อน มีผู้สมัครและกรรมการบริหารพรรค ที่สามารถลงพื้นที่ไปสอบถามปัญหาจากประชาชน อย่างไรก็ตาม มักจะมีคนพูดว่า พรรคชาติไทยพัฒนาจ้องแต่จะเป็นรัฐบาล ก็ต้องถามกลับไปว่า พรรคการเมืองพรรคไหนที่อาสามาทำงานแล้วไม่อยากเป็นรัฐบาลบ้าง เพราะการเป็นรัฐบาลสามารถนำนโยบาย มาสานต่อเป็นรูปธรรมให้กับประชาชน
พรรคชาติไทยจนมาถึงพรรคชาติไทยพัฒนา เราเคยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมาแล้วถึง 2 ครั้ง คือในสมัยที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะะวัน เป็นนายกรัฐมนตรีและสมัยของนายบรรหาร เมื่อปี 2538 อีกทั้งเราเคยเป็นฝ่ายค้านและพรรคร่วมรัฐบาลเราก็เคยเป็น ตนต้องการสื่อว่า พรรคชาติไทยพัฒนาทำงานได้ทุกสถานะ แต่ถ้าเป็นรัฐบาลเราสามารถตอบสนองปัญหาให้กับประชาชนได้มากกว่าการเป็นฝ่ายค้าน
ในอดีตหากทุกคนยังจำกันได้ สมัยที่นายบรรหาร เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น ได้ถูกฝ่ายค้านคือพรรคประชาธิปัตย์ในสมัยนั้นอภิปรายไม่ไว้วางใจอย่างรุนแรง ที่สุดในประวัติศาสตร์ครั้งหนึ่งของประเทศไทย กล่าวหาว่า พ่อบรรหารเกิดในประเทศจีน อภิปรายจนกระทั่งพ่อบรรหารถึงกับกลับไปถามคุณย่าที่บ้านว่า ตัวเองเกิดที่ประเทศจีนจริงอย่างที่ถูกอภิปรายหรือไม่ ซึ่งคุณย่าก็ได้ตอบและยืนยันว่า “อาตี๋ เอ็งเกิดที่สุพรรณบุรี” ซึ่งครั้งนั้นเป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ทำให้นายบรรหารเกิดความสับสนเสียเอง สร้างความเจ็บปวดให้กับครอบครัวเป็นอย่างมาก

(วราวุธ ศิลปอาชา)
แต่ต่อมาพรรคการเมืองที่ต้องการเป็นนายกรัฐมนตรีอย่างสบายๆ ได้มาต่อรองให้ลาออกภายใน 3 วัน แต่นายบรรหารได้ขอเวลา 7 วัน และในที่สุดก็ได้ประกาศยุบสภา ทำให้มีการล้างไพ่แล้วเลือกตั้งใหม่ ในสมัยต่อมาทางพรรคประชาธิปัตย์ก็ได้มาขอให้พรรคชาติไทยเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งนายบรรหารก็ได้บอกกับครอบครัวว่า ขอให้ลืมความขุ่นข้องหมองใจ เพราะหากพรรคชาติไทยไม่เข้าร่วมรัฐบาลประเทศชาติก็จะเดินหน้าต่อไปไม่ได้ ดังนั้นที่กล่าวมาทั้งหมดต้องการชี้ให้เห็นว่า ชาติไทยพัฒนาสามารถก้าวข้ามความขัดแย้งเพื่อให้ประเทศเดินหน้าไปได้
ทั้งนี้ นโยบายสำคัญของนายบรรหาร คือ ความปรองดอง ก้าวข้ามความขัดแย้งในประเทศ ซึ่งเป็นคำของนายบรรหารเองพูดไว้ตั้งแต่ปี 2554 และจนถึงปัจจุบันยังเป็นนโยบายหลักของพรรคชาติไทยพัฒนา ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาไม่เคยนำความขัดแย้งมาอยู่ในอารมณ์ เราต้องการก้าวข้ามความขัดแย้งไปสู่การพัฒนาประเทศ
น.ส.กัญจนา ยังกล่าวขอบคุณชาวนครศรีธรรมราชที่มาร่วมฟังการปราศรัยหาเสียงของพรรคชาติไทยพัฒนา แม้จะทราบว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติ (รปช.) ได้เปิดปราศรัยอยู่เวทีที่ไม่ห่างกันมากนัก