Advertisement

SHARE

คัดลอกแล้ว

จับกระแสโซเชียล Influencer ทางการตลาด “ครูชัย” อธิบายเหตุผล “ทำไมพรรคเพื่อไทยเลือกตั้งชนะ แต่มีโอกาสน้อยมากที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาล”

ชัยพนธ์ ชวาลวณิชชัย “ครูชัย” ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์และแฟนเพจ Marketing in Black ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chaiyapon Chai Chawanwanitchai ในวันที่ 25 มี.ค. 62 เกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ หลังมีการประกาศผลเลือกตั้ง ส.ส.เขต 350 เขต อย่างไม่เป็นทางการจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้ว

โดยมีผู้ให้ความสนใจแชร์ข้อความดังกล่าวกว่า 2 หมื่นแชร์ ซึ่งสิ่งที่ “ครูชัย” เขียนมีมุมมองที่น่าสนใจ จากกรณีที่พรรคพลังประชารัฐที่มีจำนวนคะแนนรวมทั้งประเทศ หรือ ป๊อบปูล่าโหวต กับ พรรคเพื่อไทย ซึ่งมีจำนวน ส.ส.เขตมากกว่า ประกาศจัดตั้งรัฐบาลเช่นเดียวกัน ดังนี้

ทำไมพรรคเพื่อไทยเลือกตั้งชนะ
แต่มีโอกาสน้อยมากที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาล

1

ด้วยกติกาในรัฐธรรมนูญใหม่ฉบับนี้
เลยต้องแยกคุยกัน 2 เรื่อง
(ซึ่งผมพอเขียนไปบ้างแล้วอย่างละเอียดในโพสต์ก่อนหน้า)
เรื่องแรกคือการจัดตั้งรัฐบาล
เรื่องที่สองคือการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี
.

2
อธิบาย (อีกครั้ง) เรื่องการโหวตเรื่องนายกก่อน
สำหรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้
กำหนดให้ทั้งส.ส. และ ส.ว.
โหวตเลือกนายกฯร่วมกัน
โดยส.ส.มาจากการเลือกตั้งครั้งนี้ 500 คน
ส.ว. มาจากการสรรหาของคสช 250 คน
รวมกัน 750 คน คนที่จะได้เป็นนายกฯ ต้องได้เสียงเกินครึ่ง คือ 376 เสียง
.

3
ถ้าลุงตู่จะเป็นนายกฯ
มีเสียงส.ว.ตุนอยู่แล้ว 250 เสียง
จึงจำเป็นต้องหาเพิ่มแค่ 126 เสียง
ซึ่งตอนนี้มีแล้ว 117 เสียง
ซึ่งการเป็นนายกฯไม่ใช่เรื่องยากเย็น
โอกาสไปเกิน 95%แล้ว
.

4
แต่เหนือจากการได้เก้าอี้นายกฯ
คือการจัดตั้งรัฐบาล
ซึ่งต้องมีส.ส.ฝ่ายรัฐบาลเกินครึ่งหนึ่งของสส. ทั้งหมด
(ไม่เกี่ยวกับส.ว.แล้ว) นั่นคือทั้งหมด 500 คน
ครึ่งหนึ่งคือ 251 คน
.

5
เพราะนายกฯ และคณะรัฐมนตรี
จะต้องออกกฎหมาย จะต้องออกงบประมาณทั้งหมดผ่านสภาส.ส.
ถ้าโหวตแต่ละทีไม่เกินครึ่ง
แปลว่าเป็นนายกฯ ที่มีแค่ตำแหน่ง
ทำงานไม่ได้ เสนออะไรก็ไม่ผ่าน
คือทำงานอะไรไม่ได้เลย
.

6
ที่ร้ายแรงกว่าคือถ้าโดนอภิปรายไม่ไว้วางใจปุ๊บ
เกินครึ่งคือ 251 โหวตไม่ไว้วางใจปุ๊บ
หลุดตำแหน่งนายกทันที
.

7
ดังนั้นต่อให้มีส.ว.ทั้งหมดในมือ ได้เป็นนายกฯ แน่ๆ
แต่ไม่ได้เกี่ยวอะไรโดยตรงเลย
กับการรวมเสียงส.ส.ส่วนใหญ่ จัดตั้งรัฐบาลที่ต้องการเกิน 251 เสียง (ยิ่งเกินเท่าไหร่ยิ่งสบายใจ)
.

8
แต่ปัญหาคือ พรรคที่ประกาศเข้าข้างลุงตู่
มีน้อยเหลือเกิน จริงๆ เหมือนมีพรรคเดียวด้วยซ้ำ
คือพรรครวมพลังประชาชาติไทย ของลุงกำนัน
ซึ่งแพ้ส.ส.เขตรูดแบบหลุดลุ่ย ได้ทั้งหมดแค่ 5 เสียง
ซึ่งตอนนี้พรรคลุงตู่มี 117 เสียง
รวมกับพรรคลุงกำนัน 5 เสียง รวมเป็น 122 เสียง
ยังขาดอีกอย่างน้อย 129 เสียงถึงจะเกินครึ่ง
.

