“กราบรองเท้า” ยัน “ตบแก้วหูทะลุ” รวมวีรกรรมครูลงโทษนักเรียนเกินกว่าเหตุ

มีเคสไหนกันบ้าง ที่นักเรียนไทยถูกครูลงโทษเกินกว่าเหตุ

ผอ.ตบบ้องหู เด็กพิเศษชั้น ป.5 จนแก้วหูทะลุ เพราะอาการกำเริบควบคุมตัวเองไม่ได้

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนอนุบาลฮ่องลี่ (ค่ายเม็งรายมหาราชอุปถัมภ์) จ.เชียงราย โดยในวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีการทะเลาะวิวาทกันระหว่าง น้องแบงค์ (นามสมมติ) ซึ่งเป็นเด็กพิเศษและเพื่อน ครูจึงห้ามและให้ขอโทษกัน ก่อนจบกันไป

แต่วันต่อมา ครูได้นำเรื่องราวไปเล่าผ่านเครื่องกระจายเสียงของโรงเรียน โดยให้น้องแบงค์ขึ้นไปพูดเพียงลำพัง ทำให้น้องแบงค์อายจนคุมตัวเองไม่ได้ วิ่งไปหาครูเเละกรีดร้อง จนผอ.เข้ามาจับมัดมือ และให้ครูประจำชั้นโทรหาแม่ ซึ่งจังหวะที่แม่มาถึง ก็เห็นภาพที่ ผอ.กำลังฉุดกระชากน้องแบงค์ เเละใช้มือตบเข้าไปที่หูข้างขวาอย่างเเรง แม่จึงรีบเข้าไปกอด และน้องแบงค์ก็ได้บอกกับแม่ว่าหูไม่ได้ยินเเล้ว

คุณแม่ของน้องแบงค์ เล่าว่า หลังจากนั้นได้พาลูกไปหาหมอ โดยหมอตรวจเช็คอาการพร้อมให้ใบรับรองเเพทย์ระบุว่า เเก้วหูทะลุจากการกระทบกระเทือน ซึ่งหลังจากเหตุการณ์เกิดขึ้น ผอ. ได้เรียกแม่ไปพบเเละให้เซ็นใบย้ายลูกออกให้ไปเรียนที่อื่น โดยบังคับให้เหตุผลว่าย้ายตามผู้ปกครอง ซึ่งตนรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

คุณแม่ของน้องแบงค์ เล่าต่อว่า ลูกชายเป็นเด็กพิเศษ เมื่อถูกล้อหรืออยู่ในภาวะกดดัน จะมีอาการกำเริบ แสดงอารมณ์โกรธเเละโมโหจนคุมตัวเองไม่ได้ ซึ่งลูกต้องพบเเพทย์อย่างต่อเนื่องเเละทานยาทุกวัน แต่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ

ทางด้าน ผอ.ก็ยังยืนยันว่าไม่ได้ตบเด็ก แต่เป็นการควบคุมอารมณ์เด็กเท่านั้น โดยตำรวจได้เรียกทั้งสองฝ่ายไปไกล่เกลี่ย เเต่ไม่สามารถตกลงได้จึงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทางกฏหมาย

ครูเขียนป้ายทวงเงินค่าเทอม 700 บาท แปะเสื้อเด็กนักเรียน เหตุเพราะยังค้างชำระ ภายหลังโรงเรียนแจงว่า เป็นเงินบำรุงการศึกษาและบริการเสริมซึ่งไม่จ่ายก็ได้ เบื้องต้นได้สั่งย้ายครูคนดังกล่าวไปช่วยราชการที่กองการศึกษาเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์แล้ว

วันที่ 22 มิ.ย. 2561 สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่ภาพเด็กนักเรียนคนหนึ่งถูกครูติดป้ายสติ๊กเกอร์ใสที่ระบุว่า “ยังไม่ได้ชำระค่าเทอม 700 บาท” ไว้ที่หน้าอก จนเด็กถูกเพื่อนล้อ และไม่คุยด้วย โดยผู้ปกครองได้ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า “ขอโทษที่แม่ไม่ได้จ่ายให้ลูก แต่บางครอบครัวเขาก็มีความจำเป็นแตกต่างกันไป โปรดจงเข้าใจด้วย ณ วันที่โรงเรียนเรียกประชุม เมื่อประชุมเสร็จผู้ปกครองเดินขึ้นห้องไปรับเงิน วินาทีที่เห็นลูกคิดในใจทำไมลูกหน้าเศร้าๆ แล้วลูกก็ชี้ไปที่หน้าอก บอกแม่ว่า ไปจ่ายค่าเทอมให้หนูหน่อย หนูอายเพื่อนครับแม่”

