โค้งสุดท้าย เพื่อไทย ชูนโยบายฟื้นเศรษฐกิจ เย้ย รัฐบาลใช้เงินเก่ง แต่หาเงินไม่เป็น

โค้งสุดท้าย หาเสียงพรรคการเมือง พรรคเพื่อไทยชูนโยบายฟื้นเศรษฐกิจ ด้วยนักบริหารมืออาชีพ 

วันที่ 21 มี.ค. 62 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย เปิดนโยบายแก้วิกฤตเศรษฐกิจ โดยเน้นแนวทางการแก้ปัญหาเศรษฐกิจซบเซาในปัจจุบัน

คุณหญิงสุดารัตน์ ระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยอยู่รั้งท้ายในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะการศึกษา อย่างไรก็ตามขอให้ประชาชนเชื่อมั่นในผลงานทีมเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย ที่เคยพิสูจน์บริหารประเทศพ้นวิกฤตมาสมัยต้มยำกุ้ง ปี 2540

โดยแนวทาง พรรคมีนโยบายตอบโจทย์ โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่มีความสามารถ และพลังของพวกเขาจะสามารถขับเคลื่อนประเทศ ซึ่งต้องรื้อฟื้นแนวคิด SME ที่มีความไม่มั่นคงตลอด 5 ปีที่ผ่านมา โดยจะสร้างกองทุนผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ประสานกับมหาวิทยาลัยผ่านการสนับสนุนของภาครัฐสนับสนุน และให้ผ่อนคืนภาครัฐ เมื่อสามารถตั้งตัวมีความมั่นคงในชีวิต อีกทั้งต้องเตรียมพร้อมกับธุรกิจยุคใหม่ อาทิ การค้าออนไลน์

คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำว่า พรรคพร้อมเดินหน้าบริหารประเทศด้วยความสงบสุข บนพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดี ไม่สร้างความขัดแย้ง และรับฟังความเห็นต่าง แต่ขอให้ร่วมมือก้าวข้ามความขัดแย้ง โดยจะนำประสบการณ์ทางการเมืองตลอด 27 ปี มาบริหารประเทศ โดยตนจะจับมือกับนายชัชชาติ ร่วมกันสร้างฐานรากให้แข็งแรง

ส่วนนโยบายท่องเที่ยว เพื่อไทยจะเติมกำลังซื้อให้คนในประเทศ และจะปฏิรูปเรื่องการเกษตรและสุขภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น การศึกษาต้องเปิดทางให้เกิดความหลากหลาย ขณะที่ปัญหายาเสพติดก็ต้องหมดไปในประเทศ

ยืนยันว่า พรรคเพื่อไทยจะไม่ปล่อยให้ประเทศล้าหลังและสิ้นหวังอย่างห้าปีที่ผ่านมา ตัดโอกาสคนรุ่นใหม่ ที่จะใช้ศักยภาพตัวเองสร้างรายได้ รวมถึงโอกาสของประชาชนคนทั้งประเทศ เพราะรัฐบาลปัจจุบันตลอดห้าปีที่ผ่านมาใช้งบประมาณ 13 ล้านล้านบาท ล้มเหลวสะท้อนผ่านตัวเลขจีดีพี ทำให้เกิดภาวะรวยกระจุกจนกระจาย ใช้เงินเก่งแต่หาเงินไม่เป็น ยกตัวอย่างเช่น การขึ้นภาษีน้ำมัน ซึ่งสร้างผลกระทบต่อประชาชน ทำให้ค่าครองชีพสูงขึ้น อีกทั้งยังขูดรีดภาษีประชาชน หลังรัฐประหาร ทำให้หนี้เสียและหนี้คนไทยเพิ่มขึ้น

ดังนั้น เลือกเพื่อไทยอย่างถล่มทลาย เพื่อต่อสู้กับขบวนการสมคบคิด  มีฐาน ส.ว. 250 เสียง ที่ไม่ผ่านเสียงของประชาชนเพื่อไทยจะสร้างความสงบสุข ที่อยู่บนพื้นฐานเศรษฐกิจที่ดี และเคารพเสียงประชาชน ไม่สร้างความเกลียดชัง เดินหน้าหาพันธมิตรไม่ให้เกิดความขัดแย้ง

ด้านนายชัชชาติ ยกตัวอย่างหนังสือ  how democracies die ระบุปัจจุบันการเมืองทั่วโลกประชาธิปไตยตอนนี้เริ่มถดถอย โดยมีสองประเด็นหลักคือ ตายด้วยปืน และตายโดยคนที่อาศัยประชาธิปไตยเข้ามาสู่อำนาจ หรือเป็นเผด็จการ ซึ่งประเทศไทยก็เป็นหนึ่งในกลุ่มนี้

5 ปีที่ผ่านมา มีโครงการเกิดขึ้นหลายโครงการ แต่โดยส่วนตัวเห็นว่าประเทศเสียโอกาส เพราะไม่สามารถตรวจสอบความโปร่งใสได้ ซึ่งจะมีผลกระทบมากมายมหาศาลในอนาคต ทั้งผู้บริหารมืออาชีพ ต้องรู้สึกเป็นเจ้าของประเทศ ต้องมตรวจสอบความโปร่งใสได้ ต้องมีจุดยืนและมีผลงานเป็นรูปธรรม

ส่วนเรื่องธุรกิจด้านการขนส่ง ในอนาคตพรรคเพื่อไทยต้องทำให้กลุ่มคนเหล่านี้อยู่ร่วมกันได้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ กฎหมายบางข้อต้องถูกแก้ไข และต้องส่งเสริมโดยความยุติธรรม ขณะที่การศึกษา ต้องเปิดช่องทางให้ภาคเอกชนเข้าถึงการสร้างหลักสูตร ซึ่งในจุดนี้พรรคเพื่อไทย มีนโยบายสำหรับการพัฒนาประเด็นเหล่านี้ไว้อยู่แล้ว