9
พรรคที่ประกาศเป็นกลาง
พร้อมเข้าร่วมกับพรรคที่ได้เป็นรัฐบาล
คือพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ชาติไทยพัฒนา
ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์มี 54 เสียง
ภูมิใจไทย 51 เสียง
ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง
ถ้าทั้ง 3 พรรคนี้โอหมด จะได้บวกเพิ่ม 115 เสียง
รวมเป็น 237 เสียง
ซึ่งยังไม่พออยู่ดี
.

10
และใช่ว่า 3 พรรคนี้จะเข้าร่วมแน่นอนซะเมื่อไหร่
ต้องเจรจาต่อรองกันหนักหน่วงแน่นอน
เห็นไหมครับว่าลุงตู่จะจัดตั้งรัฐบาลไม่ง่ายเลย
.

11
แต่ลุงตู่ว่าไม่ง่ายแล้ว
ทางฝั่งเพื่อไทยกลับยากกว่ามาก
แม้เป็นผู้ชนะอันดับหนึ่ง
.

12
ตอนนี้พรรคเพื่อไทย รวมกับพรรคที่ไม่เอาลุงตู่
เพื่อไทย 135
อนาคตใหม่ 86
เสรีรวมไทย 11
เศรษฐกิจใหม่ 6
ประชาชาติ 6
เพื่อชาติ 5
รวม 249 เสียงแค่นั้น
ก็ยังไม่พอที่จะตั้งรัฐบาล
.

13
แต่ที่ยากกว่ารัฐบาล คือโหวตเลือกนายกฯ
ที่ต้องเอาชนะ ส.ว.250 คน
คือต้องรวมเสียงให้ได้เกิน 376 เสียง (ใครงงย้อนกลับไปอ่านข้อหนึ่ง)
ซึ่งตอนนี้ฝั่งไม่เอาลุงตู่ขาดอีก 127 เสียง
.

14
ซึ่งต่อให้ทั้ง 3 พรรคที่เป็นกลาง
คือประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนาเข้าร่วมทั้งหมด ก็จะได้มาอีก 115 เสียง ก็ยังไม่พออยู่ดี
.

15
สิ่งดีที่สุดเท่าที่ฝั่งไม่เอาลุงตู่จะทำได้
คือรวมเสียงส.ส.ให้มากที่สุด
แล้วใช้สังคมไปกดดันส.ว.ให้เสียงแตกแทน
.

16
พรรคเพื่อไทยในฐานะพรรคได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง
มีธรรมเนียมและมารยาททางการเมือง
ที่จะได้ลองเจรจารวมเสียงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลก่อน
.

17
แต่คุณอุตตม หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
อ้างว่าเขานับกันที่เสียงประชาชน
ไม่ใช่เสียงส.ส. ซึ่งพลังประชารัฐได้เสียงประชาชนสูงสุด
เลยมีสิทธิติดต่อเจรจาก่อนเช่นกัน
.

18
เลยกลายเป็นว่า
ไม่รู้ใครเสียมารยาททางการเมือง
ทั้งสองพรรค คือเพื่อไทยและพลังประชารัฐ
ตอนนี้เริ่มยกหูโทรศัพท์แล้ว
.

19
แต่คนที่แสดงสปิริต และแสดงความเป็นสุภาพบุรุษทางการเมืองคือคุณธนาธร พรรคอนาคตใหม่
บอกเคารพพรรคที่ได้คะแนนเสียงอันดับหนึ่ง
และพรรคนั้นควรได้เสนอชื่อนายกฯ
พรรคอนาคตใหม่ จะไม่เสนอชื่อตัวเองเป็นนายกฯ
.

20
จริงๆการที่อนาคตใหม่มีเสียงเป็นอันดับสาม
ด้วย ส.ส.ถึง 86 ที่นั่ง
มีอำนาจต่อรองตำแหน่งนายกฯได้สบายๆ
แต่กลับไม่ใช่จังหวะนี้ในการฉวยจังหวะ
.

21
คนที่ถูกจับตาเลยกลายเป็นพรรคภูมิใจไทย
ที่มีเสียงเข้ามาเป็นอันดับ 5 ที่ 51 ที่นั่ง
มีเสียงเม้าท์มอยว่า มีโอกาสเจรจาต่อรองถึงนายกฯเลย
ส่วนประชาธิปัตย์แม้มี 54 ที่นั่ง
แต่ตอนนี้ไร้หัวหน้าพรรค
เลยไม่มีแคนดิเดตนายกไปเลย ณ ขณะนี้
.

22
วันนี้แถลงการณ์ของคุณหญิงหน่อย
ตอบคลุมเครือเรื่องนายกฯต้องมาจากเพื่อไทยไหม
นั่นแปลว่าอะไรก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
.

