Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

พลังประชารัฐ ประกาศนโยบายแก้จนเริ่มจากพักหนี้ ระหว่างนั้นถ้าเศรษฐกิจดียกให้เลยไม่ต้องใช้คืน อัดเงินเข้าสู่ระบบผ่านการการันตีราคาสินค้าเกษตร สร้างงานตั้งโรงงานในพื้นที่ พร้อมเติมเงินบัตรประชารัฐและสวัสดิการอื่นๆ

วันที่ 7 มี.ค.แกนนำพรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์ภาคอีสาน, นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง ลงพื้นที่ จ.นครราชสีมา เพื่อช่วยนายบุญจง วงศ์ไรรัตน์ ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 9 หาเสียง โดยร่วมขึ้นเวทีปราศรัยที่โรงเรียนบ้านหนองตะไก้ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา

โดยนายสุริยะ ปราศรัยตอนหนึ่งถึงนโยบายที่พรรคพลังประชาชนจะทำให้ประชาชนหากได้รับเลือกเป็นรัฐบาล ได้แก่ แก้ปัญหาหนี้สินให้กับประชาชน จากการกู้เงินในกองทุนหมู่บ้าน ด้วยนโยบายพักหนี้ดอกเบี้ยกองทุนหมู่บ้านเวลา 3 ปี และระหว่างพักหนี้รัฐบาลจะจ่ายดอกเบี้ยแทนประชาชน ทั้งนี้ช่วงทำโครงการพักหนี้ ขุนพลเศรษฐกิจของพรรคจะพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้ดีขึ้น และจะยกเลิกหนี้ให้ประชาชนในที่สุด ทั้งนี้หากพรรคพลังประชารัฐได้เป็นรัฐบาล จะมีกองทุนกองทุนพลังประชารัฐ หมู่บ้านละ 2 ล้านบาท แทนกองทุนหมู่บ้าน เพื่อให้ประชาชนกู้เงินส่งลูกหลานเรียนต่อ และค้าขายเล็กๆ น้อยๆในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจ

นายสุริยะ กล่าวด้วยว่าสำหรับนโยบายเพื่อช่วยเหลือเกษตกร ผ่านการันตีราคา เช่น มันสำปะหลัง ราคาไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 3 บาท ขณะที่การยกระดับคุณภาพชีวิต ผ่านการจ้างงานในพื้นที่ พรรคเตรียมตั้งโรงงานในพื้นที่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา เพื่อสร้างงานให้ประชาชนในพื้นที่  ขณะที่โครงการบัตรประชารัฐจะทำต่อเนื่อง แม้มีเสียงท้วงติงแต่ตนไม่สนใจ หากพรรคพลังประชารัฐเข้ามาเป็นรัฐบาลจะเติมเงินคนที่ถือบัตรประชารัฐให้แน่นอน ขณะที่ผู้ที่ยังไม่ได้บัตรจะพิจารณาให้เพิ่มเติมตามเงื่อนไขที่กำหนด นอกจากนั้นนโยบายมารดาประชารัฐยืนยันทำได้แน่นอน โดยผู้มีบุตร 1 คนจะได้รับเงินรายเดือนตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนคลอด รวมแล้วเป็นเงิน 1.8 แสนบาทต่อบุตร 1 คน หากท้องลูกแฝดจะได้รับเงินอุดหนุนเป็น 2 เท่า

ขณะที่นายอนุชา ขึ้นปราศรัยว่าตนรู้ถึงหัวใจของประชาชนส่วนใหญ่ และชาวนาของประเทศที่ลำบาก เพราะเป็นหนี้ ไม่ว่าผ่านมากี่รัฐบาลไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทุกวันนี้มีแต่คนพูดถึงการสืบทอดอำนาจแต่ไม่เคยพูดถึงความกินดีอยู่ดี และการปลดหนี้ให้ประชาชน ทั้งที่เงินบาทแรกที่หมุนเวียนและเป็นเส้นเลือดใหญ่ของระบบเศรษฐกิจในประเทศ คือ เงินของเกษตรกร ดังนั้นสิ่งที่พรรคพลังประชารัฐตกผลึกเพื่อช่วยแก้ปัญหา คือ เริ่มจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อให้ประชาชนอยู่ได้ ต่อจากนั้นคือ การการันตีราคาพืชผล และเติมเงินให้เกษตรกร โดยราคาอ้อยต้องไม่ต่ำกว่า 1,200 บาท และ ราคายาง ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 65 บาท, การันตีราคาข้าว 2,000 บาทต่อไร่ ไม่เกิน 20ไร่ ขณะที่การปลูกข้าว จะเติมเงินให้ 1,500 บาทต่อไร่

“พวกเราตั้งใจ และสู้ตาย เพื่อทำงานให้ประชาชนทั้งประเทศหายจากความยากจน เราจะไม่เข้าสู่การเมืองเพื่อแสวงหาอำนาจ หรือสร้างความขัดแย้งแตกแยกทางการเมือง พรรคพลังประชารัฐมีคนเก่งที่อาสาทำงานเพื่อประชาชนในสภาผู้แทนราษฎร คือ ท่านบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ซึ่งท่านบุญจงเป็นผู้มีจิตใจดี และทำงานเพื่อประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง” นายอนุชา กล่าว

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า