ด้าน นางอริศรา พัฒนากูล รองผู้อำนวยการสถานศึกษา รักษาการผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล 1 จ.เพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ทำความเข้าใจกับผู้ปกครองเด็กเรียบร้อยแล้ว โดยเงินจำนวน 700 บาทนั้นไม่ใช่ค่าเทอม แต่เป็นเงินค่าบำรุงการศึกษาและบริการเสริม เช่น ค่าประกันชีวิตและค่าสอนพิเศษจากครูต่างชาติ หากผู้ปกครองไม่พร้อมก็ไม่จำเป็นต้องสมัครใช้บริการ ส่วนทางโรงเรียนได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงกับครูคนดังกล่าว

ทางด้าน นายเสกสรร นิยมเพ็ง นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ได้ออกคำสั่งให้ย้ายครูคนดังกล่าวมาช่วยราชการที่กองการศึกษาเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์แล้ว โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2561

มีกรณีครูไม่พอใจเพราะนักเรียนวางรองเท้าไม่เป็นระเบียบ จึงทำโทษด้วยการเอารองเท้าวางบนศีรษะและสั่งกราบรองเท้า 10 ครั้ง ก่อนให้คลานเข่าเข้าห้องเรียน เบื้องต้นสั่งย้ายครูคนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ สพม.เขต 29 ชั่วคราว

ช่วงปีก่อน โลกออนไลน์แชร์คลิปเหตุการณ์ขณะครูผู้หญิงท่านหนึ่ง กำลังต่อว่าเด็กนักเรียนชาย พร้อมทั้งหยิบรองเท้าของนักเรียนชายคนดังกล่าวขึ้นมาวางไว้บนศีรษะ ก่อนที่จะให้ก้มลงไปกราบรองเท้าที่พื้นอีก 10 ครั้ง ต่อหน้าเพื่อนที่ยืนดูอยู่จำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดที่ ร.ร.ทุ่งเทิงยิ่งพัฒนา อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี

ด้าน นายอดุลย์ กองทอง ผู้อำนวยการเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 29 เผยว่า ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในกรณีนี้ถึง 2 ชุด และได้พูดคุยกับ น.ส.วินัยจันทร์ รูปใหญ่ ครูคนดังกล่าวแล้ว ซึ่งก็ยอมรับว่าได้กระทำจริง แต่การกระทำดังกล่าวมีเจตนาเพียงต้องการให้นักเรียนได้รู้ระเบียบวินัยเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาอื่น โดยทางโรงเรียนได้ทำรายงานถึง สพม.เขต 29 และมีคำสั่งให้ครูคนดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ ที่ สพม.เขต 29 ชั่วคราว

โลกออนไลน์แชร์ภาพเด็กชายวัย 5 ขวบ ถูกครูทำโทษ ทั้งตี หยิก ต่อย และหักนิ้ว เนื่องจากทำการบ้านไม่เป็นและเอาของเล่นจากบ้านมาเล่นที่โรงเรียน

นางสุ (นามสมมติ) แม่วัย 34 ปี ชาว จ.ปทุมธานี ร้องต่อสื่อมวลชนว่า ลูกชายวัย 5 ขวบ ถูกครูสาวตี หยิก และต่อย จนเนื้อตัวเขียวช้ำ เนื่องจากทำการบ้านที่ครูสั่งไม่เป็น และยังถูกครูสาวอีกคนหักนิ้ว เนื่องจากเอาของเล่นจากที่บ้านไปเล่นในโรงเรียน ซึ่งภายหลังนางสุได้ไปสอบถามเหตุการณ์จากครูคนดังกล่าวแต่ก็ได้รับการปฎิเสธ ส่วนครูอีกคนยอมรับว่าหักนิ้วเด็กจริง