23
แต่เรื่องจริงคือ ลุงตู่มีส.ว.ในมือ มีโอกาสเป็นนายกฯแน่ๆ
เมื่อเป็นนายกฯแน่ๆ เลยมีสิทธิตั้งรัฐมนตรีแน่ๆ
อำนาจต่อรองเลยสูงกว่ามาก
.

24
รวมทั้งพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ถูกกับเพื่อไทยมานาน
ยังไงท้ายที่สุดแล้ว เข้ากับลุงตู่แน่นอน
ทำให้สูตรส.ส. ของลุงตู่คือ
พรรคลุงตู่ 117
พรรคประชาธิปัตย์ 54
พรรคลุงกำนัน 5
รวมเป็น 176 แล้ว
.

25
ถ้าสูตรนี้เป็นไปได้ นั่นแปลว่าเหลือสส.ในสภา
500 – 176 = 324 คน
ต่อให้คุญหญิงหน่อยรวมได้ทั้งหมด (ซึ่งยากมาก)
ก็ไม่พอที่จะโหวตนายกฯ ตอนมีส.ว.มาร่วมโหวตด้วย
ที่ต้องการ 376 เสียงได้
.

26
ดังนั้นยากเหลือเกินที่ฝั่งไม่เอาลุงตู่จะได้เป็นรัฐบาล
ถามว่าเป็นไปได้ไหม
คำตอบคือได้ แต่ต้องมีปาฏิหาริย์เท่านั้น
ที่คุณชัชชาติ คุณธนาธร พลเอกเสรีพิสุทธิ์ ลุงมิ่ง
จะได้เป็นรัฐบาล เพราะหนทางริบหรี่เหลือเกิน
.

27
ปาฏิหาริย์ที่เกิดขึ้นได้คือ
ฝั่งไม่เอาลุงตู่ รวมเสียงภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนาได้ รวมถึงพรรคเล็กพรรคน้อยอื่นๆ ได้ 300 เสียงขึ้นไป
ถ้าเป็นการเลือกตั้งครั้งอื่นๆ
ถือว่าชอบธรรมที่สุดแห่งการเป็นรัฐบาลแล้ว
ซึ่งจะอาศัยความชอบธรรมนี้กดดันส.ว.ต่อไป
และหวังปาฏิหาริย์ว่าจะกดดันได้
.

28
จริงๆทุกอย่างจะง่ายและsimpleกว่านี้
ถ้าไม่มีสว.มาเกี่ยวในการโหวตนายก
เหมือนทุกๆครั้งของการเลือกตั้งที่เคยเป็นมา
.

29
แต่ถ้าไม่มีส่วนสว.
ฝั่งลุงตู่ก็แทบจะหมดลุ้นไปแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตามตัวเลขในภาพนี้
เป็นตัวเลขไม่เป็นทางการ และนับไปแล้ว 94%
อาจมีขยับนิดหน่อยภายหลังได้
แต่คงไม่มากขนาดเปลี่ยนแปลงอะไรได้
.

30
สุดท้ายแล้ว ถ้าเกิดรัฐบาลขึ้นจริง
โอกาสที่เป็นไปได้มากที่สุด
ก็เป็นฝั่งลุงตู่เนี่ยแหละที่จะได้เป็น
ผมว่าฝั่งเพื่อไทยก็รู้ดี แต่ต้องการเล่นเกมจิตวิทยา
ตัดกำลังสส.ฝั่งรัฐบาลให้เหลือน้อยที่สุด
เพื่อสุดท้ายไปเล่นงานในสภา
ตอนยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจแทน
.

อย่างไรก็ตาม สำหรับการเมืองที่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร และในรอบ 20 ปี ตั้งแต่ยุคคุณทักษิณเป็นต้นมา
ไม่เคยมีครั้งไหนที่คะแนนขี่คอกันขนาดนี้
.

การจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้
จึงเป็นการวัดสกิลการล๊อบบี้
วัดการเจรจาต่อรองผลประโยชน์
วัดไหวพริบทางการเมือง
ชิงเล่ห์ชิงเหลี่ยม หักเหลี่ยมเฉือนคม
ที่มันส์และเดือดที่สุดครั้งหนึ่งของประวัติศาสตร์การเมืองไทย!

#ครูชัย

 

ขอบคุณที่มาและภาพ FB : Chaiyapon Chai Chawanwanitchai

podcast

LATEST
OUR PICKS
HOT
กำลังโหลดบทความถัดไป...

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้ และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อการวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้
    รายละเอียดคุกกี้

  • คุกกี้เพื่อปรับเนื้อหาให้เข้ากับกลุ่มเป้าหมาย

    คุกกี้ประเภทนี้จะเก็บข้อมูลต่าง ๆ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับตัวคุณเพื่อเราสามารถนำมาวิเคราะห์ และนำเสนอเนื้อหา ให้ตรงกับความเหมาะสมกับความสนใจของคุณ ถ้าหากคุณไม่ยินยอมเราจะไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาได้ไม่ตรงกับความสนใจของคุณ
    รายละเอียดคุกกี้

บันทึกการตั้งค่า