นางสุ กล่าวต่อว่า ตนไปแจ้งความแล้วพร้อมจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และจะย้ายให้ลูกชายไปเรียนที่อื่น เนื่องจากไม่ไว้วางใจครูคนนี้แล้ว ซึ่งตนคิดว่าการทำโทษเด็กเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ถ้าหากเด็กมีความผิด ดื้อ ซน สามารถทำโทษได้เลย แต่ไม่อยากให้ทำโทษเกินกว่าเหตุ โดยหลังจากที่สื่อนำเสนอข่าวออกไป ครูคนดังกล่าวจึงมาขอโทษพร้อมให้เงินค่ารักษาพยาบาลแล้ว

นักเรียนชั้น ม.2 ถูกครูถอดเสื้อชั้นใน และยึดไว้ทั้งวัน เหตุเพราะไม่ยอมใส่เสื้อทับ โดยทางโรงเรียนได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ซึ่งครูได้ยอมรับผิดว่าทำเกินกว่าเหตุจริง

หลังจากที่มีภาพนักเรียนหญิงถูกครูถอดและยึดเสื้อชั้นใน เนื่องจากไม่ใส่เสื้อทับมาเผยแพร่สู่โลกออนไลน์ นายสมศักดิ์ ทองเนียม ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) เขต 18 ก็ได้มีการเรียกประชุมคณะครูพร้อมผู้อำนวยการ โรงเรียนสุรศักดิ์วิทยาคม ต.สุรศักดิ์ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ให้ชี้แจ้งในกรณีนี้

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุ น.ส.ดานิตา เตชสิริ ครูชำนาญการพิเศษ ยอมรับว่าได้มีการลงโทษนักเรียนจริง ด้วยการให้นักเรียนหญิงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 3 คน ถอดเสื้อชั้นในแล้วยึดไว้ ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึง 14.30 น. เนื่องจากนักเรียนทั้ง 3 คน ไม่ยอมใส่เสื้อทับในมา ซึ่งน.ส.ดานิตา ก็ยอมรับผิดว่าทำเกินกว่าเหตุจริง พร้อมขอโทษผู้ปกครองและเด็กทั้ง 3 คน ว่าจะไม่มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

อย่างไรก็ตาม ทางโรงเรียนได้มีการตั้งคณะกรรมการสอบเพื่อหาบทลงโทษกับอาจารย์รายนี้แล้ว ส่วนทางด้านผู้ปกครองก็รู้สึกพอใจ และยอมรับคำตัดสินของทางโรงเรียน

นักเรียนชายชั้น ป.6 ถูกครูใช้ไม้เรียวตีหน้าและตามลำตัว เพราะเล่นตีกลองเสียงดัง ล่าสุดครูออกมาขอโทษแล้วพร้อมให้เงินทำขวัญ 3,000 บาท

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่โรงเรียนหนองบัว จ.สุโขทัย จากการสอบถามเด็กที่ถูกตี เล่าว่า ตนและเพื่อนรวม 5 คน ได้นำถาดหลุมที่ใส่อาหารมาตีเล่น พร้อมเคาะโต๊ะในลักษณะคล้ายตีกลองในช่วงพักกลางวัน ซึ่งเล่นกันได้สักพัก ครูคนดังกล่าวก็เดินมาและใช้ไม้เรียวที่ทำจากหวายมาตี จนทำให้ตนและเพื่อน 4 ใน 5 คน มีแผลตามที่ต่างๆ เช่น แผลแตกที่ใต้ตาซ้าย ยาวประมาณ 1 นิ้ว แผลถลอกที่แก้มซ้าย นิ้วโป้งขวาแตกที่บริเวณเล็บ และมีแผลถลอกที่ศีรษะ

ผู้ปกครองเผยว่า หลังเกิดเหตุ ครูคนดังกล่าวได้มาหาที่บ้าน พร้อมขอโทษและมอบเงินจำนวน 3,000 บาทให้เป็นค่าทำขวัญ ตนเห็นว่าครูสำนึกผิดแล้วจึงไม่ได้ติดใจเอาความ ซึ่งตนเข้าใจว่าลูกอาจจะเล่นสนุกและส่งเสียงดังเกินไป แต่ครูก็ไม่ควรตีเด็กในลักษณะเหมือนใช้อารมณ์ โดยตนได้พูดคุยและขอครูว่าอย่าทำอย่างนี้อีก

ด้าน นายพยอม วงษ์พูล ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุโขทัย เขต 1 กล่าวว่า ได้เรียกผู้อำนวยการโรงเรียน และครูผู้ก่อเหตุเข้ามาพบพร้อมแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย เพื่อดำเนินหาความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย